มีอะไรใหม่ในร่าง รธน.มีชัย คำปรารภไงครับ คำปรารภที่บอกว่าวิกฤติที่เกิดขึ้น "จำต้องป้องกันและแก้ไขด้วยการปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมาย และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบคุณธรรมและจริยธรรม"
ซตพ.คนไทยมันไร้การศึกษา ด้อยคุณธรรมจริยธรรม อีก 2 เจเนอเรชั่นก็ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่สามารถปกครองตนเองได้ต้องให้คนดีมีศีลธรรมเข้ามามีอำนาจผ่านระบบแต่งตั้งอุปถัมภ์ เอาไว้ใกล้ถึงยุคพระศรีอาริย์ค่อยปกครองตนเอง
คำปรารภนี่ชัดเจนเลยว่าประชาธิปไตยในทัศนะชนชั้นนำคืออะไร คือไม่ขัดแย้ง จัดระเบียบ ใต้บังคับบัญชา ประเทศนี้จะเจริญก้าวหน้าได้ ประชาชนต้องเชื่อฟัง การทำเพื่อประโยชน์ประชาชน ต้องลิดรอนอำนาจประชาชน
อ้าวชัดเลย เพื่อประโยชน์ประชาชน คนไทยโง่เลวต้องรับร่างที่ไม่มีอำนาจเลือก สว. จากปี 40 เลือกทั้งสภา ปี 50 เลือกครึ่งหนึ่ง ตอนนี้ริบหมด
งงตรงนี้ ถ้าคนไทยรับร่าง แปลว่าคนไทยฉลาดขึ้น??? มีศีลธรรมสูงขึ้น??? จนเห็นว่าควรถอยหลังไปใช้ระบอบเมื่อ 30 ปีก่อน
จะปรับทัศนคติยังไงดีนะนี่ ให้คนไทยโง่ๆ ยอมรับ รธน.ที่ลดอำนาจตัวเอง รธน.ที่ถอยกลับไปใช้ระบอบที่ทิ้งมา 30 ปี
แต่เอานะ คนไทยผู้มีการศึกษายินดีรับร่างอยู่แล้ว 555 จริงด้วย ต้องปฏิรูปการศึกษา ยิ่งมีการศึกษายิ่งคิดไม่เป็น

000000

ใบตองแห้ง

"เหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่มีผู้ไม่นำพาหรือไม่นับถือยำเกรงกฎเกณฑ์การปกครองบ้านเมือง ทุจริตฉ้อฉลหรือบิดเบือนอำนาจ หรือขาดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบ ต่อประเทศชาติและประชาชน จนทำให้การบังคับใช้กฎหมาย ไม่เป็นผล ซึ่งจำต้องป้องกันและแก้ไขด้วยการปฏิรูปการศึกษาและการบังคับใช้กฎหมาย และเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบคุณธรรมและจริยธรรม"
คำปรารภในร่างรัฐธรรมนูญของกรธ. อ่านตอนแรกนึกว่าด่านักการเมือง ด่าคนขัดขวางเลือกตั้ง ที่ไหนได้ลงท้ายกลับบอกต้องปฏิรูปการศึกษา บังคับใช้กฎหมาย เสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม
อ้าวนี่แปลว่าคนไทยส่วนใหญ่ด้อยการศึกษา ขาดศีลธรรม จรรยา และไม่เชื่อฟัง จนต้องปรับทัศนคติกันอีก 2 เจเนอเรชั่น ยังงั้นหรือครับ มิน่าเล่า ร่างรัฐธรรมนูญถึงเห็นว่าคนไทยไม่ควรมีอำนาจปกครองตนเอง ต้องให้ชนชั้นนำคนดีมีศีลธรรมเข้ามา มีอำนาจผ่านระบบแต่งตั้งอุปถัมภ์ ใช้อำนาจสกัดกั้นกลั่นกรองอำนาจเลือกตั้ง จนกว่าคนไทยจะอยู่ในโอวาท ในศีลในธรรม เลิกขัดแย้งกัน เข้าใกล้ยุคพระศรีอาริย์เมื่อไหร่ค่อยปกครองตนเอง
ร่างรัฐธรรมนูญนี้เห็นว่า "เพื่อผลประโยชน์ประชาชน" จำเป็น ต้องลิดรอนอำนาจประชาชน ถ้าอยากให้ประเทศเดินหน้า ประชาชนต้องร่วมมือเชื่อฟัง "ประชารัฐ" ถ้าอยากเป็นประชาธิป ไตย ก็ต้องยอมให้จัดระเบียบ อยู่ใต้บังคับบัญชา ถ้าอยาก "ปราบโกง" ก็ต้องยอมรับระบบสรรหาคนดีกับพวกพ้องเครือญาติ
ร่างรัฐธรรมนูญมีชัยไม่ได้สรุปบทเรียนความผิดพลาดของรัฐธรรมนูญ 2550 แม้แต่น้อย ที่ลดอำนาจตัดสินใจของประชาชน เพิ่มอำนาจสรรหา เพิ่มอำนาจตุลาการภิวัฒน์ตัดสิน "สองมาตรฐาน" ทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมเพียงเพื่อทำลายล้างนักการเมืองจนทำให้วิกฤตบานปลาย
ยิ่งเกิดวิกฤต แทนที่คนชั้นนำจะโทษตัวเอง กลับโทษประชาชนที่นิยมพรรคการเมือง และยิ่งคิดจำกัดอำนาจประชาชน ลงทุกขั้นตอน ตั้งแต่สกัดคนเข้าสู่เลือกตั้ง เพิ่มอำนาจกกต. และศาลแจกใบแดง ซึ่งมีผลเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยม เพิ่มอำนาจองค์กรอิสระ สกัดการหาเสียงด้วยนโยบายจนแทบทำไม่ได้ เพิ่มอำนาจศาลรัฐธรรมนูญใช้ "มาตรฐานจริยธรรม" ถอดถอนตัดสิทธินักการเมืองโดยง่าย ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดทางกฎหมาย
มิหนำซ้ำ ยังแก้ไขบทเฉพาะกาลตามคำขอ ให้ ส.ว. 250 คนมาจากการสรรหา แล้วแต่งตั้ง 5 ปี โดยมี 6 ผบ.เหล่าทัพเป็นโดยตำแหน่ง
เรื่องย้อนแย้งคือแล้วจะเอาไปทำประชามติทำไม ในเมื่อ คนไทยเคยเลือกตั้งส.ว.ตามรัฐธรรมนูญ 2540 เคยได้เลือกกึ่งหนึ่งตามรัฐธรรมนูญ 2550 แต่ครั้งนี้จะให้ลงประชามติริบอำนาจตัวเอง กลับไปให้แต่งตั้งทั้งหมด พ้น 5 ปีแล้วก็ใช่ว่าจะได้เลือกตั้ง เพราะเป็นระบบผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญสมัครเข้ามาเลือกกันเอง
ถ้าเสียงส่วนใหญ่ยอมลงประชามติตัดอำนาจตัวเอง แปลว่าคนไทยฉลาดขึ้น มีการศึกษา ตระหนักในศีลธรรมจรรยา อย่างนั้นหรือ
แน่ละ มีคนจำนวนหนึ่งแซ่ซ้องโห่ร้องยินดี "รัฐธรรมนูญปราบโกง" นักการเมืองต่อต้านเพราะปิดช่องไม่ให้พวกมันโกง แต่คุณมอบอำนาจให้ใครปราบโกง คนที่มาจากการสรรหาและแต่งตั้งโดยสนช. โดยส.ว. โดยองค์กรอำนาจที่คุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแม้แต่น้อย แต่คุณก็ยังเชื่อว่าการสรรหาโดยคนชั้นนำจะได้คนดีกว่าประชาชนเลือกมา
ที่จริง กรธ.พูดถูกนะครับว่า ต้องปฏิรูปการศึกษา เพราะการ ศึกษาไทยทำให้คนคิดไม่เป็น โดยเฉพาะพวกที่มีการศึกษา
ร่างรัฐธรรมนูญมีชัยเป็นตัวแทนความคิดอำนาจศักดิ์สิทธิ์ดีงามต้องมาจากการแต่งตั้ง มาจากการสรรหากันเองในหมู่คนชั้นนำ ซึ่งมีศีลธรรม มีวุฒิภาวะเหนือประชาชนทุกด้าน คนเหล่านี้สมควรมีอำนาจเพราะไต่เต้ามาในระบบราชการหรือสังคม อุปถัมภ์ อำนาจจากเลือกตั้งของชาวบ้านไว้ใจไม่ได้ แต่จำเป็นต้องเลือกตั้งให้สังคมโลกยอมรับ
เหลือเชื่อว่าความคิดนี้ย้อนกลับมาได้ทั้งที่ถูกปฏิเสธไปร่วม 30 ปี ทั้งที่เงื่อนไขทางสังคมและการเมืองเปลี่ยนไป ทัศนคติ ความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนก็เปลี่ยนไป โลกวันนี้ยุคสังคม ออนไลน์ ไม่มีใครเชื่อใครโดยไม่ถูกตรวจสอบอีกแล้ว กระทั่งองค์กรอิสระที่เคยเป็นองค์กรเทวดาก็เสื่อมลงทุกขณะ
ร่างรัฐธรรมนูญนี้หรือที่จะให้ประชาชนลงประชามติ จะปรับ ทัศนคติอย่างไรให้คนไทยยอมรับว่าตนเองไม่สมควรมีอำนาจเลือกตั้ง ควรมอบอำนาจให้แต่งตั้ง
เอาละ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะผ่าน เพราะเราอยู่ในภาวะสังคม อับจนสิ้นหวัง ทุกชีวิตต้องระวัง เอาตัวรอดไว้ก่อน แต่ถามจริง จะใช้ปกครองได้อย่างไร ยังมองไม่เห็นเลย ว่าหมด ม.44 แล้วประเทศนี้จะไปอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.