17.30 น.ตำรวจจะขอคืนพื้นที่ประตู 5 ,6 วัดพระธรรมกาย

เจ้าหน้าที่จัดเตรียมกำลังตำรวจจากจังหวัดสมุทรปราการ และ จังหวัดสระบุรี จำนวนกว่า4กองร้อย หรือกว่า 600 นาย เตรียมเข้าคืนพื้นที่บริเวณประตู 5-6 เลียบถนนคลองแอล วัดพระธรรมกาย หลังเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย ได้พังรั้วกั้นเข้าไปนั่งสวดมนต์ บริเวณลานทางเข้าประตู 5-6 เพื่อขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

โดยพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ไม่ใช้อาวุธกับปฏิบัติการในครั้งนี้ พร้อมแบ่งส่วนปฏิบัติงานเป็นสองชุด ชุดละ2กองร้อย ตั้งแถวดันให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย เข้าไปภายในประตู5และ6 ของวัดพระธรรมกาย ส่วนบุคคลที่ไม่ประสงค์เข้าไปในพื้นที่เจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ไปได้ พร้อมกังวลมือที่3 สร้างสถานการณ์ หลังสกัดจับอาวุธปืนได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ล่าสุดยังไม่ได้รับการประสานจากพระสงฆ์วัดพระธรรมกายจำนวน14รูป ที่ต้องเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์ ขึ้นบินเหนือวัดพระธรรมกาย อีกครั้งเพื่อเก็บภาพถ่ายทางอากาศ

000000

คำสั่งฉบับที่ 2 จากดีเอสไอ เรียกตัวพระธัมมชโยและพระวัดธรรมกาย 14 รูป รายงานตัวที่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ภายในเวลา 18 น.


ธรรมกายประกาศรวมพลภายใน24 ชั่วโมง

มีข่าวแจ้งจากวัดพระธรรมกายว่า ทางคณะสงฆ์ทั้งภาคพื้นเอเชีย และทั่วโลก ขานรับการขอความช่วยเหลือจากวัดพระธรรมกาย ประกาศเจตนารมณ์ไม่ยอมรับ การประกาศใช้มาตรา 44 ของคสช. ที่บังคับขู่เข็ญละเมิดสิทธิ์ ต่อพระสงฆ์ชาวพุทธ
.
และสงฆ์ทุกนิกาย พร้อมเดินทางเข้าร่วมกดดัน หากมีการใช้กำลังกับวัดพระธรรมกาย
.
เบื้องต้น คณะสงฆ์ทุกภาคของประเทศไทย รับฎีกา เข้าร่วมปฏิบัติการ ชวนญาติมิตร เข้ากรุงเทพ ปทุมธานี ภายใน 48 ชั่วโมง

ประชาชนชาวพุทธ 5 แสนคนในเขตภาคกลาง เพื่อกดดันเรียกร้องให้ยกเลิก มาตร 44 กับวัดพระธรรมกาย ภายใน 24 ชั่วโมง

ชาวพุทธทุกท่าน เวลาที่ท่านรอคอย มาถึงแล้ว !!!!

Thai Monks
19/2/2559
12:00น.



คำชี้แจงจากวัดพระธรรมกาย 19 ก.พ. 2560

1.ที่ผ่านมา 3 วัน ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นอย่างละเอียดทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ทั้งพื้นที่เป้าหมายทุกจุดและอาคารต่างๆ รวมทั้ง พื้นที่รอบนอกวัด และได้นำสกอตช์เทปสีแดง ที่มีโลโก้ดีเอสไอ ซีลที่ประตูทางเข้าอาคารสำนักงานและอาคารบริเวณรอบๆ และอาคารดาวดึงส์ รวม 15 หลัง ซึ่งทางวัดได้อำนวยความสะดวกทุกประการด้วยความเรียบร้อยดี 

2.กรณีญาติโยมยังอยู่กันมากและไม่ได้กลับออกไป ไม่ใช่เพราะประเด็นของหลวงพ่อธัมมชโย แต่เพราะห่วงพระลูกพระหลานในวัด เพราะญาติโยมเหล่านี้เป็นโยมพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของพระเณร จึงมาดูแลด้วยความเป็นห่วง และสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา รวมทั้ง เป็นห่วงวัดและทรัพย์สินของวัด เนื่องจากมีข่าวจากโซเชียลเน็ตเวิร์กแพร่หลายว่า อาจมีการเข้ามายึดทรัพย์สินของวัด ยึดรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ยึดอาคารสถานที่ของวัดไปทำเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ นำของผิดกฏหมาย เช่น อาวุธ ยาเสพติด มายัดเยียดแล้วใส่ร้ายพระและวัด ฯลฯ โดยเฉพาะวันที่ 2 ของการตรวจค้น เจ้าหน้าที่มาเต็มอัตรา ทั้งรถตู้ รถบัส หลายสิบคัน สร้างความตื่นตระหนักอย่างมากให้กับสาธุชนที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งทางวัดไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในรถได้ รวมทั้ง การนำสุนัขตำรวจเข้ามาด้วยก็ยิ่งไม่สบายใจ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เจ้าหน้าที่จะเป็นคนทำเรื่องไม่ดีดังกล่าว แต่ข่าวลือผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ทุกคนหวาดระแวงไปหมดในทุกเรื่อง จึงขอได้โปรดเห็นใจพระเณรและญาติโยมด้วย

3.ขอความกรุณา คสช. และรัฐบาล ยกเลิก ม.44 เพราะพระภิกษุสามเณร ได้รับความลำบากในการบิณฑบาต และบำเพ็ญสมณะกิจอื่นๆ และเนื่องจากมีการสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา บางครั้งข้อมูลสื่อสารไม่ถึงกัน พระเณรออกไปงานศพญาตินอกวัด ก็ไม่สามารถกลับเข้าวัดได้ 

4.วันที่ 21-23 ก.พ. 2560 ที่จะถึงนี้ เป็นการสอบพระบาลีของพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ โดยพระภิกษุสามเณรของวัดหลายร้อยรูปต้องออกไปสอบพระบาลี ขอความกรุณาเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สามารถสอบได้ หรือขอความเมตตาไปยังการคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบจากมหาเถรสมาคม เข้ามาจัดสนามสอบภายในวัดพระธรรมกาย เพราะสามเณร คือเยาวชนที่ดีของชาติ มาศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ได้ทำร้ายสังคม ไม่เป็นภาระของชาติ แต่ช่วยให้การสืบสานวัฒนธรรมไทยและสืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตอีกด้วย
5.มีข่าวจากสื่อมวลชนว่า จะมีการตัดน้ำตัดไฟวัด ทางวัดขอความเห็นใจว่า จะสร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณรที่บำเพ็ญสมณกิจ รวมทั้งญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ขอความกรุณาอย่าใช้มาตรการนี้ เพราะไม่สมเหตุสมผล ที่ผ่านทางวัดเองก็ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา
พระสนิทวงศ์ วุฑฺฒิวํโส
ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร
วัดพระธรรมกาย
19 ก.พ. 2560



Thapanee Ietsrichai

ดีเอสไอแถลงกรณีมีข่าวว่าเจ้าหน่าที่จะยึดทรัพย์สินวัดพระธรรมกายไม่เป็นความจริง ขออย่าหลงเชื่อการปลุกระดม ใครฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สืบเนื่องจากการที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ได้มีการออกแถลงการณ์พนักงานเจ้าหน้าที่ตามคาสั่งที่คสช.ที่5/2560 เวลา10.00 น. นั้น ต่อมามีข่าวจากโซเชียลเน็ตเวิร์คแพร่หลายว่า อาจมีการยึดทรัพย์สินของวัด ยึดรูปเหมือนทองคา หลวงปู่วัดปากน้า ยึดอาคารสถานที่ของวัด นาของผิดกฎหมายใส่ร้ายพระและวัดพระธรรมกาย และจับพระสึกนั้น ขอชี้แจงว่า ไม่เป็นความจริง 

ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารของทางราชการ และขอความร่วมมือปฏิบัติตาม คาสั่ง เรื่องการปฏิบัติการภายในเขตพื้นที่ควบคุม และแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ซึ่งได้แถลงไปเมื่อช่วงเช้า 

ขอแจ้งเตือนไปยังบุคคลผู้ทาการปลุกระดมให้มีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของ พนักงานเจ้าหน้าทใี่ ห้หยุดกระทาการ มิเช่นนั้นจะมีการดาเนินการตามกฎหมาย
 
ทั้งนี้ผู้ใดฝ่าฝืน จะมีความผิดตามคาสั่ง คสช.ฯ ที่ 5/2560 ระวางโทษจาคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจาทั้งปรับ


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.