Posted: 27 May 2018 01:03 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)

รองโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และประธานคณะกรรมการอิสลาม จ.ปัตตานี ชี้แจงต่อกรณีข่าวลือว่าขอให้คนมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้ามเข้าเมือง-อย่าออกนอกบ้าน วันที่ 30 พ.ค. 2561 เพราะจะมีการก่อเหตุการณ์นั้น ขอประชาชนอย่าได้ใส่ใจและหวาดกลัว ขอให้มุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

27 พ.ค. 2561 ที่สำนักคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พันเอกธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมด้วยนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ได้ชี้แจงต่อกรณีที่มีบุคคลปล่อยข่าวลือว่าขอให้คนมุสลิม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ห้ามเข้าเมือง อย่าออกนอกบ้าน ในวันที่ 30 พ.ค. 2561 เพราะจะมีการก่อเหตุการณ์

จากกรณีดังกล่าวขอเรียนชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดังนี้ 1.จากภาพข่าวที่ปรากฏ เป็นความพยายามปล่อยข่าวลือเพื่อสร้างความสับสนและหวาดกลัวกับพี่น้องประชาชน สร้างความกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในมาตรการรักษาความปลอดภัย และอย่าได้ตื่นตระหนกกับข่าวลือดังกล่าว ทั้งนี้จะใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าดำเนินการกับผู้ก่อเหตุทุกราย เช่นเดียวกับการก่อเหตุป่วนเมือง, ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมมาได้แล้วหลายราย ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติมการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่เคยได้แสดงความรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนของประชาชนมุ่งแต่ก่อเหตุเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น

และ 2. มีกลุ่มบุคคลได้พยายามแอบอ้างบิดเบือนคำสอนของศาสนาถือเป็นพวกนอกศาสนาโดยเฉพาะความพยายามปล่อยข่าวว่าจะก่อเหตุในวันดังกล่าวถือเป็นการจงใจขัดขวางการประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมถือเป็นคนบาปที่จะต้องถูกลงโทษ และจะไม่ได้สัมผัสแม้แต่กลิ่นของสวรรค์ จากคำยืนยันของคณะผู้แทนองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือ OIC ได้กล่าวไว้ว่าปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้เกิดจากกความขัดแย้งทางศาสนาแต่เกิดจากกลุ่มคนที่บิดเบือนหลักคำสอนและไม่เคารพกฎหมาย

จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้ใส่ใจและหวาดกลัวกับการปล่อยข่าวลือดังกล่าว ขอให้มุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอนตามหลักศาสนาอิสลามที่ถูกต้อง และร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน

[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.