ภาพขณะจับกุม
Posted: 28 May 2018 01:45 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachathai.com)
'ประยุทธ์-ประวิตร' ขอโทษกรณีจับกุม 'พุทธะอิสระ' ย้ำรู้จักเมื่อครั้งไปทำบุญเท่านั้น ''อนุพงษ์'' ระบุเคยร่วมงานในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญก็ไป ขณะที่ 'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบกบุกจับกุมเกินกว่าเหตุ
28 พ.ค.2561 ภายหลังการจับกุม จับสึกและฝากขัง พระพุทธะอิสระ หรือ “พระสุวิทย์ ธมฺมธีโร” ที่วัดอ้อน้อย ตามหมายจับคดีปล้นทรัพย์ และเป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร รวมทั้งยังมีคดีแอบอ้างใช้พระปรมาภิไธย "ภปร" และ "สก" กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจาณ์ทั้งสนับสนุนและคัดค้านการดำเนินการดังกล่าว
'ประยุทธ์-ประวิตร' ขอโทษ
ต่อมา วันที่ 26 พ.ค.61 มติชนสุดสัปดาห์ รายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกฯ ขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับผู้ปฏิบัติว่าอย่ากระทำการใดๆ ในลักษณะนี้อีก และขอโทษไปยังอดีตพระพุทธะอิสระด้วย โดยยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะให้ความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวตนไม่
เช่นเดียวกับ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม ที่ออกมาระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตักเตือนการกระทำรุนแรงที่เกินกว่าเหตุ โดยพล.อ.ประวิตร รู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะไปกระทบต่อความรู้สึกของศิษย์ยานุศิษย์และประชาชน ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงต้องขอโทษ พร้อมทั้งยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงพร้อมให้ความเป็นธรรมนายสุวิทย์ ตามกระบวนการยุติธรรม
“พล.อ.ประวิตร อยากขอโทษประชาชนแทนตำรวจ ต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมภายในเขตวัดและได้เน้นย้ำไปแล้วว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าว
'ประวิตร' ย้ำรู้จักเมื่อครั้งไปทำบุญเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวันนี้ (28 พ.ค.61) สำนักข่าวไทย รายงานว่า กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีเข้าจับ พระพุทธะอิสระนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งส่วนตัวนั้นได้ออกมาขอโทษประชาชนไปแล้ว เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจเลยต้องออกมาขอโทษ
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการจับกุมที่ใช้ความรุนแรง เนื่องจากมีการ์ด กปปส.อาวุธครบมือในการอารักขาอดีตพระพุทธะอิสระอยู่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อมูลในเรื่องนี้ และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่
ส่วนที่ถูกมองว่ารัฐบาลตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะทำให้เสียขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องดูให้ดีว่าปฏิบัติกับใครด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีภาพร่วมทำบุญกับอดีตพระพุทธะอิสระ ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกันนั้น ว่า เป็นเหตุการณ์นานมาแล้วเมื่อ 6-7 ปี ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ตนรู้จักอดีตพระพุทธะอิสระเมื่อครั้งที่ไปทำบุญเท่านั้น ส่วนจะถือว่าเป็นลูกศิษย์หรือไม่ ตนไม่ขอตอบ
'อนุพงษ์' ระบุเคยร่วมงานในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญก็ไป
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพตนเอง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ถ่ายร่วมกับอดีตพระพุทธะอิสระ ว่า เป็นการเชิญอดีตผู้บัญชาการทหารบกไปร่วมงานหล่อพระ ซึ่งตนไปในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญ ก็พร้อมจะไป และไปร่วมกับที่อื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะกับอดีตพระพุทธะอิสระ
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร ออกมาขอโทษแทนตำรวจ ที่ใช้กำลังบุกจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระรุนแรงเกินไปนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า ทุกคนทำตามหน้าที่ จึงขอให้สังคมใช้สติในการตรึกตรอง อย่าใช้อารมณ์ ความรู้สึก ตำรวจมีหน้าที่ใช้กฎหมายก็บังคับใช้อย่างจริงจัง แต่เมื่อการปฎิบัติทำให้ประชาชนคิดว่ารุนแรงเกินไป นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร ก็ออกมาขอโทษตามปกติ
“เชื่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้รัฐบาลเสียคะแนน เช่นเดียวกับกรณีที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสนิทสนมส่วนตัวระหว่างผมและอดีตพระพุทธะอิสระ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบกบุกจับกุมเกินกว่าเหตุ
ด้าน ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่าน ฐนภณ ธนวชิรนนท์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโสระดับสูง ขอให้ผู้ตรววจการแผ่นดินตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการบุกจับพระพุทธะอิสระ โดยเห็นว่าการจับกุมดังกล่าวมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่ มีลักษณะเหยียดหยามศาสนา ถือว่าเป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการบุกทุบประตู จนทำให้สรัพย์สินของวัดเสียหาย
นอกจากนี้ ยังใช้เสียงที่มีลักษณะกระโชกโฮกฮาก ประหนึ่งเป็นการจับกุมอาชญากรร้ายแรง ไม่ได้คำนึงว่าเป็นพระ ทั้งที่ไม่ได้มีพฤติกรรมขัดขวาง หรือหลบหนีการจับกุม หากแต่พระยังนอนหลับอยู่ภายในมุ้ง ประกอบกับการควบคุมตัวโดยที่อดีตพระพุทธะอิสระยังไม่ได้ห่มจีวร มีเพียงการนุ่งห่มสบงและสังฆาฏิอยู่กับตัวเท่านั้น และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อดีตพระพุทธะอิสระไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และยังเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในหลายกรณี รวมทั้ง ไปขึ้นศาลในคดีความต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะใช้วิธีการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำก็เพียงพอ
"แม้นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง จะออกมากล่าวขอโทษต่อประชาชน และศิษยานุศิตย์ของอดีตพระพุทธะอิสระแล้ว แต่คำขอโทษก็เป็นเพียงแค่คำพูด ที่ไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมาย ถึงการกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่นๆ ในอนาคต ดังนั้น สมาคมองค์การฯ จึงมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินการจับกุมพระภิกษุสงฆ์ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ไม่สมควรแก่เหตุ รวมทั้ง ลงโทษเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมด ตั้งแต่ผู้สั่งการไปจนถึงผู้ปฏิบัติ" ศรีสุวรรณ กล่าว
สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า ศรีสุวรรณ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ว่าเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
'ประยุทธ์-ประวิตร' ขอโทษกรณีจับกุม 'พุทธะอิสระ' ย้ำรู้จักเมื่อครั้งไปทำบุญเท่านั้น ''อนุพงษ์'' ระบุเคยร่วมงานในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญก็ไป ขณะที่ 'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบกบุกจับกุมเกินกว่าเหตุ
28 พ.ค.2561 ภายหลังการจับกุม จับสึกและฝากขัง พระพุทธะอิสระ หรือ “พระสุวิทย์ ธมฺมธีโร” ที่วัดอ้อน้อย ตามหมายจับคดีปล้นทรัพย์ และเป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร รวมทั้งยังมีคดีแอบอ้างใช้พระปรมาภิไธย "ภปร" และ "สก" กรณีสร้างพระเครื่องพระนาคปรก รุ่นหนึ่งในปฐพีเมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจาณ์ทั้งสนับสนุนและคัดค้านการดำเนินการดังกล่าว
'ประยุทธ์-ประวิตร' ขอโทษ
ต่อมา วันที่ 26 พ.ค.61 มติชนสุดสัปดาห์ รายงานว่า พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกฯ ขอโทษแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับผู้ปฏิบัติว่าอย่ากระทำการใดๆ ในลักษณะนี้อีก และขอโทษไปยังอดีตพระพุทธะอิสระด้วย โดยยืนยันว่าไม่ต้องเป็นห่วงจะให้ความเป็นธรรมกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนตัวตนไม่
เช่นเดียวกับ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษก กระทรวงกลาโหม ที่ออกมาระบุว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตักเตือนการกระทำรุนแรงที่เกินกว่าเหตุ โดยพล.อ.ประวิตร รู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะไปกระทบต่อความรู้สึกของศิษย์ยานุศิษย์และประชาชน ดังนั้นฝ่ายความมั่นคงต้องขอโทษ พร้อมทั้งยืนยันว่าฝ่ายความมั่นคงพร้อมให้ความเป็นธรรมนายสุวิทย์ ตามกระบวนการยุติธรรม
“พล.อ.ประวิตร อยากขอโทษประชาชนแทนตำรวจ ต่อการกระทำที่ไม่เหมาะสมภายในเขตวัดและได้เน้นย้ำไปแล้วว่าจะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” โฆษก กระทรวงกลาโหม กล่าว
'ประวิตร' ย้ำรู้จักเมื่อครั้งไปทำบุญเท่านั้น
อย่างไรก็ตามวันนี้ (28 พ.ค.61) สำนักข่าวไทย รายงานว่า กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 ปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีเข้าจับ พระพุทธะอิสระนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็นส่วนบุคคล ซึ่งส่วนตัวนั้นได้ออกมาขอโทษประชาชนไปแล้ว เพราะมีประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจเลยต้องออกมาขอโทษ
สำหรับกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงการจับกุมที่ใช้ความรุนแรง เนื่องจากมีการ์ด กปปส.อาวุธครบมือในการอารักขาอดีตพระพุทธะอิสระอยู่นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบข้อมูลในเรื่องนี้ และเชื่อว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาล พร้อมย้ำว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่
ส่วนที่ถูกมองว่ารัฐบาลตำหนิการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะทำให้เสียขวัญและกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องดูให้ดีว่าปฏิบัติกับใครด้วย
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีภาพร่วมทำบุญกับอดีตพระพุทธะอิสระ ที่ถูกมองว่ามีความใกล้ชิดกันนั้น ว่า เป็นเหตุการณ์นานมาแล้วเมื่อ 6-7 ปี ซึ่งไม่เกี่ยวกัน ตนรู้จักอดีตพระพุทธะอิสระเมื่อครั้งที่ไปทำบุญเท่านั้น ส่วนจะถือว่าเป็นลูกศิษย์หรือไม่ ตนไม่ขอตอบ
'อนุพงษ์' ระบุเคยร่วมงานในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญก็ไป
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ปรากฏภาพตนเอง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ถ่ายร่วมกับอดีตพระพุทธะอิสระ ว่า เป็นการเชิญอดีตผู้บัญชาการทหารบกไปร่วมงานหล่อพระ ซึ่งตนไปในฐานะพุทธศาสนิกชน เมื่อนุ่งผ้าเหลืองมาเชิญ ก็พร้อมจะไป และไปร่วมกับที่อื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะกับอดีตพระพุทธะอิสระ
ภาพ งานยกพระมหาพุทธพิมพ์ ปางพระนาคปรก 9 เศียร วันที่ 5 พ.ค.2555 ที่มาภาพ http://watonoi.blogspot.com/2012/05/5-5-2555.html
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีและ พล.อ.ประวิตร ออกมาขอโทษแทนตำรวจ ที่ใช้กำลังบุกจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระรุนแรงเกินไปนั้น พล.อ.อนุพงษ์ ระบุว่า ทุกคนทำตามหน้าที่ จึงขอให้สังคมใช้สติในการตรึกตรอง อย่าใช้อารมณ์ ความรู้สึก ตำรวจมีหน้าที่ใช้กฎหมายก็บังคับใช้อย่างจริงจัง แต่เมื่อการปฎิบัติทำให้ประชาชนคิดว่ารุนแรงเกินไป นายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร ก็ออกมาขอโทษตามปกติ
“เชื่อว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ทำให้รัฐบาลเสียคะแนน เช่นเดียวกับกรณีที่โซเชียลมีเดียตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสนิทสนมส่วนตัวระหว่างผมและอดีตพระพุทธะอิสระ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
'ศรีสุวรรณ' ร้องสอบกบุกจับกุมเกินกว่าเหตุ
ด้าน ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่าน ฐนภณ ธนวชิรนนท์ เจ้าหน้าที่สอบสวนอาวุโสระดับสูง ขอให้ผู้ตรววจการแผ่นดินตรวจสอบการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการบุกจับพระพุทธะอิสระ โดยเห็นว่าการจับกุมดังกล่าวมีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม และอาจเข้าข่ายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนือหน้าที่ มีลักษณะเหยียดหยามศาสนา ถือว่าเป็นการกระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะการบุกทุบประตู จนทำให้สรัพย์สินของวัดเสียหาย
นอกจากนี้ ยังใช้เสียงที่มีลักษณะกระโชกโฮกฮาก ประหนึ่งเป็นการจับกุมอาชญากรร้ายแรง ไม่ได้คำนึงว่าเป็นพระ ทั้งที่ไม่ได้มีพฤติกรรมขัดขวาง หรือหลบหนีการจับกุม หากแต่พระยังนอนหลับอยู่ภายในมุ้ง ประกอบกับการควบคุมตัวโดยที่อดีตพระพุทธะอิสระยังไม่ได้ห่มจีวร มีเพียงการนุ่งห่มสบงและสังฆาฏิอยู่กับตัวเท่านั้น และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อดีตพระพุทธะอิสระไม่ได้มีพฤติกรรมหลบหนี และยังเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ในหลายกรณี รวมทั้ง ไปขึ้นศาลในคดีความต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจควรที่จะใช้วิธีการออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำก็เพียงพอ
"แม้นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง จะออกมากล่าวขอโทษต่อประชาชน และศิษยานุศิตย์ของอดีตพระพุทธะอิสระแล้ว แต่คำขอโทษก็เป็นเพียงแค่คำพูด ที่ไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในทางกฎหมาย ถึงการกระทำของพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจอื่นๆ ในอนาคต ดังนั้น สมาคมองค์การฯ จึงมาร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุงกฎ ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานใดๆ เกี่ยวกับการดำเนินการจับกุมพระภิกษุสงฆ์ เพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ไม่สมควรแก่เหตุ รวมทั้ง ลงโทษเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมทั้งหมด ตั้งแต่ผู้สั่งการไปจนถึงผู้ปฏิบัติ" ศรีสุวรรณ กล่าว
สำนักข่าวไทย รายงานด้วยว่า ศรีสุวรรณ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. เพื่อให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ว่าเข้าข่ายเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่
แสดงความคิดเห็น