ทหารเรียกพบ เฮียสี่ เสื้อแดงอ่างทอง หลังโทรหาไม่ติดสองวัน ระบุไม่เกี่ยวประเด็นบริ จาคของที่ธรรมกาย
Posted: 22 Feb 2017 03:40 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
เฮียสี่ เสื้อแดงอ่างทองเผย ถูกทหารโทรตามให้ไปพบ หลังติดต่อไม่ได้สองวัน ระบุปกติทหารโทรหาทุกเดือน ยันการถูกเรียกพบไม่เกี่ยวข้ องกับการเดินทางไปบริจาคของที่ วัดพระธรรมกาย เป็นเพียงการเรียกไปยืนยันว่า ตนไม่ได้จะหลบหนี
เฮียสี่ หรือ ณรงค์ ผดุงศักดิ์ศรี
22 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้ งจากแหล่งข่าว ณรงค์ ผดุงศักดิ์ศรี หรือ เฮียสี่ เสื้อแดงอ่างทองว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ขณะที่เฮียสี่ พร้อมด้วยเพื่อนๆ อีก 2-3 กำลังซื้อของอยู่ที่ห้างสรรพสิ นค้าบิ๊กซี สาขาคลองหนึ่ง เพื่อที่จะนำของไปให้บริจาคกั บประชาชนที่อยู่ในวัดพระธรรมกาย ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารโทรเข้ามา และขอให้เฮียสี่ ไปพบเพื่อพูดคุยที่ห้างสรรพสิ นค้าบิ๊กซี พระนครศรีอยุธยา
แหล่งข่าวคนดังกล่าว ระบุว่าหลังจากเฮียสี่เสร็จธุ ระแล้ว ได้เดินทางไปพบกับเจ้าหน้าที่ ทหารตามที่นัดหมาย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เฮียสีอยู่ที่ไหน ทหารที่ขอให้ไปพบต้องการพูดคุ ยเรื่องอะไร
ทั้งนี้เมื่อเวลา 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับเฮียสี่ ทางโทรศัทพ์มือถือ เฮียสี่ได้รับสาย พร้อมกับยืนยันว่าตอนนี้อยู่กั บเจ้าหน้าที่ทหาร แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดอื่นๆ บอกแต่เพียงว่า “ไม่มีอะไร เดี๋ยวผมโทรกลับไป”
ต่อมาเวลา 16.15 น. ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังเฮี ยสี่อีกครั้ง ได้ทราบข้อมูลว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ทหารได้โทรเรี ยกให้ตนไปพบเนื่องจากสองวันที่ ผ่านมาโทรศัพท์มือถือของตนเสีย เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถติดต่ อตนได้ เมื่อติดต่อได้แล้วในวันนี้เจ้ าหน้าที่จึงได้ขอให้ตนไปพบเพื่ อยืนยันว่า โทรศัพท์มือถือเสียจริงๆ และเพื่อเป็นการยืนยันว่าตนไม่ ได้หลบหนีไปไหน
เฮียสี่ ระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทหารไม่มีท่าทีคุ กคาม และไม่ได้เชื่อมโยงกับกรณีที่ ตนเองไปบริจาคอาหารให้กั บประชาชนที่อยู่ในวั ดพระธรรมกายแต่อย่างใด และโดยปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่ ทหารโทรมาหาตนทุกเดือน
สำหรับกรณีที่สำนักข่าว Tnews ลงข่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.พ.) มีรายงานว่า ณรงค์ ผดุงศักดิ์ศรี หรือเฮียสี่ ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมโดยปั กหลักที่ตลาดคลองหลวงพร้อมทั้ งได้เกณฑ์ กลุ่ม นปช. ประมาณ 500 คน มาร่วมชุมนุมกับศิษย์วั ดพระธรรมกาย เฮียสี่ระบุว่า ได้ไปที่วัดพระธรรมกายจริง แต่ไม่ได้เกณฑ์คนไปตามที่เป็นข่ าว เพียงแต่ของข้าวของไปบริจาคเท่ านั้น
000000
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เฮียสี่ เคยถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ ทหาร ซึ่งการควบคุมตัวเกิดขึ้นเมื่ อวันที่ 13 ส.ค. 2560 ในช่วงเช้าตรู โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารในเครื่ องแบบ 7-8 นาย และชายนอกเครื่องแบบประมาณ 10 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้ามาบุกค้นภายในบ้าน แต่ไม่ได้มีการแสดงหมายค้น และไม่ได้แจ้งสังกัดว่าจากหน่ วยใด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุ มตัวเฮียสี่ ไปยัง มทบ.11 แต่ระหว่างควบคุมตัวไปนั้นไม่ ได้มีการแจ้งให้ญาติได้ทราบว่ าจะตัวไปที่ใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2559 พันเอกบุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชาฝ่ ายกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ในการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ ยวข้องจากเหตุระเบิดหลายจุดใน 7 จังหวัดพื้นที่ภาคใต้ เพิ่มอีก 2 คน หลังจากเมื่อคืนนี้ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ ว 15 คน ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210 (ผู้ใดสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้ นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่ างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 นี้ และความผิดนั้น มีกำหนดโทษจำคุกอย่างสูงตั้งแต่ หนึ่งปีขึ้นไป ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นซ่ องโจร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ...)
พันเอกบุรินทร์ ได้เปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ได้ควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกั บขบวนการก่อความไม่สงบในพื้นที่ ภาคใต้และในจังหวัดภูเก็ตระหว่ างวันที่ 10 – 12 ส.ค. 2559 โดยคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกที่ 41 และมณฑลทหารบกที่ 11 แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอี ยดใดๆ
19 ส.ค. 2559 มีการนำตัวผู้ต้องหา 15 รายซึ่งถูกควบคุมตัวที่ มทบ.11 และศาลทหารออกหมายจับมาแถลงข่าว โดย พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรเดช ผู้บังคับการกองแผนงานอาชญากรรม สำนักยุทธศาสตร์ตำรวจ ระบุว่าเบื้องต้นทั้งหมดมีการติ ดต่อกันเป็นกลุ่มขบวนการในนาม พรรคปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งคล้ายกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ และมีพฤติการณ์ต่อต้านรัฐบาล แต่ทั้งหมดปฏิเสธความเกี่ ยวโยงกับเหตุระเบิดหลายจุดที่ เกิดขึ้น และตามหลักฐานก็ยังไม่พบความเชื่ อมโยงเช่นกัน ทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตาม มาตรา 209 ประมวลกฎหมายอาญา ข้อหาการกระทำผิดอั้งยี่ซ่องโจร และฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ว่าด้วยการชุมนุมทางการเมืองเกิ น 5 คน หลังจากนี้จะนำตัวทั้ งหมดไปทำการสอบสวนก่อนที่จะส่ งตัวไปฝากขังยังศาลทหารต่อไป ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้งหมดได้รั บการประกันตัว ศาลอนุญาตให้ประกันตัวได้ แต่มีเงื่อนไขห้ ามออกนอกประเทศและห้ามเคลื่ อนไหวทางการเมือง
เฮียสี่เป็น 1 ใน 15 รายชื่อที่ถูกควบคุมตัวและดำเนิ นคดีดังกล่าว ทั้งนี้รายชื่อผู้ต้องหาทั้ งหมดมีอายุน้อยสุดคือ 39 ปี มากสุดคือ 71 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่มีอายุ ระหว่าง 50-70 ปี เป็นชาย 13 ราย หญิง 2 ราย อีกทั้งผู้ต้องหาแต่ละรายยังมี ภูมิลำเนาอยู่กันคนละจังหวัด เช่น พัทลุง, นนทบุรี,ตรัง, สตูล, กทม, หนองคาย, เชียงราย, อ่างทอง, มหาสารคาม, นครศรีธรรมราช, ร้อยเอ็ด,
แสดงความคิดเห็น