เอกชัย’ บุกทำเนียบ จี้"ลุงฉุน" ‘ขอโทษคนอยากเลือกตั้ง
การเมืองไทย ในกะลา
‘เอกชัย’ บุกทำเนียบ จี้ "ลุงฉุน" ‘ขอโทษคนอยากเลือกตั้ง’ เหมือน ‘ขอโทษสุวิทย์!'
“เอกชัย”บุกทำเนียบ บี้ “ลุงฉุน-แป๊ะป้อม” ขอโทษ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”ซัด เป็นการกลั่นแกล้ง เทียบจับกุม “โล้นอินดี้” ใช้ตำรวจน้อยกว่า ทำไมนายกฯขอโทษ ย้อนให้ สั่งปลด”พล.ต.อ.ศรีวราห์” ขอโทษผู้ประกอบการท่องเที่ยว เหตุ เพราะ ตร.ตำรวจปิดถนน ไม่ใช่คนอยากเลือกตั้ง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเอกชัย หงส์กังวาน และนายโชคชัย ไพบูลย์รัชตะ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมาทำกิจกรรมเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ขอโทษที่จับกุมคนอยากเลือกตั้งในการชุมนุมครบรอบ 4 ปีของการรัฐประหาร 2557 เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ผ่านมา พร้อมกับมอบนาฬิกาให้กับ พล.อ.ประวิตร โดยมีตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ตลอด
“เอกชัย”บุกทำเนียบ บี้ “บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม” ขอโทษ “กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง”ซัด เป็นการกลั่นแกล้ง เทียบจับกุม “พุทธะอิสระ”
นายเอกชัย กล่าวว่า คสช.ใช้ยุทธวิธีแบบเดียวกับทหารในการนำกำลังหลายพันคนเข้าควบคุมตัวกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่มีจำนวนแค่หลักร้อยและชุมนุมอย่างสงบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และสะพานมัฆวานรังสรรค์ จึงมองว่าเป็นการกลั่นแกล้ง ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ และไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่กลุ่มฯกลับไม่ได้รับคำขอโทษ เมื่อเปรียบเทียบกับการจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่ใช้ความรุนแรงและกำลังตำรวจน้อยกว่า พล.อ.ประยุทธ์ กลับขอโทษ และตลอดการบริหารงาน 4 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลคสช.สมควรกล่าวคำขอโทษในอีกหลายเรื่อ ทั้งการรัฐประหารรัฐบาลพลเรือน การอุ้มคนเห็นต่างเข้าค่ายเพื่อปรับทัศนคติ รวมทั้งกรณีการยืมนาฬิกาหรูจากเพื่อนของ พล.อ.ประวิตร แม้รองนายกฯจะไม่ยอมรับ แต่ตนยังจะตามตื๊อแบบนี้ไปเรื่อยๆ
นายเอกชัย กล่าอีกว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนาผอ.รพ. มงกุฎวัฒนะ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคำสั่งย้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จากกรณีการบุกจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระ รวมถึงประกาศว่าจะไม่รักษาควายในร่างคน เป็นการกล่าวที่ดูถูกคนไข้ ผิดจรรยาบรรณความเป็นแพทย์ จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาใช้ ม.44 เพื่อปลด พล.ต.นพ.เหรียญทอง เช่นกัน
ด้านนายโชคชัย กล่าวว่า ขอฝากไปถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ที่กล่าวหาว่าการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะจริงๆแล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์ ควรกล่าวขอโทษต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวมากกว่าที่นำกำลังตำรวจจำนวนมากมาปิดถนน นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ควรออกมาขอโทษประชาชนที่ใช้กำลังตำรวจเข้าจับกุมคนอยากเลือกตั้งจนทำให้การจราจรติดขัด ทั้งที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีความประสงค์จะใช้ถนนเพียงเลนเดียว ถ้าตำรวจไม่ขัดขวาง การเดินทางมายังทำเนียบฯก็จะใช้เวลาเพียง 1 ชม. โดยไม่กระทบการจราจร เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน ทั้งนี้ นายโชคชัยยืนยันว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะยังคงทำการเคลื่อนไหวอย่างสงบตามสิทธิในรัฐธรรมนูญต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัย และ นายโชคชัย ได้พยายามเจรจากับตำรวจเพื่อขอเข้าไปยังภายในของทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการอนุญาต นายเอกชัย จึงกล่าวต่อว่าความเป็นชายชาติทหารไม่ได้วัดกันที่พละกำลังหรือความเข้มแข็ง แต่วัดกันที่ความกล้าหาญ ถ้าทำผิดก็ต้องกล้า ยอมรับผิด ที่ผ่านมามีหลายกรณีที่เห็นว่าทหารทำผิด แต่ไม่เคยยอมรับผิด เช่น การจัดซื้อจีที 200 หรือเรือเหาะ วันนี้แค่ขอพบเพื่อฟังคำขอโทษก็ไม่ยอมให้ฟัง อย่างไรก็ดี เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากตำรวจ นายเอกชัยและนายโชคชัยจึงเดินทางกลับ
นายเอกชัย กล่าอีกว่า ส่วนกรณีที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนาผอ.รพ. มงกุฎวัฒนะ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้อำนาจมาตรา 44 ออกคำสั่งย้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.จากกรณีการบุกจับกุมอดีตพระพุทธะอิสระ รวมถึงประกาศว่าจะไม่รักษาควายในร่างคน เป็นการกล่าวที่ดูถูกคนไข้ ผิดจรรยาบรรณความเป็นแพทย์ จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณาใช้ ม.44 เพื่อปลด พล.ต.นพ.เหรียญทอง เช่นกัน
ด้านนายโชคชัย กล่าวว่า ขอฝากไปถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ที่กล่าวหาว่าการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะจริงๆแล้ว พล.ต.อ.ศรีวราห์ ควรกล่าวขอโทษต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวมากกว่าที่นำกำลังตำรวจจำนวนมากมาปิดถนน นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ควรออกมาขอโทษประชาชนที่ใช้กำลังตำรวจเข้าจับกุมคนอยากเลือกตั้งจนทำให้การจราจรติดขัด ทั้งที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีความประสงค์จะใช้ถนนเพียงเลนเดียว ถ้าตำรวจไม่ขัดขวาง การเดินทางมายังทำเนียบฯก็จะใช้เวลาเพียง 1 ชม. โดยไม่กระทบการจราจร เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ไม่เร่งด่วน ทั้งนี้ นายโชคชัยยืนยันว่ากลุ่มคนอยากเลือกตั้งจะยังคงทำการเคลื่อนไหวอย่างสงบตามสิทธิในรัฐธรรมนูญต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอกชัย และ นายโชคชัย ได้พยายามเจรจากับตำรวจเพื่อขอเข้าไปยังภายในของทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่ได้รับการอนุญาต นายเอกชัย จึงกล่าวต่อว่าความเป็นชายชาติทหารไม่ได้วัดกันที่พละกำลังหรือความเข้มแข็ง แต่วัดกันที่ความกล้าหาญ ถ้าทำผิดก็ต้องกล้า ยอมรับผิด ที่ผ่านมามีหลายกรณีที่เห็นว่าทหารทำผิด แต่ไม่เคยยอมรับผิด เช่น การจัดซื้อจีที 200 หรือเรือเหาะ วันนี้แค่ขอพบเพื่อฟังคำขอโทษก็ไม่ยอมให้ฟัง อย่างไรก็ดี เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากตำรวจ นายเอกชัยและนายโชคชัยจึงเดินทางกลับ
แสดงความคิดเห็น