อินโดนีเซียคลั่งไคล้การเลี้ยงนกฮูกเป็นสัตว์เลี้ยงจากวรรณกรรมยอดนิยม Harry Potter แต่เกษตรกรอินโดนีเซียกลับเล็งเห็นศักยภาพของนกฮูกในฐานะนักล่าศัตรูพืชตัวฉกาจ มากกว่าสัตว์เลี้ยงในบ้าน
เวทมนตร์ของพ่อมดน้อยแฮร์รี่ พอตเตอร์ และความฉลาดของ “เฮดวิก” นกฮูกคู่ใจ จากปลายปากกาของ เจ. เค. โรลลิ่ง ทำให้ชาวอินโดนีเซียลดความหวาดกลัวนกฮูกที่เคยถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่นำพาโชคร้ายและสิ่งน่ากลัวมาให้ และปลุกกระแสความนิยมเลี้ยงนกฮูกเป็นสัตว์เลี้ยง จนร้านค้าท้องถิ่นทั่วอินโดนีเซีย มีนกฮูกพันธุ์ต่างๆ วางขายเหมือนกับสัตว์เลี้ยงทั่วไป
ทั้งที่จริงๆแล้ว สัญชาตญาณของนกฮูกนั้น คือ สัตว์ป่าที่มีความก้าวร้าวดุร้ายและอาจจะดูแลหรือเลี้ยงได้ยาก
Pujo Arto เจ้าของโครงการ Natural Predator หรือการใช้สัตว์ล่าเหยื่อ เพื่อควบคุมสัตว์ศัตรูพืชตามธรรมชาติ มองเห็นศักยภาพของนกฮูกที่เหนือกว่าการเป็นสัตว์เลี้ยงในกรง
โครงการ Natural Predator ริเริ่มการสร้างรังนกฮูกในหมู่บ้าน Tlogoweru เมื่อ 6 ปีก่อน และเลี้ยงลูกนกฮูกก่อนที่จะปล่อยสู่ธรรมชาติ เพื่อให้เป็นนักล่าศัตรูพืชประเภทหนู ที่จะเข้าไปกัดกินผลผลิตทางการเกษตร จากที่แต่เดิมเกษตรกรอินโดนีเซียต้องพึ่งพาสารเคมีและเผาพื้นที่การเกษตรเพื่อกำจัดศัตรูพืช ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ยั่งยืน
Arto บอกว่า เขาเริ่มปลูกฝังความคิดของคนในหมู่บ้านให้สร้างบ้านนกเล็กๆ สำหรับนกฮูก ควบคู่ไปกับฝั่งรัฐบาลอินโดนีเซียที่กำลังผลักดันการอนุรักษ์นกฮูกให้เป็นตัวบทกฏหมายในอนาคต
โครงการ Natural Predator ของ Arto สร้างรังนกฮูกจำนวนมากไว้ในหมู่บ้าน Tlogoweru เพื่อเป็นสถานอนุบาลลูกนกฮูกเป็นเวลาประมาณ 4 เดือน ฝึกฝนให้เป็นนักล่าตามธรรมชาติ ก่อนปล่อยให้พวกมันออกไปผจญโลกเมื่อเติบโตเต็มวัย
ปัจจุบัน Arto ดูแลนกฮูกเพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติไปแล้ว 2 พันตัว และทำให้หมู่บ้าน Tlogoweru เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติยอดนิยมของอินโดนีเซีย หวังจะสร้างความเข้าใจให้กับชาวอินโดนีเซียว่า นกฮูกสมควรทำหน้าที่เป็นผู้ล่าและควบคุมสัตว์รบกวนพืชผลตามธรรมชาติมากกว่าถูกขังอยู่ในกรงเหมือนสัตว์เลี้ยงในบ้าน
http://rferl.c.goolara.net/Click.aspx?id=166098350108213178
แสดงความคิดเห็น