คณะกรรมาธิการยุโรปย้ำ อียูไม่ฟื้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศไทย ตราบเท่าที่รัฐบาลไม่เปิดกว้างแลกเปลี่ยนทัศนคติกับภาคประชาสังคม
เว็บไซต์ข่าว EUreporter ซึ่งเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับกิจการของสหภาพยุโรป รายงานว่า คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู ยืนยันว่า ยุโรปจะยังคงไม่ฟื้นการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีกับไทยต่อไป จนกว่าไทยจะหวนคืนสู่ประชาธิปไตย
ในเวทีอภิปรายเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหภาพยุโรป หรืออียู กับประเทศเอเชีย ที่กรุงบรัสเซลส์ เมื่อเร็วๆนี้ องค์ปาฐก โฮซุก ลี-มากิยามามา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศของยุโรป กล่าวว่า มองในแง่ประชาธิปไตย ประเทศไทยถือเป็นรัฐล้มเหลว คนไทยไม่ศรัทธาระบอบประชาธิปไตย เกิดรัฐประหารมากครั้งพอๆกับการเลือกตั้ง
เขากล่าวด้วยว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลทหารของไทยกำลังจัดทำนั้น ไม่ได้โน้มนำไปในทิศทางที่ถูกต้อง
เมื่อไม่นานมานี้ อียูลงนามเอฟทีเอกับเวียดนามและสิงคโปร์ไปแล้ว ในกลุ่มอาเซียนนั้น ไทยเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสามของอียู หากแต่อียูได้ระงับการเจรจาจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีทวิภาคีกับไทยหลังกองทัพเข้ายึดอำนาจเมื่อปี 2557 ก่อนหน้านั้น ทั้งสองฝ่ายเจรจากันไปแล้วหลายรอบนับแต่ปี 2556
ภายหลังรัฐประหาร อียูยังปฏิเสธที่จะลงนามเอกสารความตกลงว่าด้วยความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วน (พีซีเอ) กับประเทศไทย ซึ่งจัดทำแล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2556  อีกด้วย
โมโร เปตริกซิโอน รองอธิบดีการค้าของคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวถึงเงื่อนไขในการฟื้นเจรจาเอฟทีเอกับไทยว่า ไทยต้องยอมรับแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน และเปิดการสานเสวนากับภาคประชาสังคม
เขาบอกว่า ตนยังไม่เห็นวี่แววว่ายุโรปจะฟื้นการเจรจากับไทยในอนาคตอันใกล้ “เรามองไม่เห็นว่ารัฐบาลไทยยินดีสานเสวนากับประชาคมนานาชาติ”
“การเจรจาจะเกิดขึ้นใหม่ได้ต่อเมื่อเรามองเห็นสัญญาณว่าไทยพร้อมพูดคุย ถ้าเราไม่ได้รับสัญญาณในเรื่องนี้ คุณต้องตั้งคำถามว่า เป็นสิ่งถูกต้องหรือที่จะฟื้นการเจรจาการค้ากับไทย” เปตริกซิโอน ชาวอิตาเลียน ผู้ทำงานด้านนโยบายการค้านับแต่ปี 2530 กล่าว
เขาบอกด้วยว่า ตนไม่มีความหวังใดๆที่จะลุ้นว่า ไทยจะจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปอย่างเสรีและเป็นธรรม
ฟรังก์ ปรุสต์ ส.ส.ยุโรป ผู้ตรวจการณ์ด้านการค้าของอียู ซึ่งติดตามสถานการณ์ของประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาต่างๆในไทยเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ การทำข้อตกลงการค้าของอียูในอนาคตกับประเทศต่างๆ อย่างเช่น ไทย ควรตั้งเงื่อนไขในเรื่องเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนด้วย
วิกตอเรีย บาตาคลัน นักการทูตของอียูประจำฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ตนหวังว่าไทยจะเตรียมการคืนประชาธิปไตย และปรับปรุงสิทธิมนุษยชน การค้ากับประชาธิปไตยนั้นเป็นหีบห่อเดียวกัน การเจรจาจะฟื้นไม่ได้ตราบที่ยังไม่มีการปรับปรุง ตนเห็นว่า ควรถือเอาประชาธิปไตยเป็นเงื่อนไขของการค้า
ที่ผ่านมา อียูเคยใช้ความสัมพันธ์ทางการค้าเป็นเงื่อนไข ผลักดันฟิลิปปินส์ให้เปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย เป็นผลสำเร็จมาแล้ว.

Source: EUreporter
Photo:  AFP

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.