เกรทแบร์ริเออร์รีฟ เผชิญปัญหาปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุด
พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าแนวปะการังเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ในออสเตรเลียกำลังเผชิญวิกฤติปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุด ส่งผลให้กลุ่มอนุรักษ์ออกมาเรียกร้องอีกครั้งให้องค์การสหประชาชาติขึ้นบัญชีให้แนวปะการังแห่งนี้เป็นแหล่งมรดกโลกที่กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย
คณะทำงานติดตามแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาวแห่งชาติของออสเตรเลีย ระบุว่า 95% ของแนวปะการังที่อยู่ระหว่างเมืองแคร์นส์ ของออสเตรเลียไปถึงประเทศปาปัวนิวกินีกำลังประสบภาวะฟอกขาวอย่างรุนแรง โดยการสำรวจพบว่ามีแนวปะการังเพียง 4 จุดจากทั้งหมด 520 จุดที่ยังไม่เกิดภาวะฟอกขาว
เมื่อปีก่อน องค์การยูเนสโกมีมติไม่จัดให้เกรทแบร์ริเออร์รีฟอยู่ในบัญชีแหล่งมรดกโลกที่กำลังตกอยู่ในภาวะอันตราย แต่ข้อมูลล่าสุดทำให้บรรดากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมออกมาเรียกร้องให้ยูเนสโกทบทวนการตัดสินใจดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปะการังฟอกขาว เป็นปรากฏการณ์ที่ปะการังมีสีซีดจางลงจนมองเห็นเป็นสีขาว เนื่องจากปะการังตกอยู่ในภาวะเครียดแล้วขับสาหร่ายที่เรียกว่า “ซูแซนแทลลี” ซึ่งเป็นตัวสร้างสีสันให้ปะการังออกมา ภาวะเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อน้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้นจากกระแสน้ำอุ่นตามธรรมชาติ และยิ่งเลวร้ายลงจากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าหากสถานการณ์ต่าง ๆกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็จะทำให้แนวปะการังฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง แต่อาจต้องใช้เวลาหลายสิบปี และหากสภาพความเครียดยังคงดำเนินต่อไปปะการังก็จะตายไปในที่สุด
ในกรณีของเกรทแบร์ริเออร์รีฟ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่ามันจะฟื้นตัวอีกหรือไม่ แต่รายงานล่าสุดพบว่าแนวปะการังที่เกิดภาวะฟอกขาวตายไปแล้ว 50% ซึ่งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปรากฏการณ์เอลนีโญเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลพุ่งสูงขึ้นและทำให้ปะการังฟอกขาวในครั้งนี้


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.