กรธ. เปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับพร้อมลงประชามติ เตรียมเดินสายสร้างความเข้าใจในระดับจังหวัด
นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) พร้อมด้วยคณะกรรมการร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวร่างรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ พร้อมใช้ในการทำประชามติแล้ว โดยระบุว่าหากปฏิรูปได้สำเร็จ เชื่อว่าประเทศไทยจะมีความผาสุกและพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ด้านโฆษก กรธ. แจงข้อเสนอของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาตินั้นรับฟัง แต่ไม่ได้แก้ไข ยืนยันบทบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนสอดคล้องอยู่แล้ว ส่วนมาตรา 257 ที่รับรองความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น ไม่ได้ถอดออกเพราะเป็นเรื่องจำเป็น
นายมีชัย ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงประเด็น ส.ว.สรรหา ว่า การเขียนให้มี ส.ว.สรรหาจำนวน 200 คน น่าจะเพียงพอตามความต้องการของ คสช.ที่ขอมา ทั้งนี้ เพื่อติดตามและเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ส่วนที่กำหนด ส.ว.อีก 50 คนมาจากการเลือกข้ามกลุ่มเป็นการทดลอง ซึ่งหากผิดพลาดยังสามารถแก้ไขได้ ในส่วนของ ส.ว.โดยตำแหน่ง 6 คนที่มาจากผู้บัญชาการเหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหมนั้น คงไว้ตามคำขอของ คสช. โดยคิดว่าจะไม่มีน้ำหนักต่อภาพรวมของ ส.ว. และสำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเฉพาะกาลว่าเป็นการสืบทอดอำนาจของ คสช.หรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า หากอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ก็จะได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี
ประธาน กรธ. ยังกล่าวถึงประเด็นเรื่องการไม่เขียนถึงการปฏิรูปกองทัพไว้ในร่างรัฐธรรมนูญให้เท่าเทียมกับการปฏิรูปองค์กรอื่นๆ ว่า ไม่ได้เกิดจากการเกรงใจกองทัพ แต่เนื่องจากกองทัพไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับประชาชน ขณะที่ให้มีการปฏิรูปตำรวจเนื่องจากตำรวจเกี่ยวโยงกับประชาชนโดยตรง
นายอมร วาณิชวิวัฒน์ โฆษก กรธ.กล่าวถึงข้อเสนอแนะและท้วงติงของสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่วิจารณ์ประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ทั้งสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมืองในร่างรัฐธรรมนูญว่า ร่างรัฐธรรมนูญของไทยต้องสอดคล้องกับกติกาและกฎหมายระหว่างประเทศที่ไทยเข้าเป็นภาคีอยู่แล้ว ซึ่งทาง กรธ. ขอขอบคุณข้อเสนอแนะ แต่ประเด็นนี้เป็นประเด็นภายในของไทย ในส่วนที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ กังวลเรื่องความสอดคล้องกับกติกาสากลนั้น ยืนยันว่า กรธ. ได้ทำให้สอดคล้องอยู่แล้ว
ในส่วนของข้อเสนอ ให้ยกเลิกมาตรา 257 ที่ให้การรับรองความชอบด้วยกฎหมายของคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวนั้น นายอมรกล่าวว่า ประเด็นนี้ กรธ. ไม่ได้แก้ไขหรือหยิบยกออกไป เพราะช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูง และอะไรก็เกิดขึ้นได้จำเป็นต้องคงอำนาจนี้ไว้เป็นหลักประกันให้กับ คสช. ซึ่งเป็นเหมือนรัฐบาลเฉพาะกาล
สำหรับ แนวทางในช่วงทำประชามตินั้น นายอมรกล่าวว่า กรธ. จะเดินสายไปทำความเข้าใจและให้ข้อมูลในจังหวัดต่าง ๆ โดยการประสานผ่านหัวหน้าหน่วยราชการเป็นหลัก แต่คงไม่สามารถทำได้ครบ 77 จังหวัดเพราะเวลาไม่พอ และไม่ได้มุ่งเน้นจังหวัดในภูมิภาคใดเป็นพิเศษ เพราะต้องยอมรับว่าไม่สามารถเปลี่ยนใจใครได้ ควรให้แต่ละคนได้เดินหน้าไปตามความคิดของตัวเอง โดยที่ผ่านมาเน้นสร้างความเข้าใจในส่วนของกองทัพก่อนเพราะได้รับการติดต่อมาก่อน และวันพรุ่งนี้ก็จะไปทำความเข้าใจเรื่องร่างรัฐธรรมนูญกับเจ้าหน้าที่ทหาร ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.