ที่มาของภาพ: มติชนทีวี
Posted: 23 May 2018 11:41 AM PDT (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท www.prachatai.com)
วัฒนา เมืองสุข เยี่ยม "คนอยากเลือกตั้ง" ที่ สน.พญาไท ชี้ภาวะนี้ไม่มีอะไรดีกว่าให้กำลังใจกัน พร้อมเตือนผู้มีอำนาจ ถ้าวันใดอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนก็อย่าร้อง ท่านที่กระย่องกระแย่งเดินเหมือนจะตาย ขอให้กินอาหารให้เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เวลาเดินขึ้นศาล จะได้ไม่ต้องให้ลูกน้องพยุง
24 พ.ค. 2561 คืนวานนี้ (23 พ.ค.) วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางมาเยี่ยม "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ที่ สน.พญาไท ช่วงหัวค่ำคืนวานนี้ว่า ในภาวะนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่ากันให้กำลังใจกัน สิ่งที่พวกเขาทำชนะแล้ว อย่างน้อยทำให้คนไทยได้ตื่นตัว อยากเลือกตั้ง ทำให้ประชาคมโลก ตั้งแต่สหประชาชาติ องค์กรต่างประเทศที่สำคัญทั้งฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลให้ความสนใจเรื่องนี้
ทั้งนี้วัฒนากล่าวด้วยว่าได้คุยกับผู้ถูกควบคุมตัวทุกคน ทั้งที่ สน.ดินแดง และ สน.พญาไท โดยทุกคนเข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้ รู้ว่าสิ่งที่ปฏิบัติกับเขาไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรมตั้งแต่วิธีการดำเนินคดี ตั้งแต่การเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งของเขาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรโอเวอร์รีแอค หรือทำอะไรเวอร์ๆ เขาก็ออกจากธรรมศาสตร์ไปอ่านแถลงการณ์จบเขาก็กลับบ้าน แต่ที่ไปบล็อก พยายามสร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แถลงข่าวโหมกระพือว่าไปพบวัตถุระเบิด ไปจ้างคนนู้นคนนี้มา เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าปล่อยให้เขาเคลื่อนมา เสร็จเขาก็กลับ
แล้วหลังจากที่เขาอ่านแถลงการณ์เสร็จ เขาไปมอบตัว ก็ไปจับกุมเขาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เป็นความพยายามยั่วยุ สร้างเงื่อนไขตลอดเวลา ที่สำคัญเขาปฏิเสธตลอดการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งใช้เวลาสอบสวน 2 ชั่วโมงก็จบแล้ว แต่้เลห์เพทุบายให้ครบ 48 ชั่วโมงเพื่อจะฝากขังศาล พฤติกรรมแบบนี้มันแกล้ง
"ก็ไม่เป็นไร ฝากบอกเจ้าหน้าที่ไว้ ประชาชนเห็น ไว้อำนาจกลับมาเป็นของประชาชนแล้วอย่าร้อง"
ตอนผมแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยครบรอบ 4 ปี คสช. ก็ถูกฟ้อง ม.116 ผมก็บอกไม่เป็นไร คุณทำตามคำสั่งอำนาจปืน คุณยืนตรงข้ามประชาชน เป็นปฏิปักษ์ประชาชน วันใดอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนอย่าร้อง อย่าอ้างว่าทำตามคำสั่ง อย่าอ้าง วันนั้นขอให้รักษาสุขภาพให้ดี ท่านที่กระย่องกระแย่งเดินเหมือนจะตาย ขอให้กินอาหารให้เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เวลาเดินขึ้นศาล หลังจากประชาชนมีอำนาจ จะได้ไม่ต้องให้ลูกน้องพยุง"
นายวัฒนากล่าวถึง กระแสนักการเมือง เดินสายมาให้กำลังใจ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า ผมไปตั้งแต่เขาชุมนุมมานานแล้ว เพียงแต่ว่าแต่อะไรที่จะทำ ให้พวกเขาเสียความชอบธรรมผมก็หลีกเลี่ยง แต่ถ้าถามว่าหนุนไหม หนุนทั้งกายทั้งใจหนุนเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย
"แต่วันนี้เขาได้รับการกลั่นแกล้งเหมือนเขาเจ็บป่วย เรามาเยี่ยมเขาก็คือเรามาแสดงน้ำใจไม่มีอะไรเสียหาย บอกพี่น้องประชาชนว่าช่วยกันให้กำลังใจเขา เขาทำเพื่อพวกเราทุกคน ขอให้พวกเรามั่นใจในพลังของประชาชน วันนี้เผด็จการหวั่นไหวครบ 4 ปี กลัวหัวหด แล้วพวกเขาน่ายกย่อง สู้ด้วยมือเปล่า มาได้ขนาดนี้มาไกลแล้ว อีกไม่นานๆ"
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง วัฒนากล่าวว่า "ผมไม่เคยเชื่อว่าเผด็จการอยากลงจากอำนาจ เพราะในโลกนี้ไม่เคยมีเผด็จการลงจากอำนาจเอง มีแต่ถูกถีบลง ที่ผ่านมาชาวบ้านถีบลงทั้งนั้น ถ้ายังไม่รู้ตัวก็ไม่แคล้วจะเหมือนกัน ทำท่าอยากจะสืบทอดอำนาจ ประชาชนอย่าไปกลัวไอ้พวกสถุนนี้ ขี้ขลาด คุณเคยเห็นพวกนี้กล้าไปไหนคนเดียวเหมือนพวกเราไหม เวลาจะไปไหนไปกันทีเป็นฝูงเป็นโขยง เสือกับหมา ต่างกันตรงไหนรู้หรือไม่ เสือเดินตัวเดียวที่เดินกันเป็นฝูงๆ นั่นหมาจำเอาไว้ด้วย"
วัฒนา เมืองสุข เยี่ยม "คนอยากเลือกตั้ง" ที่ สน.พญาไท ชี้ภาวะนี้ไม่มีอะไรดีกว่าให้กำลังใจกัน พร้อมเตือนผู้มีอำนาจ ถ้าวันใดอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนก็อย่าร้อง ท่านที่กระย่องกระแย่งเดินเหมือนจะตาย ขอให้กินอาหารให้เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เวลาเดินขึ้นศาล จะได้ไม่ต้องให้ลูกน้องพยุง
24 พ.ค. 2561 คืนวานนี้ (23 พ.ค.) วัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังเดินทางมาเยี่ยม "กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง" ที่ สน.พญาไท ช่วงหัวค่ำคืนวานนี้ว่า ในภาวะนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่ากันให้กำลังใจกัน สิ่งที่พวกเขาทำชนะแล้ว อย่างน้อยทำให้คนไทยได้ตื่นตัว อยากเลือกตั้ง ทำให้ประชาคมโลก ตั้งแต่สหประชาชาติ องค์กรต่างประเทศที่สำคัญทั้งฮิวแมนไรท์วอทช์ และแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนลให้ความสนใจเรื่องนี้
ทั้งนี้วัฒนากล่าวด้วยว่าได้คุยกับผู้ถูกควบคุมตัวทุกคน ทั้งที่ สน.ดินแดง และ สน.พญาไท โดยทุกคนเข้มแข็ง พร้อมที่จะต่อสู้ รู้ว่าสิ่งที่ปฏิบัติกับเขาไม่เป็นธรรม ไม่เป็นธรรมตั้งแต่วิธีการดำเนินคดี ตั้งแต่การเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งของเขาเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน และถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ทำอะไรโอเวอร์รีแอค หรือทำอะไรเวอร์ๆ เขาก็ออกจากธรรมศาสตร์ไปอ่านแถลงการณ์จบเขาก็กลับบ้าน แต่ที่ไปบล็อก พยายามสร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ แถลงข่าวโหมกระพือว่าไปพบวัตถุระเบิด ไปจ้างคนนู้นคนนี้มา เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่รัฐจะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าปล่อยให้เขาเคลื่อนมา เสร็จเขาก็กลับ
แล้วหลังจากที่เขาอ่านแถลงการณ์เสร็จ เขาไปมอบตัว ก็ไปจับกุมเขาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง เป็นความพยายามยั่วยุ สร้างเงื่อนไขตลอดเวลา ที่สำคัญเขาปฏิเสธตลอดการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งใช้เวลาสอบสวน 2 ชั่วโมงก็จบแล้ว แต่้เลห์เพทุบายให้ครบ 48 ชั่วโมงเพื่อจะฝากขังศาล พฤติกรรมแบบนี้มันแกล้ง
"ก็ไม่เป็นไร ฝากบอกเจ้าหน้าที่ไว้ ประชาชนเห็น ไว้อำนาจกลับมาเป็นของประชาชนแล้วอย่าร้อง"
ตอนผมแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทยครบรอบ 4 ปี คสช. ก็ถูกฟ้อง ม.116 ผมก็บอกไม่เป็นไร คุณทำตามคำสั่งอำนาจปืน คุณยืนตรงข้ามประชาชน เป็นปฏิปักษ์ประชาชน วันใดอำนาจกลับมาเป็นของประชาชนอย่าร้อง อย่าอ้างว่าทำตามคำสั่ง อย่าอ้าง วันนั้นขอให้รักษาสุขภาพให้ดี ท่านที่กระย่องกระแย่งเดินเหมือนจะตาย ขอให้กินอาหารให้เป็นประโยชน์ ออกกำลังกาย รักษาสุขภาพ เวลาเดินขึ้นศาล หลังจากประชาชนมีอำนาจ จะได้ไม่ต้องให้ลูกน้องพยุง"
นายวัฒนากล่าวถึง กระแสนักการเมือง เดินสายมาให้กำลังใจ กลุ่มคนอยากเลือกตั้งว่า ผมไปตั้งแต่เขาชุมนุมมานานแล้ว เพียงแต่ว่าแต่อะไรที่จะทำ ให้พวกเขาเสียความชอบธรรมผมก็หลีกเลี่ยง แต่ถ้าถามว่าหนุนไหม หนุนทั้งกายทั้งใจหนุนเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ด้วย
"แต่วันนี้เขาได้รับการกลั่นแกล้งเหมือนเขาเจ็บป่วย เรามาเยี่ยมเขาก็คือเรามาแสดงน้ำใจไม่มีอะไรเสียหาย บอกพี่น้องประชาชนว่าช่วยกันให้กำลังใจเขา เขาทำเพื่อพวกเราทุกคน ขอให้พวกเรามั่นใจในพลังของประชาชน วันนี้เผด็จการหวั่นไหวครบ 4 ปี กลัวหัวหด แล้วพวกเขาน่ายกย่อง สู้ด้วยมือเปล่า มาได้ขนาดนี้มาไกลแล้ว อีกไม่นานๆ"
เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะมีการเลือกตั้ง วัฒนากล่าวว่า "ผมไม่เคยเชื่อว่าเผด็จการอยากลงจากอำนาจ เพราะในโลกนี้ไม่เคยมีเผด็จการลงจากอำนาจเอง มีแต่ถูกถีบลง ที่ผ่านมาชาวบ้านถีบลงทั้งนั้น ถ้ายังไม่รู้ตัวก็ไม่แคล้วจะเหมือนกัน ทำท่าอยากจะสืบทอดอำนาจ ประชาชนอย่าไปกลัวไอ้พวกสถุนนี้ ขี้ขลาด คุณเคยเห็นพวกนี้กล้าไปไหนคนเดียวเหมือนพวกเราไหม เวลาจะไปไหนไปกันทีเป็นฝูงเป็นโขยง เสือกับหมา ต่างกันตรงไหนรู้หรือไม่ เสือเดินตัวเดียวที่เดินกันเป็นฝูงๆ นั่นหมาจำเอาไว้ด้วย"
แสดงความคิดเห็น