สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย กลายเป็นเรื่องใหญ่ในทางการเมืองที่สุดขณะนี้

หลายพื้นที่แทบจะทุกภาค ต้องประสบกับ “อุทกภัย” ครั้งใหญ่

หลายจังหวัดต้องจมน้ำ ต้องอยู่ในภาวะเมืองบาดาล ต่อเนื่องยาวนานเกินกว่าสัปดาห์

โดยเฉพาะพื้นที่ กทม. ซึ่งหลายคนเป็นห่วงอย่างมาก เพราะ ที่ผ่านมา ลำพังแค่ “น้ำฝน” ที่ตกบ้าง ไม่ตกบ้าง หน่วยงานที่รับผิดชอบยังไม่สามารถหาหนทางระบายน้ำให้ทันได้

จนกลายครั้ง กทม. ต้องตกอยู่ในภาวะอัมพาต จาก “น้ำรอการระบาย” อยู่เป็นประจำ

ครั้งล่าสุดก็ต่อเนื่องวันที่ 13-14-15 ตุลาคม ที่ผ่านมา วิกฤติ “น้ำรอระบาย” ในพื้นที่กรุงเทพฯ ศัพท์บัญญัติของผู้มีอำนาจยุค คสช. ก็ทำให้ กทม.ต้องตกอยู่ในภาวะเมืองบาดาล ข้ามวัน-ข้ามคืน กันเลยทีเดียว

แต่ในภาวะเช่นนี้ คงไม่ใช่เพียงแค่ปริมาณ “น้ำฝน” เท่านั้น ที่ คนกรุงฯ จะต้องสนใจศึกษา เพื่อเฝ้าระวังและติดตาม

ซึ่งล่าสุดหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต่างพยายามออกมาชี้แจงว่า ปริมาณที่เอ่อท่วมพื้นที่จังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จะไม่กระทบ กทม.

โดยล่าสุด พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า มั่นใจการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะ การควบคุมการระบายน้ำของเขื่อนต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบต่อลุ่มเจ้าพระยา ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมและรับมือปริมาณน้ำได้

พร้อมกับยืนยันว่าไม่กระทบกับ กทม.อย่างแน่นอน

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมจากเว็บไซด์กรมชลประทาน ซึ่งมีการเผยแพร่ข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นแผนที่ อัพเดทข้อมูล ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2560 น่าสนใจติดตาม ศึกษา คาดการณ์เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ จากแผนที่ดังกล่าว พบมีภาพพื้นที่ที่มีสัญลักษณ์สีฟ้า ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วม ในจังหวัดนครสวรรค์เรื่อยลงมาจนถึงพระนครศรีอยุธยา และปริมณฑล บางส่วน โดยเฉพาะในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าพื้นที่น้ำท่วมกระจายวงกว้างอย่างมาก


ติดตามแผนที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา พื้นที่น้ำท่วม ของกรมชลประทานเพื่อศึกษา คาดการณ์ เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วม ได้ที่ : http://floodinfo2.rid.go.th/floodforecast/index.php?lang=th

source ;-  http://www.hereandthere.today/?p=2642


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.