นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย ได้เข้ายื่นเรื่องให้อธิบดีกรมสรรพากร ตรวจสอบการเสียภาษีจากการขายที่ดิน ของบิดา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เป็นผู้ซื้อ โดยมีราคาประเมินอยู่ที่ 197,565,00 บาท แต่ขายได้ในราคา 600 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินถึง 402, 435,000 บาท โดยต้องเสียค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินและค่าอากรแสตมป์รวม 6,951,300 บาท

แต่ในบัญชี งบการเงินของบริษัท 69 พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด มีการแสดงรายการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนและที่ดินมูลค่า 623,147,210 บาท ซึ่งมีตัวเลขปริศนาที่เกินมาคือ 23,147,210 บาท เมื่อนำมาหักลบกับค่าธรรมเนียมการโอนที่ดินและค่าอากรแสตมป์จำนวน 6,951,300 บาท จะยังมีส่วนเกิน 16,195,910 บาท จึงสันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นเงินได้พึงประเมิน

ด้วยเหตุนี้ จึงขอให้กรมสรรพากร ดำเนินการตรวจสอบการเสียภาษีว่าไปตามกฎหมายหรือไม่ ไม่ควรละเลย หรือปล่อยให้ผ่านไป และกรณีการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ก็อยู่ในความรับผิดชอบโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ซึ่งต้องทำให้สิ้นสงสัยว่าการขายที่ดิน 600 ล้านบาท มีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ถ้ายังไม่เสียภาษี ก็เท่ากับว่าได้ล่วงเลยกำหนดการเสียภาษีมากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายไม่ได้ 

ทั้งนี้ นายเรืองไกร ได้ลองคำนวณอัตราการเสียภาษี หากการขายที่ดินดังกล่าว ยังไม่ได้เสียภาษี โดยนำเงินจำนวน 16,195,910 บาท มาคำนวณรวมทั้งค่าปรับตามกฎหมาย จะต้องเสียภาษีและค่าปรับรวม 18,526,830 บาท โดยจะให้เวลากรมสรรพากร 15 วันในการตรวจสอบรายละเอียดในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความกระจ่างต่อไป
source ;- http://www.komkhao.com/content/7966

[right-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.