Posted: 18 Oct 2017 09:43 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ฎีกายืนจำคุก 1 ปี 4 เดือน จำเลยที่ 5 บิดาขอสันติภาพ ในคดีฆาตกรรม 'เอกยุทธ อัญชัญบุตร' ฐานรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด แต่ไม่ห้ามปราม ซ้ำยังช่วยซุกซ่อนทรัพย์ เป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง

18 ต.ค. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่า วันนี้ (18 ต.ค.60) ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญารัชดาฯ นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดี สันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล กับพวกรวม 6 คน ตกเป็นจำเลยคดีฆาตกรรม เอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจชื่อดัง ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันข่มขืนใจ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขัง, ร่วมกันซ่อนเร้นศพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืน

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อถึงเวลา จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง จำเลยที่ 5 บิดาของสันติภาพ ยื่นฎีกา ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 5 ได้รับเงินกว่า 4,000,000 บาท โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด แต่กลับไม่ห้ามปราม ซ้ำยังแบ่งทรัพย์ออกเป็น 2 ส่วน เพื่อช่วยซุกซ่อนทรัพย์ เป็นการสนับสนุนให้เกิดอาชญากรรมร้ายแรง แม้จำเลยจะอ้างว่าไม่เคยกระทำผิดมาก่อนและเคยทำคุณงามความดีมาในอดีต ไม่มีเหตุผลเพียงพอให้พิจารณารอการลงโทษ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ จำคุก 1 ปี 4 เดือน ไม่รอลงอาญา

นิติเวชยัน ‘เอกยุทธ’ ตายเพราะขาดอากาศหายใจ หมอพรทิพย์ติงเก็บหลักฐานรวบรัด
กสม. ชี้ 'เอกยุทธ' เสียชีวิตเพราะมืออาชีพทำให้ขาดอากาศหายใจโดยใช้กระบวนท่าพิเศษ
อุทธรณ์ยืนจำคุกตลอดชีวิต 2 จำเลยอุ้มฆ่าเอกยุทธ

สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต สันติภาพ และ สุทธิพงศ์ พิมพิสาร จำเลยที่ 1 และ 2 และร่วมกันชดใช้ทรัพย์ 1,941,970 บาท แก่ทายาทผู้ตาย ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ในส่วน ชวลิต วุ่นชุม จำเลยที่ 3 จำคุก 19 เดือน, ทวากร เกื้อทอง จำเลยที่ 4 จำคุก 8 เดือน พ้นโทษแล้ว ส่วน จ.ส.อ.อิทธิพล และจิตอำไพ เพ็งด้วง บิดา มารดาสันติภาพ ฐานรับของโจร จำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน เหตุเกิดระหว่างวันที่ 6-9 มิถุนายน 2556 สันติภาพและสุทธิพงศ์ จำเลยที่ 1-2 ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนและมีด ปล้นทรัพย์เอกยุทธ รวม 9 รายการ มูลค่า 6,600,000 บาท โดยใช้อาวุธทำร้ายและหน่วงเหนี่ยวกักขังบังคับให้เอกยุทธ ออกเช็คเบิกถอนเงิน และใช้เชือกรัดคอจนเอกยุทธถึงแก่ความตายก่อนนำศพใส่รถตู้ ไปฝังในไร่นาสวนผสมทิ้งร้าง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เพื่อปกปิดความผิด มีจำเลยที่ 3-4 ช่วยขุดหลุมฝังศพ ส่วนจำเลยที่ 5-6 ซึ่งเป็นบิดามารดาของจำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บเงินสดของผู้ตายจำนวน 4,242,000 บาท ที่จำเลยที่ 1 นำไปฝากไว้
สำหรับกรณีการเสียชีวิตของเอกยุทธนั้นเคยถูกนำมาเป็นประเด็นการเมือง โดยมีการกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เนื่องจากเอกยุทธ เป็นผู้มีบทบาทในการทำสื่อวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลตั้งแต่ทักษิณ ชินวัตร ถึงยิ่งลักษณ์ด้วย

โดยเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.56 ผู้จัดการออนไลน์ เคยรายงานด้วยว่า พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันทน์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม และอดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมบลูสกายโดยระบุถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีของเอกยุทธถือว่าไม่ได้แตกต่างจากคดีของสมชาย นีละไพจิตร อดีตประธานชมรมนักกฎหมายมุสลิม และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งหายตัวไปอย่างมีเงื่อนงำในปี 2547 ในยุครัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

“คดีนี้มันก็ไม่ต่างจากกรณีของคุณสมชาย นีละไพจิตร ซึ่งเรายังไม่รู้ประเด็นว่าคืออะไร แต่ผู้ตายไม่ใช่ประชาชนธรรมดาที่ไม่เคยมีเรื่องกับอำนาจรัฐ เพราะฉะนั้น ถ้าพูดกันตรงๆ คุณเอกยุทธถือเป็นตัวอย่างของคนที่สู้กับอำนาจรัฐ จะเป็นฝั่งอะไรก็ช่าง แต่เมื่อมีการตาย เจ้าหน้าที่รัฐและการเมืองต้องระวัง ระวังต่อการเข้าไปก้าวก่าย ระวังต่อการที่ทำให้เห็นได้ว่ามันมีการดำเนินการไม่สุด” พญ.พรทิพย์ กล่าวขณะนั้น

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.