ย้อนอดีต ..
‘ยุทธการแม่น้ำซอมม์’ สมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ มีทหารตายหลายแสน
ยุทธการแม่น้ำซอมม์ (Battle of Somme) เป็นสมรภูมิรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เนื่องจากมีทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตเป็นจำนวนมากและไม่มีผู้ชนะอีกด้วย
ยุทธการแม่น้ำซอมม์ (Battle of Somme) เป็นสมรภูมิรบในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นสมรภูมิที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เนื่องจากมีทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตเป็นจำนวนมากและไม่มีผู้ชนะอีกด้วย
แม่น้ำซอมม์ เป็นแม่น้ำที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นสมรภูมิรบระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส และฝ่ายเยอรมนี การสู้รบเกิดขึ้นในช่วงเดือนกรกฎาคมไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 1916 โดยฝ่ายอังกฤษและฝรั่งเศสมีความต้องการที่จะตีฝ่าแนวป้องกันของเยอรมนี ตั้งแต่ป่าอันเคอร์ ยาวไปจนถึงตอนเหนือของแม่น้ำซอมม์ ที่รวมระยะทางได้กว่า 24 กิโลเมตร โดยอังกฤษจะนำทัพบุกทางตอนเหนือของแม่น้ำซอมม์ ในขณะที่ทางตอนใต้เป็นหน้าที่ของฝรั่งเศสที่จะนำกองทัพตีฝ่าแนวป้องกันของเยอรมนี
กองทัพอังกฤษได้ระดมยิงปืนใหญ่เพื่อทำลายแนวป้องกันของเยอรมนี และระดมกำลังพลทั้งหมดบุกโจมตีแนวป้องกันของเยอรมนีนานถึง 8 วันติดต่อกัน แต่ฝ่ายเยอรมนีเองก็สามารถตั้งรับได้อย่างเหนียวแน่นด้วยแนวรั้วลวดหนามและป้อมปืนกล รวมถึงนำ ‘แก๊สมัสตาร์ด’ เข้ามาใช้ จนทำให้ทหารอังกฤษที่บุกเข้าในแนวป้องกันของเยอรมนีเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก กล่าวกันว่าในวันแรกของการบุก ทหารอังกฤษเสียชีวิตไปราว 50,000 นาย เลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน กองทัพฝรั่งเศสสามารถฝ่าแนวป้องกันของเยอรมนีทางใต้ได้สำเร็จ ทั้งสองฝ่ายต่างผลัดกันรุกและรับเช่นนี้ จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่หนึ่งยุติลง ยุทธการแม่น้ำซอมม์จึงยุติลง โดยไม่มีฝ่ายใดเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงบนสมรภูมิแห่งนี้ โดยฝ่ายอังกฤษสูญเสียทหารไป 456,000 นาย ฝรั่งเศส 200,000 นาย และเยอรมนี 500,000 นาย รวมแล้วมีทหารเสียชีวิตทั้งหมดมากกว่าหนึ่งล้านนายเลยทีเดียว
แสดงความคิดเห็น