"73 ชั่วโมงในค่าย"
วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม เมื่อเสร็จการรายงานตัวที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผมไปพบเจ้าหน้าที่ที่ มทบ. 11 ตามนัดในเวลา 11.00 น. ทำประวัติ ตรวจร่างกาย จากนั้นผมถูกนำตัวไปควบคุมในห้องสี่เหลี่ยมขนาด 6x10 เมตร โดยมีทหาร 2 นาย ผลัดเวรกันมาทำหน้าที่ดูแลผมตลอด 24 ชั่วโมง ถึงเวลาอาหารจะมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามและจะจัดให้ตามที่ผมต้องการ ผมโชคดีแคล้วคลาดมาแล้วสองหน หนแรกเมื่อต้นเดือนที่ทหารบุกมาบ้านผม แต่บังเอิญลูกสาวผมออกไปออกกำลังแต่เช้า ทหารคงคิดว่าผมออกไปข้างนอกพร้อมลูก ครั้งนี้ก็เช่นกันทหารมาถึงบ้านก่อนผมประมาณ 5 นาที ทำให้ผมมีเวลาเตรียมตัว คืนนั้นผมสวดมนต์กราบพระปิดตาหลวงพ่อแก้วที่คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมอบให้ผมในวันเกิดที่ผ่านมาและผมห้อยคอติดตัวมาตลอดตั้งแต่วันนั้น
วันอังคารที่ 29 เวลาประมาณ 11.00 น. เจ้าหน้าที่มารับตัวผมแจ้งว่ามีญาติมาเยี่ยม ไปพบน้องเฟ (นางสาววีรดา เมืองสุข) บอกกับผมว่าออกมาตามหาพ่อเพื่อนำยาลดไขมันในเส้นเลือดและของใข้ส่วนตัวที่จำเป็นมาให้ เฟเล่าให้ฟังว่าพี่บีม (ลูกชายคนโตผมซึ่งฝึกงานอยู่ที่ DC) กำลังไปที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐเพื่อให้ทางการสหรัฐช่วยผมอีกทาง ส่วนเฟได้รับอนุญาตให้เยี่ยมผมตั้งแต่ 11-12 น. เฟโกรธ คสช. แต่ผมสอนลูกว่าผมไม่เคยโกรธคู่ต่อสู้ ตอนเด็กผมชกมวย ผมก็ไม่เคยโกรธคู่ชก ผมแข่งบอลก็ไม่เคยโกรธคู่แข่งแม้จะแพ้ก็ตาม วันนี้ผมกำลังต่อสู้ทางการเมืองกับ คสช. ซึ่งต่างความคิดและอุดมการณ์ซึ่งผมก็ไม่เคยโกรธ คสช. เช่นกัน เราต่างคนต่างทำหน้าที่ตามความเชื่อของเรา ท้ายสุดประชาชนจะเป็นผู้ตัดสิน ผมขอให้ลูกนำร่างรัฐธรรมนูญมาให้ด้วยเพื่อจะได้ศึกษา ได้รับอิสรภาพออกไปจะได้มีความเห็นได้เลย
วันพุธที่ 30 เวลา 11.00 น. น้องเฟมาเยี่ยมผมพร้อมนำอาหารกลางวันมาทานกับผม เฟเอาร่างรัฐธรรมนูญพร้อมสำเนาหนังสือที่พี่บีมทำถึงกระทรวงต่างประเทศสหรัฐมาให้ผมดู ข้อความเป็นไปตามที่ผมโพสต์พร้อมบทความนี้ น้องเฟเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานตอนออกไปถูกนักข่าวสัมภาษณ์เรื่องพ่อ น้องเฟก็ตอบไปตามที่เคยถามพ่อพร้อมเอาหนังสือพิมพ์ให้ผมดู ผมทราบจากลูกว่าคุณวรชัยได้รับการปล่อยตัวแล้ว ลูกสัญญาว่าพรุ่งนี้จะมาทานอาหารกลางวันกับผมอีก
วันพฤหัสบดีที่ 31 เวลา 11.00 น. ก่อนพบลูกสาว ผมได้พบกับ ผบ. กองพันทหารราบ แจ้งให้ผมทราบถึงเหตุที่ถูกควบคุมตัว เนื่องจากผมโพสต์ข้อความชักชวนประชาชนให้ออกมาโหวตคว่ำรัฐธรรมนูญซึ่ง คสช. เห็นว่าเป็นความผิด จากนั้นผมออกไปพบลูกเพื่อทานอาหารกลางวันด้วยกัน เจอหน้าผมลูกร้องไห้ถามผมว่าครบ 3 วันแล้วทำไมเค้าไม่ปล่อยพ่อ ผมสอนลูกว่าในโลกไม่มีของฟรี คสช. มีอำนาจควบคุมตัวพ่อไว้ไม่เกิน 7 วัน ถ้าคิดว่าพ่อถูกควบคุมตัวมาเกือบครึ่งทางแล้วจะสบายใจ หมดเวลาเยี่ยมเจ้าหน้าที่พาผมกลับมาที่ห้อง เมื่อถึงห้องเจ้าหน้าที่ให้ผมเก็บของเพื่อกลับบ้าน จากนั้นพาผมกลับมาทำเอกสาร ซึ่งผมลงชื่อในหนังสือสองฉบับยืนยันว่าไม่มีใครทำร้ายผมและไม่มีข้าวของถูกยึด เมื่อเสร็จก็นำตัวผมกลับมาส่งที่บ้าน ผมได้รับอิสรภาพกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
ระหว่างถูกควบคุมตัวเจ้าหน้าที่ปฏิบัติกับผมอย่างให้เกียรติครับ
วัฒนา เมืองสุข
31 มีนาคม 2559



ผู้อพยพในทะเลเมดิเตอเรเนียนรอดตายปาฏิหาริย์ หลังสุ่มโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือไปยังอิตาลี
ผู้อพยพทางเรือกลุ่มหนึ่งซึ่งเผชิญเข้ากับพายุในทะเลเมดิเตอเรเนียน ได้รับความช่วยเหลือจนรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังผู้อพยพชายชาวซูดานเสี่ยงกดเบอร์โทรศัพท์ของอิตาลีเพื่อขอความช่วยเหลือแบบเดาสุ่ม จนมีผู้สูงอายุในกรุงโรมของอิตาลีผู้หนึ่งได้รับโทรศัพท์ดังกล่าว และแจ้งขอความช่วยเหลือต่อไปยังเจ้าหน้าที่ในที่สุด
สื่ออิตาลีรายงานว่า เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ชายวัย 67 ปีผู้หนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในย่านมาร์โคนีของกรุงโรม ตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น โดยผู้ที่โทรศัพท์มาพูดภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษอีกเล็กน้อย ซึ่งเขาฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ได้แจ้งเรื่องต่อแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเชื่อว่าชายที่โทรศัพท์มากำลังตกอยู่ในอันตราย เพราะมีเสียงเครื่องยนต์เรือ และคลื่นลมทะเลปั่นป่วนเป็นฉากหลังอยู่ด้วย
ตำรวจได้รอจนชายคนดังกล่าวโทรกลับมาอีกครั้ง จึงได้ทราบว่าชายผู้นี้เป็นผู้อพยพที่เรือกำลังเผชิญพายุในทะเลเมดิเตอเรเนียน โดยเขาตะโกนใส่โทรศัพท์ว่า "พวกเราแย่แล้ว" ทำให้ตำรวจรีบติดต่อไปยังหน่วยกู้ภัยทางทะเล ซึ่งต่อมาได้เข้าช่วยเหลือกลุ่มเรือและแพยางซึ่งบรรทุกผู้อพยพราว 600 คนได้ที่น่านน้ำใกล้ชายฝั่งอิตาลี
ในวันเดียวกัน หน่วยยามฝั่งและเจ้าหน้าที่กองทัพเรืออิตาลี ยังสามารถช่วยเหลือผู้อพยพที่ลอยเรืออยู่ในทะเลได้อีกถึง 1,300 คน โดยตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีผู้อพยพที่มาถึงอิตาลีโดยทางเรือแล้วถึง 11,000 คน



บีบีซีไทย - BBC Thai
The FBI has offered to unlock another iPhone for police after revealing it could access the handset used by San Bernardino killer Syed Farook.
Police in Arkansas wish to unlock an iPhone and iPod belonging to two teenagers accused of killing a couple, according to the Associated Press (AP).
Less than a day after its San Bernardino announcement, the FBI agreed to help in the homicide case.
Syed Farook and his wife were shot dead after killing 14 people in December.
A judge agreed to postpone the Arkansas case on 28 March to allow prosecutors to ask the FBI for help.
Hunter Drexler, 18, and Justin Staton, 15, are accused of killing Robert and Patricia Cogdell at their home in Conway, Arkansas last July.
Staton had been raised as a grandson by the Cogdells.



นักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งของเซอร์เบีย พ้นผิดข้อหาอาชญากรสงคราม
ศาลอาชญากรสงครามของสหประชาชาติ ในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์ มีคำพิพากษาให้นายโวยิสลาฟ เชเชลจ์ นักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งของเซอร์เบียพ้นผิดในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม และก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ในสงครามบอลข่าน ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990
ศาลมีคำวินิจฉัยว่า นายเชเชลจ์ ไม่มีส่วนร่วม รับรู้ หรือเห็นชอบกับการก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ขณะที่นายเชเชลจ์ ได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและว่าศาลตัดสินถูกต้องแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีโครเอเชียได้ประณามคำตัดสินครั้งนี้ว่าน่าอาย ส่วนอัยการศาลอาชญากรสงคราม ระบุว่า อาจมีการยื่นอุทธรณ์ในภายหลัง และเชื่อว่าบรรดาเหยื่อและผู้คนจำนวนมากไม่พอใจกับผลการตัดสินในครั้งนี้
ทั้งนี้ นายเชเชลจ์ เคยเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอดีตประธานาธิบดีสโลโบดัน มิโลเชวิช และเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีของเซอร์เบีย ระหว่างปี 1998 – 2000 นายเชเชลจ์ เข้ามอบตัวต่อคณะตุลาการอาญาระหว่างประเทศสำหรับอดีตยูโกสลาเวีย (ICTY) เมื่อปี 2003 โดยเขาถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการสังหาร ทรมาน และเนรเทศผู้ที่ไม่ใช่ชาวเซิร์บตามแผนการก่อตั้ง “อาณาจักรเซอร์เบียที่ยิ่งใหญ่” ด้วยการยุยงให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในโครเอเชีย บอสเนีย และเซอร์เบีย ระหว่างเดือน ส.ค. 1991- ก.ย. 1993



รถเมล์สาย 8 ถึงเวลายกเครื่องความปลอดภัยและบริการแล้วหรือยัง ?
รถโดยสารสาย 8 แฮปปี้แลนด์ – สะพานพุทธ นับว่าเป็นสายรถเมล์ในตำนานของคนกรุง ที่ขึ้นชื่อเรื่องการขับเร็วเสี่ยงอันตรายมานาน ล่าสุด นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการบริษัทขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) ซึ่งได้ร่วมประชุมกับผู้บริหารบริษัทรถเอกชนร่วมบริการสาย 8 เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยขอให้ทางรถโดยสารสาย 8 ทำประวัติผู้ขับขี่รถและพนักงานเก็บเงินประจำรถ ส่งให้กับ ขสมก. ภายใน 2 วัน พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเร่งด่วนระยะสั้น 3 เดือนเพื่อติดตามผล โดยให้กวดขันรถร่วมที่กระทำผิด หากมีการทำผิดให้รายงานและหากยังมีการทำผิดซ้ำจะพิจารณาการเพิกถอนใบอนุญาต ส่วนการดำเนินการขั้นสุดท้ายหากทำผิดซ้ำอีก คือการพิจารณายกเลิกสัมปทานเดินรถ
นอกจากนี้ ขสมก. ยังกำหนดให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบในด้านการอบรมมารยาทและการขับขี่ให้พนักงานด้วย
“ปัญหาของรถเมล์สาย 8 นั้น เป็นปัญหาภาพลักษณ์อย่างหนัก แต่สาย 8 ไม่ได้เป็นปัญหาเพียงสายเดียว อีกหลายสายทั้งรถเอกชนร่วมบริการและของขสมก. เองก็มีปัญหา” นายสุระชัย กล่าว
บีบีซีไทยได้สอบถามพนักงานขับรถของ สาย 8 บางส่วนซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่าสาเหตุที่ต้องขับแข่งกันก็เพื่อแย่งกันหาผู้โดยสาร เนื่องจากพนักงานขับรถไม่มีเงินเดือนประจำ รับเงินเป็นรายวัน หากหาผู้โดยสารได้มากก็จะได้ส่วนแบ่งมาก ทั้งผู้ประกอบการกำหนดให้หารายได้ขั้นต่ำ ให้ได้วันละอย่างน้อย 5,000 บาทด้วย
ด้านนางฑิราภรณ์ เมธิสริยพงศ์ ผู้บริหารรถเอกชนร่วมบริการสาย 8 ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหาร ขสมก. ว่า ทางบริษัทเน้นหลักการเรื่องความปลอดภัย โดยทั้งพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารมีเงินเดือนและเบี้ยขยันประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มีการกำหนดเงื่อนไขในการหารายได้ขั้นต่ำแต่อย่างใด
รถเมล์สาย 8 นั้นได้รับการกล่าวถึงในแง่ของการบริการที่ถูกร้องเรียนมาก เนื่องจากพนักงานขับรถเร็ว แซงกัน รวมไปถึงสภาพรถที่เก่า โดยเคยครองสถิติเป็นสายรถเมล์ที่ถูกร้องเรียนมากที่สุดในระหว่างปี 2556-2557 ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น ได้เคยลงพื้นที่และหาแนวทางแก้ไขร่วมกับผู้บริหารมาครั้งหนึ่งแล้ว
บีบีซีไทยได้สอบถามความคิดเห็นของผู้ใช้บริการส่วนหนึ่งต่อรถเมล์สาย 8 ว่า ต้องการให้ยกเครื่องปรับปรุงเรื่องความปลอดภัยและบริการอย่างไรบ้าง ติดตามได้ในวิดีโอนี้ค่ะ ‪#‎รถเมล์สาย8‬

Loading video....
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Thursday, March 31, 2016


สะพานข้ามแยกที่อินเดียพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน
เกิดเหตุสะพานข้ามแยกซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างในเมืองกัลกัตตา ทางตะวันออกของอินเดีย พังถล่มลงมาทับผู้คน อาคารบ้านเรือน และยานพาหนะด้านล่าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 10 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 60 คน
ทางการส่งหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินเข้าเร่งช่วยชีวิตผู้ที่ยังติดอยู่ในซากปรักหักพังแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีผู้ปลูกสร้างที่อยู่อาศัยแบบง่าย ๆ อยู่ใต้สะพานจำนวนหนึ่ง ทั้งยังมีรายงานว่า มีรถประจำทางติดอยู่ใต้ซากสะพานด้วย หลายฝ่ายกังวลว่าสะพานส่วนที่เหลืออยู่อาจพังถล่มลงมาอีก
ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้กับย่าน Girish Park ซึ่งเป็นหนึ่งในย่านที่แออัดที่สุดของเมืองกัลกัตตา เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่ปลูกติดกัน ถนนแคบ ๆ และร้านค้าจำนวนมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สะพานข้ามแยกความยาว 2 ก.ม. นี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2552 และเลยกำหนดแล้วเสร็จมาหลายครั้งแล้ว ‪#‎Kolkata‬

Loading video.....
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Thursday, March 31, 2016


เวียดนามได้ประธานสภาแห่งชาติหญิงคนแรก
สภาแห่งชาติเวียดนามลงคะแนนเสียงเลือกนาง เหวียน ถิ กิม เงิน วัย 61 ปี ขึ้นเป็นประธานสภาคนใหม่ โดยเธอเป็นประธานสภาแห่งชาติหญิงคนแรกของประเทศ และผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดในบรรดาเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์หญิง
สื่อของทางการเวียดนามรายงานว่า นางเหวียนซึ่งเดิมเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของจังหวัดแห่งหนึ่งในแถบสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาแห่งชาติด้วยคะแนนเสียงถึงร้อยละ 95.5 โดยในการสาบานตนเข้ารับตำแหน่งใหม่ เธอให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อชาติ ประชาชน และรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ มีการคาดหมายกันมานานว่า นางเหวียนจะได้รับตำแหน่งประธานสภาแห่งชาติในครั้งนี้ หลังจากได้รับเลือกเข้าเป็นสมาชิกคณะกรมการเมืองเป็นครั้งที่สอง ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมองกันว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งในการส่งเสริมสถานภาพสตรีของทางการเวียดนามด้วย



รองเท้าผ้าใบที่แพงที่สุดในโลก
ช่วงกลางเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวรองเท้าผ้าใบ “วานรเพลิง”ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบร่วมกันของ Bicion และ Mache Customs โดยเป็นการนำเอารองเท้ากีฬาแบรนด์ดังของจีนมาประดับเพชร ไพลิน และทองคำ ซึ่งผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากเทศกาลตรุษจีน
มีการนำรองเท้าดังกล่าวออกประมูล เพื่อระดมทุนให้กับ Soles4Souls องค์กรการกุศลในสหรัฐฯที่บริจาครองเท้าให้กับผู้ยากไร้ทั่วโลก โดยเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมดรีมในนครนิวยอร์ก รองเท้าคู่นี้ถูกประมูลไปด้วยสนนราคาราว 140 ล้านบาท ทำให้มันกลายเป็นรองเท้าผ้าใบที่มีราคาสูงที่สุดในโลก‪#‎BicionMacheCustoms‬ ‪#‎Soles4souls‬

Loading video.....
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Thursday, March 31, 2016


กาตาร์ถูกกล่าวหาใช้แรงงานทาสสร้างสนามฟุตบอลโลก
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวหาประเทศกาตาร์ว่า ใช้แรงงานทาสในการก่อสร้างสนามฟุตบอลโลกปี 2022 พร้อมตำหนิสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ว่าล้มเหลวในการหยุดยั้งการแข่งขันฟุตบอลโลกที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้สัมภาษณ์แรงงาน 231 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในจำนวนนี้ 132 คนทำงานที่สนามคาลิฟาอินเตอร์เนชั่นแนลสเตเดียม ซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก และอีก 99 คนทำงานในสวนที่อยู่โดยรอบศูนย์กีฬาแอสไพร์ ข้อมูลที่ได้พบว่า คนงานถูกบังคับให้อาศัยอยู่ในห้องพักที่มีสภาพทรุดโทรม ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการสมัครงานเป็นจำนวนมาก ถูกหักค่าแรง และถูกยึดหนังสือเดินทาง
รัฐบาลกาตาร์ ระบุว่า รู้สึกวิตกกับข้อกล่าวหาในครั้งนี้และจะดำเนินการสอบสวนต่อไป พร้อมชี้ว่า สวัสดิภาพของแรงงานต่างด้าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่สุด และให้คำมั่นจะปฏิรูปกฎหมายแรงงานของกาตาร์อย่างเป็นระบบ ด้านฟีฟ่า ระบุว่า ได้ดำเนินมาตรการต่าง ๆเพื่อปรับปรุงสถานการณ์ของแรงงานต่างด้าวที่ก่อสร้างสนามฟุตบอลโลกให้ดีขึ้นแล้ว



แม่สอดโมเดล: ทางการมอบบัตรประจำตัว เพื่อสิทธิทางการศึกษาของเยาวชนข้ามชาติในไทย
หน่วยงานรัฐมอบบัตรประจำตัวแก่เด็กข้ามชาติและเด็กไร้สัญชาติที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนไทย หวังดึงกลุ่มคนไร้สถานะเข้าสู่ระบบ ส่งเสริมโอกาสเรียนรู้ตามนโยบายการศึกษาเพื่อปวงชน ป้องกันเด็กตกเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ตาก เขต 2 พร้อมด้วยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดตาก มอบบัตรประจำตัวเลข 13 หลักให้แก่เด็กนักเรียนข้ามชาติและเด็กไร้สัญชาตินับร้อยคนที่เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเอกชน 7 แห่งของอำเภอแม่สอด จ.ตาก เมื่อวันที่ 29 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อนำไปขออนุมัติงบประมาณสนับสนุนรายหัวจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ซึ่งจะช่วยให้โรงเรียนดูแลเด็กกลุ่มดังกล่าวให้ได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่อง
การจัดทำบัตรดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาที่ สช.ไม่จัดสรรเงินให้แก่โรงเรียนเอกชนในอำเภอแม่สอดเมื่อปี 2558 โดยอ้างถึงระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการที่ไม่สนับสนุนเงินรายหัวแก่เด็กที่ไม่มีสถานะทางทะเบียนราษฎร์ในประเทศไทย ทำให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงมหาดไทยในจังหวัดตากร่วมกันสำรวจรายชื่อและที่อยู่ของนักเรียนซึ่งเป็นเด็กข้ามชาติและเด็กไร้สัญชาติ เพื่อนำไปจัดทำบัตรประจำตัวเลข 13 หลักจนสำเร็จเมื่อต้นเดือน มี.ค. กลายเป็นกรณีศึกษา “แม่สอดโมเดล” ซึ่งจะใช้เป็นแนวทางแก้ปัญหาการศึกษาของเด็กไร้สถานะได้ในอนาคต
นายสุรพงษ์ กองจันทึก นักกฎหมายสิทธิมนุษยชน อดีตประธานอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ย้ำว่าบัตรประจำตัวที่จัดทำให้แก่เด็กนักเรียนกลุ่มดังกล่าวไม่ใช่บัตรประชาชน ไม่เกี่ยวข้องกับการมอบสัญชาติไทย แต่เป็นการออกเอกสารประจำตัวบุคคลไร้สถานะทางทะเบียนราษฎร์ เพื่อให้ทางราชการไทยนำไปใช้ในการพิสูจน์ยืนยันตัวบุคคลเท่านั้น
ขณะที่นายเศรษฐพงษ์ ศรีสุวรรณ คณะอนุกรรมการช่วยเหลือบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทยเข้าเรียนในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่าเด็กนักเรียนในอำเภอแม่สอดมีอัตลักษณ์ที่หลากหลาย มีทั้งเด็กกลุ่มชาติพันธุ์จากเมียนมาซึ่งพ่อและแม่เข้ามาทำงานในอำเภอแม่สอด บุตรของแรงงานข้ามชาติที่เกิดในไทย และบุตรของชาวไทยกับแรงงานข้ามชาติที่ไม่ได้ทำเรื่องแจ้งเกิด จึงไม่ได้รับการเพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนราษฎร์ของไทย ทำให้เด็กเหล่านี้กลายเป็นบุคคลไร้สถานะ
อย่างไรก็ตาม นโยบายการศึกษาเพื่อปวงชนซึ่งประกาศใช้ตามมติคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ระบุว่าเด็กทุกคนที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีสิทธิ์ที่จะได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 15 ปีโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ จึงควรส่งเสริมให้เด็กเหล่านี้เข้ารับการศึกษา และเด็กจะได้มีโอกาสพัฒนาความรู้และศักยภาพให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไป
ด้านนายธีระนันท์ ชัยมานันท์ ปลัดอำเภอแม่สอด ระบุว่าการจัดทำบัตรประจำตัวแก่กลุ่มคนข้ามชาติมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ควรหยุดแค่การจัดทำบัตรให้แก่เด็กนักเรียน ต้องรวมถึงกลุ่มแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านและผู้ติดตามแรงงานที่เข้ามาอาศัยอยู่ในไทย เนื่องจากอำเภอแม่สอดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ติดพรมแดนประเทศเมียนมา ซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดดช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงมีความต้องการแรงงานจำนวนมาก จนกลายเป็นช่องทางให้ขบวนการค้ามนุษย์และมิจฉาชีพหลอกลวงหรือเรียกรับผลประโยชน์จากกลุ่มแรงงานข้ามชาติ แต่การจัดทำทะเบียนบุคคลไม่มีสถานะเหล่านี้จะเป็นการดึงคนที่เคยอยู่ใต้ดินหรืออยู่นอกระบบให้กลับเข้ามาในระบบ เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐในการตรวจสอบ ติดตาม และสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้อย่างง่ายดายขึ้น
ทั้งนี้ องค์การช่วยเหลือเด็ก (Save the Children) และมูลนิธิช่วยไร้พรมแดน (Help Without Frontiers) ประเมินว่าเด็กข้ามชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมีจำนวนประมาณ 300,000-400,000 คน แต่เด็กเหล่านี้มีโอกาสเข้ารับการศึกษาจริงประมาณ 74,967 คนเท่านั้น เนื่องจากเด็กส่วนใหญ่เป็นบุคคลไร้สถานะ และผู้ปกครองลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย





ขบวนการประชาธิปไตยใหม่รณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ
ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ ออกแถลงการณ์เรื่องจุดยืนต่อการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันไปลงมติไม่รับร่างดังกล่าว และร่วมกันหาหนทางไปสู่ระบอบประชาธิปไตยด้วยมือของประชาชนเอง
แถลงการณ์ที่เผยแพร่บนหน้าเฟซบุ๊กขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (New Democracy Movement - NDM) ลงวันที่ 30 มี.ค. 2559 อ้างถึงกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) นำโดยนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ได้แถลงเปิดเผยรายละเอียดของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมจากร่างแรกเมื่อสองเดือนที่แล้ว ซึ่งทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่ยังเห็นว่า ร่างรัฐธรรมนูญนี้ยังคงมีบทบัญญัติที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยในหลายประเด็น เช่นใช้ถ้อยคำกำกวมเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพ การให้สิทธิชุมชนแบบครึ่งๆ กลางๆ การตัดโอกาสทางการศึกษาระดับมัธยมปลายและอาชีวศึกษา การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่บิดเบือนความต้องการที่แท้จริงของประชาชน รวมทั้งโครงสร้างศาลและองค์กรอิสระที่ขาดการยึดโยงกับประชาชน เป็นต้น
แถลงการณ์ยังระบุว่า ประเด็นทั้งหมดทั้งมวลนี้แสดงให้เห็นว่าร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวยังคงพยายามบ่อนเซาะสถาบันที่มาจากการเลือกตั้งให้อ่อนแอ และเอื้อให้สถาบันที่ไม่ได้ยึดโยงกับประชาชนเป็นผู้บงการการเมืองไทยในระยะยาว ไม่ต่างจากร่างเมื่อสองเดือนที่แล้ว จึงไม่มีทางที่ร่างรัฐธรรมนูญนี้จะนำพาประเทศไทยไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยได้


จีนรับศพทหารในสงครามเกาหลีกลับประเทศ
ศพทหารจีน 36 นายถูกนำกลับแผ่นดินเกิดอีกครั้ง หลังจากสละชีพในสงครามเกาหลีเมื่อกว่า 60 ปีก่อน นับเป็นการส่งศพทหารจีนกลับประเทศครั้งที่ 3 ตามข้อตกลงที่จีนและเกาหลีใต้ทำขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้น
ศพทหารจีนชุดนี้ถูกขุดขึ้นจากสุสานทหารในเมืองพาจู ใกล้พรมแดนเกาหลีเหนือเมื่อปีก่อน โดยเจ้าหน้าที่กลาโหมของเกาหลีใต้และจีนได้ร่วมพิธีส่งศพที่ท่าอากาศยานอินชอน ก่อนที่ศพทั้งหมดจะถูกส่งไปยังเมืองเสิ่นหยาง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนซึ่งเป็นที่ตั้งของสุสานทหารจีน
สงครามเกาหลีระหว่างปี 2493-2496 เป็นความขัดแย้งระหว่างฝ่ายเกาหลีเหนือที่ได้รับการสนับสนุนโดยจีนและอดีตสหภาพโซเวียตกับฝ่ายเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลังสหประชาชาติที่นำโดยสหรัฐฯ สงครามครั้งนี้มีทหารฝ่ายคอมมิวนิสต์เสียชีวิตไป 1.5 ล้านนาย และคร่าชีวิตทหารเกาหลีใต้ไป 400,000 นาย ทหารอเมริกัน 30,000 นาย ทหารสหราชอาณาจักร 1,000 นาย และพลเรือนอีกอย่างน้อย 2 ล้านคน
ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า ในช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมามีการพบศพทหารเกาหลีเหนือและทหารจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลด้วยการวิเคราะห์ชุดเครื่องแบบหรืออาวุธปืนและกระสุนปืน แต่ส่วนใหญ่มักไม่สามารถระบุชื่อทหารได้
นับแต่จีนและเกาหลีใต้ทำข้อตกลงส่งศพทหารในสงครามเกาหลีกลับประเทศเมื่อปี 2557 ได้มีการส่งศพทหารจีนกลับมาตุภูมิแล้ว 505 ศพ และทั้งหมดได้ถูกส่งกลับก่อนถึงเทศกาลเช็งเม้ง ซึ่งตรงกับวันที่ 4 เม.ย. ส่วนศพของทหารเกาหลีเหนือเกือบ 800 นายยังไม่ได้ถูกส่งกลับประเทศเพราะปัญหาความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองเกาหลี



ทอร์นาโดถล่มรัฐโอคลาโฮมา
พายุทอร์นาโดหลายลูก พัดเข้าถล่มรัฐโอคลาโฮมาในสหรัฐฯ ช่วงคืนวานนี้ (30 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น) ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 9 คน อาคารบ้านเรือนจำนวนมากได้รับความเสียหาย และหลายพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยพื้นที่ตอนเหนือของเมืองทูลซาได้รับความเสียหายมากที่สุด ‪#‎Oklahoma‬ ‪#‎Tornado‬

Loading video....
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Thursday, March 31, 2016


รัฐสภาเมียนมาเตรียมตั้งออง ซาน ซูจีเป็น "มนตรีแห่งรัฐ"
รัฐสภาชุดใหม่ของเมียนมา เสนอร่างกฎหมายให้นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี รับตำแหน่ง “มนตรีแห่งรัฐ” ซึ่งจะมีอำนาจหน้าที่คล้ายนายกรัฐมนตรี
ร่างกฎหมายดังกล่าว มีเนื้อหาเพื่อการจัดตั้งตำแหน่ง “มนตรีแห่งรัฐ” (State Counsellor) ซึ่งจะให้อำนาจแก่ผู้รับตำแหน่งดังกล่าว สามารถทำงานดูแลประเด็นสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาลได้ และสามารถพบปะกับผู้ใดก็ได้ตามที่ต้องการ โดยมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 5 ปี นับจากนี้
เมื่อวานนี้ นางซูจีได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วถึง 3 ตำแหน่ง พร้อมกับนายถิ่น จ่อ ซึ่งสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี โดยนางซูจีเคยกล่าวว่า จะบริหารประเทศโดยสั่งการผ่านประธานาธิบดี
คาดกันว่า การออกกฎหมายเพื่อมอบตำแหน่ง “มนตรีแห่งรัฐ” แก่นางซูจีในครั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันการตั้งข้อกล่าวหาว่า นางซูจีกระทำการขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยใช้อำนาจผ่านประธานาธิบดี เนื่องจากเนื้อหาในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันห้ามนางซูจีซึ่งมีบุตรเป็นชาวต่างชาติเข้ารับตำแหน่งดังกล่าว


เกิดเหตุระเบิดหลายจุดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.ปัตตานี
กลุ่มก่อเหตุลอบวางระเบิดหลายจุดอย่างต่อเนื่องในเขตเทศบาลอำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี ตั้งแต่ช่วงกลางดึกวันที่ 30 มี.ค.จนถึงเช้าวันนี้ (31 มี.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ โดยก่อนหน้านี้ 1 วันมีเหตุยิงโจมตีฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลและลอบยิงประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานีเสียชีวิตก่อนเกิดเหตุระเบิดอีกด้วย
เหตุระเบิดเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางดึกประมาณ 23.20 น.วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเหตุระเบิด 6 จุดเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันบริเวณเขตเทศบาลอำเภอยะหริ่ง ม.2 ต.ยามู อ.ยะหริ่ง ได้แก่ จุดที่ 1 บริเวณหน้าตู้ ATM ธนาคารออมสิน หน้าสหกรณ์การเกษตรยะหริ่ง จุดที่ 2 บริเวณตลาดนัด ริมถนนโกมุท เทศบาลตำบลยะหริ่ง จุดที่ 3 หน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เทศบาลตำบลยะหริ่ง จุดที่ 4 บริเวณร้านขายน้ำชา ถนนหน้าวัง เทศบาลตำบลยะหริ่ง จุดที่ 5 หน้าร้านขายของชำ ถนนหน้าวังเทศบาลตำบลยะหริ่ง และจุดที่ 6 บริเวณทางแยกถนนหน้าวัง เยื้องไปรษณีย์ยะหริ่ง เทศบาลตำบลยะหริ่ง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยะหริ่งซึ่งกำลังตั้งด่านตรวจดูแลรักษาความปลอดภัย ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย ทั้งหมดถูกนำตัวส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลยะหริ่ง
จากนั้น เวลาประมาณ 06.30 น. หน้าที่ทำการไปรษณีย์ยะหริ่ง ถนนหน้าวัง เทศบาลตำบลยะหริ่ง จ.ปัตตานี ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 1 ราย
ต่อมาเวลา 09.30 น. คนร้ายลอบวางระเบิดที่บริเวณ ม.3 บ้านบางปู อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมด้วยชุดพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ปัตตานี กำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และแรงระเบิดส่งผลให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
ก่อนหน้านี้มีสถานการณ์ไม่สงบเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยเมื่อวันที่ 29 มี.ค. เวลา 22.50 น. กลุ่มก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงรบกวนฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลพิเทน บ้านข่าลิง ม. 1 ต.พิเทน อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี แต่ไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ และวันที่ 30 มี.ค. เวลา 17.05 น. เกิดเหตุลอบยิงนายธีระพงษ์ พัฒนะบุษย์ เจ้าหน้าที่ อบต.กระโด อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เสียชีวิต
ภาพประกอบจากคลังภาพ


นายกสมาคมสื่อไทย ชี้รัฐไม่ควรจำกัดสิทธิสื่อมากเกินไป ยืนยันสังคมต้องการรายงานข้อเท็จจริง
นายวันชัย วงศ์มีชัย นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงข้อจำกัดในการทำข่าวของผู้สื่อข่าวขณะนี้ว่าแม้สื่อเองก็พยายามเข้าใจความจำเป็นของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และหลีกเลี่ยงการยั่วยุหรือนำไปสู่สถานการณ์ที่รุนแรง แต่ไม่ควรจะจำกัดสื่อไม่ให้นำเสนอข้อเท็จจริงเพราะประชาชนต้องการข้อมูลข่าวสาร
“การทำข่าวในปัจจุบันก็มีคำสั่งต่างๆ ที่ออกมาอาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของสื่อซึ่งแม้ว่าเราจะเข้าใจสถานการณ์ว่าเป็นความจำเป็นของรัฐก็ตาม แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่มาจำกัดสิทธิมากเกินไปเพราะบางเรื่องเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและสังคมควรได้รับข้อมูล แต่การนำเสนอนั้นทางสื่อเองต้องพิจารณาว่านำเสนอแล้วไม่เป็นการยั่วยุหรือทำให้เข้าใจไม่ถูกต้องหรือทำให้สถานการณ์รุนแรง เราพร้อมจะให้ความร่วมมือ แต่ไม่ให้สื่อรายงานไม่ได้”
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงหลักสูตรปรับทัศนคติ และว่าจะมีโควต้าให้นักข่าวด้วยนั้น นายวันชัยระบุว่าอาจจะมีการหารือกันต่อไป แต่ขณะนี้ยังติดภารกิจในต่างจังหวัด
เมื่อวานนี้ นายชัยพินธ์ ขัติยะ หัวหน้าศูนย์ข่าวไทยรัฐประจำจังหวัดเชียงใหม่ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ไปพบที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อนำตัวไปทำการสอบสวนร่วมกับทางฝ่ายทหาร ที่มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ อ.เมืองเชียงใหม่ จากกรณีที่รายงานข่าวหญิงสาวโพสต์ภาพคู่ขันแดงที่มีลายเซ็นของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตรโดยเจ้าหน้าที่ทหารเกรงว่าอาจจะเกิดการแตกแยกขึ้นได้ในสถานการณ์ของบ้านเมืองในขณะนี้ และขอความร่วมมือในการนำเสนอข่าว
วันเดียวกัน นายประวิตร โรจนพฤกษ์ ผู้สื่อข่าวเว็บไซต์ข่าวสด ภาคภาษาอังกฤษได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้เขาเดินทางเข้าร่วมประชุมวันเสรีภาพสื่อมวลชนโลก ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์


ความงามของสถาปัตยกรรมแบบนาโน
รีเบกกา โร้ก รวบรวมภาพผลงานการออกแบบจากแนวคิดสถาปัตยกรรมแบบนาโน ซึ่งเป็นการออกแบบโครงสร้างที่มีขนาดเล็ก รวม 300 ภาพ ไว้ในหนังสือ Nanotecture : Tiny Built Things เธอบอกว่าต้องการแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนขนาดเล็กไม่ใช่อุปสรรคสำหรับความคิดสร้างสรรค์
บีบีซีรวบรวมภาพบางส่วนมาให้ชมค่ะ ‪#‎Nanotecture‬



เกรทแบร์ริเออร์รีฟ เผชิญปัญหาปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุด
พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าแนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ในออสเตรเลียกำลังเผชิญวิกฤติปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุด ส่งผลให้กลุ่มอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้องค์การสหประชาชาติขึ้นบัญชีให้แนวปะการังแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกที่กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย
คณะทำงานติดตามแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาวแห่งชาติของออสเตรเลีย ระบุว่า 95% ของแนวปะการังที่อยู่ระหว่างเมืองแคร์นส์ ของออสเตรเลียไปถึงประเทศปาปัวนิวกินีกำลังประสบภาวะฟอกขาวอย่างรุนแรง โดยการสำรวจพบว่ามีแนวปะการังเพียง 4 จุดจากทั้งหมด 520 จุดที่ยังไม่เกิดภาวะฟอกขาว
เมื่อปีก่อน องค์การยูเนสโกมีมติไม่จัดให้เกรทแบร์ริเออร์รีฟอยู่ในบัญชีแหล่งมรดกโลกที่กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย แต่ข้อมูลล่าสุดทำให้บรรดากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้ยูเนสโกทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปะการังฟอกขาว เป็นปรากฏการณ์ที่ปะการังมีสีซีดจางลงจนมองเห็นเป็นสีขาว เนื่องจากปะการังตกอยู่ในภาวะเครียดแล้วขับสาหร่ายที่เรียกว่า “ซูแซนแทลลี” ซึ่งเป็นตัวสร้างสีสันให้ปะการังออกมา ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากกระแสน้ำอุ่นตามธรรมชาติ และยิ่งเลวร้ายลงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากสถานการณ์ต่าง ๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็จะทำให้แนวปะการังฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่อาจต้องใช้เวลาหลายสิบปี และหากสภาพความเครียดยังคงดำเนินต่อไปปะการังก็จะตายไปในที่สุด
ในกรณีของเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่ามันจะฟื้นตัวอีกหรือไม่ แต่รายงานล่าสุดพบว่าแนวปะการังที่เกิดภาวะฟอกขาวตายไปแล้ว 50% ซึ่งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้นและทำให้ปะการังฟอกขาวในครั้งนี้

Loading video......
Posted by บีบีซีไทย - BBC Thai on Wednesday, March 30, 2016


กลุ่มรณรงค์พิทักษ์สิทธิสัตว์แอฟริกาใต้ ขอร้องไม่ให้ฆ่าสิงโตที่หนีหลุดออกจากเขตอุทยาน
สิงโตที่มีชื่อว่า "ซิลเวสเตอร์" หลบหนีออกจากเขตอุทยานแห่งชาติคารู ในแอฟริกาใต้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (27 มี.ค.) โดยโฆษกอุทยานบอกว่า มันลอดโพรงใต้รั้วไฟฟ้าออกมาด้านนอก ซึ่งโพรงดังกล่าวเกิดจากดินยุบหลังฝนตกหนัก
ในวันอังคารต่อมา เจ้าหน้าที่บริหารของอุทยานได้ทวีตข้อความว่า “การที่ต้องตัดสินใจในวันนี้ว่า จำเป็นต้องฆ่าเจ้าซิลเวสเตอร์หรือไม่หากพบตัวมัน ไม่ใช่การตัดสินใจที่ทำได้ง่าย” ทำให้หลังจากนั้นมีผู้ออกมารณรงค์คัดค้านทางออนไลน์กันมากมาย รวมถึงกลุ่มรณรงค์พิทักษ์สิทธิสัตว์ที่ออกมาอ้อนวอนขอให้รักษาชีวิตมันเอาไว้ โดยรณรงค์ให้ชาวเน็ตใช้แฮชแท็ก ‪#‎SaveSylvester‬
กระแสเรียกร้องดังกล่าว ทำให้ทางอุทยานต้องออกมาแก้ข่าวว่า การฆ่าเป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกที่มีทั้งหมด 5 ทางด้วยกัน รวมถึงการนำเจ้าซิลเวสเตอร์กลับมาที่อุทยาน และปรับปรุงรั้วล้อมที่อยู่ของมันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
เมื่อเดือนมิ.ย. ปีที่แล้ว เจ้าซิลเวสเตอร์ได้เคยหลบหนีออกจากอุทยานมาครั้งหนึ่ง โดยมันรอนแรมห่างจากอุทยานออกไปถึง 300 กม. นานถึง 3 สัปดาห์ ทั้งได้ออกล่าฝูงแกะและฆ่าตายไป 1 ตัว เจ้าหน้าที่อุทยานจับตัวมันได้ ตอนมันกำลังหลับอยู่บริเวณเขา Nuweveld ในเขต Western Cape โดยหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สวมปลอกคอติดสัญญาณติดตามให้กับมัน
สำหรับครั้งนี้ มีรายงานว่า มันรอนแรมอยู่ห่างจากอุทยานออกไปประมาณ 20 กม. และได้ฆ่าวัวตายไปแล้ว 1 ตัว โดยถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ก็ยังตามหาตัวมันอยู่
รายงานข่าวชี้ว่า ที่เคนยา ก็มีปัญหาสิงโตหลบหนีเช่นกัน โดยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีสิงโตที่หลบหนีออกจากอุทยานในไนโรบีหลายตัว ซึ่งล่าสุดได้ถูกยิงตายไปแล้วหนึ่งตัว
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ)





มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียถูกวิจารณ์หนัก หลังออกคู่มือระบุว่าอังกฤษ "รุกราน" แดนจิงโจ้
มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ (UNSW) ในออสเตรเลียถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังออกคู่มือแนะนำการใช้คำในงานเขียนวิชาการว่าด้วยชนพื้นเมืองและประวัติศาสตร์ออสเตรเลีย โดยแนะนำให้นักศึกษาใช้คำว่า "รุกราน" เมื่อกล่าวถึงการที่กัปตันเจมส์ คุก ชาวอังกฤษ เดินทางมาถึงและเข้ายึดครองออสเตรเลีย แทนการใช้คำว่า "ค้นพบ" หรือ "ตั้งถิ่นฐาน" แบบที่เคยใช้กันมา
นอกจากนี้ คู่มือดังกล่าวยังระบุว่าออสเตรเลียนั้นถูก "รุกราน เข้าครอบครอง และทำให้เป็นอาณานิคม" ส่วนกัปตันเจมส์ คุก นั้นไม่ใช่ผู้ "ค้นพบ" ออสเตรเลีย แต่เป็น "ชาวอังกฤษคนแรกที่สำรวจพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย"
หนังสือพิมพ์เดลี่ เทเลกราฟ และสถานีวิทยุบางแห่งของออสเตรเลีย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คู่มือดังกล่าวอย่างเผ็ดร้อน ว่าเป็นการพยายามเขียนประวัติศาสตร์ของออสเตรเลียเสียใหม่ อย่างไรก็ตาม ทางมหาวิทยาลัยออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้บังคับนักศึกษาให้เขียนงานวิชาการตามแบบคู่มือดังกล่าว เพียงแต่แนะนำว่า คำใดมีความเหมาะสมมากกว่ากันในแต่ละบริบทเท่านั้น เนื่องจากการใช้ภาษาโดยไม่ระมัดระวังอาจมีความไม่เป็นกลางและสื่ออคติของผู้เขียนออกมาได้
ทั้งนี้ ตามข้อเท็จจริงในประวัติศาสตร์ กัปตันเจมส์ คุก ประกาศเข้าครอบครองพื้นที่ทางตะวันออกของออสเตรเลียในนามของอังกฤษเมื่อปี 1770 ซึ่งเป็นเวลาถึง 160 ปี หลังจากที่ชาวดัทช์ได้เข้าสำรวจทำแผนที่ในดินแดนส่วนดังกล่าวมาก่อน นอกจากนี้ ในช่วงที่กัปตันคุกมาถึง มีชนพื้นเมืองออสเตรเลียตั้งถิ่นฐานอยู่แล้วถึง 250 เผ่า ซึ่งมีภาษา วัฒนธรรม และเขตแดนที่ครอบครองแตกต่างกันไป
นอกจากนี้ คู่มือของมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยังแนะนำให้นักศึกษาเลี่ยงการใช้คำว่า "ชนพื้นเมือง" "บรรพกาล" "ก่อนประวัติศาสตร์" กับชาวอะบอริจินอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำว่า "ชนเผ่าเร่ร่อน" นั้นไม่แนะนำให้ใช้ เนื่องจากสนับสนุนข้ออ้างการเข้ายึดครองที่ดินของชาวอะบอริจิน โดยผู้ตั้งถิ่นฐานชาวอังกฤษในอดีต

เวียดนามสั่งจำคุกผู้หญิง 3 ราย ฐานชูป้ายและธงประท้วงรัฐ

หญิงชาวเวียดนาม 3 รายในวัยประมาณ 50 ปี ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกและสั่งกักบริเวณในที่พักอาศัย หลังชูธงและป้ายข้อความวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล

หนังสือพิมพ์เตินห์ เหนียน สื่อของเวียดนาม รายงานว่านางหงอ ทิ มินห์ อ็อก นางเหงียน ทิ ไตร และนางเหงียน ทิ เบ ไห่ ซึ่งมีอายุประมาณ 50 ปี ถูกศาลเวียดนามตัดสินลงโทษจำคุกระหว่าง 3-4 ปี รวมถึงสั่งกักบริเวณในที่พักอาศัยอีก 2 ปี ในความผิดข้อหาก่อกวนความสงบ รวมถึงผลิตและเผยแพร่ข้อมูลต่อต้านรัฐ

ทั้งหมดถูกจับกุมหลังเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงที่นครโฮจิมินห์เมื่อปี 2557 และมีการชูธงของอดีตรัฐบาลเวียดนามใต้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาช่วงสงครามเวียดนาม ทั้งยังมีการชูป้ายข้อความวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาที่ดินของรัฐบาลเวียดนามว่าไม่เป็นที่น่าพอใจ และ นสพ.เตินห์ เหนียน ระบุเพิ่มเติมว่าทั้งหมดเคยถูกจับและปรับเงินมาก่อน ในข้อหาเข้าร่วมการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

การตัดสินคดีนี้เกิดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังศาลเวียดนามลงโทษจำคุก 5 ปีแก่นายเหงียน หู วินห์ ผู้เขียนบล็อกชื่อดังซึ่งมีผู้ติดตามอ่านหลายล้านคน รวมถึงสั่งจำคุกผู้ช่วยของนายเหงียนเป็นเวลา 3 ปี ในความผิดฐานเขียนบทความ "บิดเบือนแนวนโยบายของพรรคและกฎหมายของรัฐ"

30 มี.ค. 2559 เวลา 9.00 น. เครือข่ายภาคประชาชนได้นำเสนอปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคอีสาน ในเวที 'กสม.พบประชาชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ' ณ โรงแรมโฆษะ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) วันนี้เป็นวันสุดท้าย (28-30 มี.ค. 2559) โดยมีเจ้าที่ทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบ เข้าสังเกตการณ์กว่า 10 คน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนรู้สึกกังวลต่อการพูดถึงปัญหาการละเมิดสิทธิ 
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น. ในช่วงของการถ่ายรูปร่วมกันระหว่างกรรมการสิทธิมนุษยชน ชาวบ้านได้ชู้ป้ายซึ่งมีข้อความเขียนด้วยลายมือ อาทิ “คัดค้าน พ.ร.บ.น้ำ” “หยุดแผนแม่บทป่าไม้” “หยุดตัดยางพาราชาวบ้าน” “หยุดกฎหมายละเมิดสิทธิมนุษยชน” ทำให้ถูกกรรมการสิทธิ์ฯ บางคนขอไม่ให้ชูป้าย ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนยืนยันจะแสดงสิทธิในการแสดงออกอย่างสันติ จึงตกลงให้ถ่ายภาพที่มีป้ายแสดงความคิดของชาวบ้านได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการถ่ายภาพขบวนการอีสานใหม่ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาที่ละเมิดสิทธิ์ในภาคอีสานและนักศึกษานักกิจกรรมในภาคอีสาน ได้ขออ่านแถลงการณ์ข้อเสนอ "ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประเด็นทรัพยากรธรรมชาติในภาคอีสาน" ต่อนายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)  แต่ประธาน กสม.ปฏิเสธที่จะรับฟังและเดินจากไปพร้อมๆ กับ กสม.คนอื่นๆ ในระหว่างที่ตัวแทนขบวนการอีสานใหม่อ่านแถลงการณ์ โดยอ้างว่าต้องรีบกลับ ขณะที่ตัวแทนขบวนการอีสานใหม่อ่านแถลงการณ์จนจบ

แถลงการณ์อีสานใหม่ มีรายละเอียด ดังนี้ 
แถลงการณ์อีสานใหม่
ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ประเด็นทรัพยากรธรรมชาติในภาคอีสาน
ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในประเด็นทรัพยากรธรรมชาติในภาคอีสานมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น หลังการรัฐประหาร เนื่องจากรัฐบาลที่มาจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้ออกคำสั่ง ฉบับที่ 64/2557 และ 66/2557 ตามแผนแม่บทป่าไม้ จากนั้นเจ้าหน้าที่รัฐก็ได้บังคับไล่รื้อชุมชนออกจากพื้นที่ทำกินโดยไม่มีการจัดสรรที่อยู่ให้ใหม่ ทำลายผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน นอกจากนั้นยังออกคำสั่ง ฉบับที่ 3, 4 และ 9/2559 ยกเว้นกฎหมายผังเมือง สนับสนุนเขตเศรษฐกิจพิเศษ นโยบายพลังงาน ทั้งเรื่องปิโตรเลียม และโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า เปิดช่องให้ดำเนินโครงการกว่า 70 โครงการ เช่น เขื่อน การคมนาคม ฯลฯ โดยไม่ต้องรอผลการอนุมัติรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมทั้งการเดินหน้า พระราชบัญญัติแร่ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม มุ่งรวมศูนย์อำนาจให้กับหน่วยงานของรัฐ ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยอาศัยอำนาจจากกฎหมายพิเศษทั้งจากกฎอัยการศึก มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว คำสั่งหัวหน้าคณะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงแห่งชาติ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ การใช้อำนาจเรียกตัวชาวบ้านที่ลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิไปปรับทัศนคติ รวมทั้ง การข่มขู่คุกคาม จากเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุมอย่างสันติ เพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของชาวบ้าน เป็นการกระทำละเมิดสิทธิ ลิดรอนเสรีภาพ และขาดการมีส่วนร่วมของประชาชน 
ในขณะที่ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นทรัพยากรธรรมชาติ ได้ขยายตัวและมีความรุนแรงมากขึ้น กลไกการคุ้มครองสิทธิในประเทศไทยกลับไม่สามารถคุ้มครองสิทธิประชาชนได้อย่างแท้จริง ซึ่งยิ่งเป็นการทำลายผืนดิน แหล่งน้ำและทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตของชุมชน พวกเรา “ขบวนการอีสานใหม่” จึงมีข้อเสนอต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเด็นทรัพยากรธรรมชาติ ต่อ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ดังนี้    
1. มีความเห็นไปยังรัฐบาลให้ยกเลิกการใช้อำนาจตามมาตรา 44 รวมทั้ง คำสั่ง 64/2557 และ 66/2557 ตามแผนแม่บทป่าไม้ คำสั่งคสช.ฉบับที่ 3, 4 และ 9/2559 พระราชบัญญัติแร่ พระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ และพระราชบัญญัติปิโตรเลียม ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ
2. ขอให้เร่งดำเนินตรวจสอบข้อร้องเรียนของประชาชนที่ยืนต่อคณะกรรมการสิทธิ และขอให้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน
ประกาศ ณ วันที่ 30 มี.ค. 59
ขบวนการอีสานใหม่

source :- http://www.citizenthaipbs.net/node/8193#.VvuL04mkw3k.facebook

ขับเคลื่อนโดย Blogger.