พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เจ้าของฉายา "วีรบุรุษนาแก" และ "มือปราบตงฉิน" กล่าวถึงการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกอบกับการขอหมายค้นของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในปฏิบัติการบุกค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อค้นหาตัวพระเทพญาณมหามุนี (พระธัมมชโย) เจ้าอาวาสกิตติมศักดิ์ วัดพระธรรมกาย ผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ ในเพจ “คนวัดจัดเต็ม” เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาว่า
การกระทำแบบนี้มันเลือกปฏิบัติหรือไม่ มีการเมืองอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ทำอะไรก็อยากให้แฟร์ๆกับทุกฝ่าย เพราะทราบข่าวว่าบางวัดก็รับเงินจากบริษัทที่มีปัญหาเรื่องหนีภาษี ต้องแฟร์กับทุกฝ่าย ประเทศชาติ ประชาชนก็จะยอมรับได้ ต่างชาติก็จะยอมรับได้ วันนี้เอาทหารตำรวจมาสามสี่พัน หมดเบี้ยเลี้ยงไปเท่าไหร่ เบี้ยเลี้ยงนี่มันภาษีประชาชนทั้งนั้น เอามาผลาญกันอย่างนี้ ไม่มีประโยชน์อะไรขึ้นมาเลย การที่รัฐใช้ ม. 44 มาคุ้มครองว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ว่าไม่เป็นความผิด มันก็เอาเปรียบผู้ถูกกระทำมากเกินไปแล้ว คุณจะไปทำร้าย ไปทำลายเขา ทำให้บาดเจ็บล้มตาย แต่คุณกลับไม่มีความผิด บ้าหรือเปล่าที่ใช้มาตรานี้ อีกทั้ง ข้อหาฟอกเงินรับของโจรเป็นข้อหาธรรมดาๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ ม.44
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ระบุอีกว่า ถ้าไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง นายกรัฐมนตรี คุณประยุทธ ก็คงจะไม่ใช้ ม. 44 หรอก เพราะ ม. 44 นี้มันต้องใช้เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ระงับและปราบปรามผู้กระทำความผิด และการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย ของชาติและราชบัลลังก์ อีกทั้ง ยังตั้งคำถามไปยังมาตรฐานการจัดการกับกรณีที่น้องชายนายกรัฐมนตรีที่ขาดประชุม สนช.บ่อยครั้งแต่กลับเหมือนไม่รับผิดชอบ
“คุณประยุทธใช้ มาตรา 44 ฟุ่มเฟือยมากเกินไปนะครับ เพราะคุณประยุทธเกิดมาเป็นทหารไม่เคยใช้กฎหมาย ไม่รู้เรื่องกฎหมายหรอก ทำอะไรก็ผิดๆ พลาดๆ อยู่เสมอ ใช้เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมคุณประยุทธ์คิดไม่เป็นหรอก”
อดีต ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงภาพลักษณ์ของไทยขณะนี้ในมุมมองต่างชาติว่า ตอนนี้เหมือนวุ่นวายไปหมด เหมือนกับประเทศชาติไม่มีงานจะทำ ตนสงสารชาติ ประเทศไทยมันบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือไง ทำกับพระแบบนี้ คือลักษณะอย่างนี้พระเสียเปรียบตลอดเวลา เพราะพระไม่สามารถที่จะมาโวยวายได้ อย่างพี่น้องประชาชนทั้งหลาย ถูกจับยังต่อสู้โวยวายได้ แต่พระทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเข้าไปค้นแล้วไม่เจอตัว คราวนี้คนออกคำสั่งควรไปฆ่าตัวตายเลย ผมก็ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน แต่ทำไมไม่สืบทราบให้ดี ว่าอยู่ไม่อยู่ ก่อนที่จะไปขอหมายค้น”
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังเสนอทางออกว่า หากมองมุมพระธัมมชโย ถ้าท่านออกมามอบตัวต่อสู้คดีแล้วไม่ให้ประกัน มีการจับท่านสึกเลย หรือถูกควบคุมตัวแล้วเกิดติดเชื้อในกระแสเลือด จะทำอย่างไร ใครจะรับประกัน ตนเสนอให้ไปพูดคุยเจรจา ให้คำมั่นสัจจะกัน ก็แค่ให้ประกันตัวมันจะเสียหายอะไร จะจับท่านไปทำไม มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า มีธงไว้หรือเปล่า ที่มันเกิดปัญหาเพราะมันไม่แฟร์ ถ้าเป็นผม ผมก็คงไม่ไป เพราะไปก็ไม่รู้จะได้ความยุติธรรมหรือเปล่า
“ไม่เคยมีรัฐบาลไหนย่ำยีพระพุทธศาสนาได้มากถึงเพียงนี้ คุณเปลี่ยนยุทธวิธีซะใหม่ดีกว่านะครับในการจับกุมตัวพระรูปหนึ่ง ผมไม่เคยเห็นใครเขาทำกันขนาดนี้ เหมือนอย่างกับรบทัพจับสึกนะ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ระบุอีกว่า ถ้าไม่มีการเมืองอยู่เบื้องหลัง นายกรัฐมนตรี คุณประยุทธ ก็คงจะไม่ใช้ ม. 44 หรอก เพราะ ม. 44 นี้มันต้องใช้เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ระงับและปราบปรามผู้กระทำความผิด และการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อย ของชาติและราชบัลลังก์ อีกทั้ง ยังตั้งคำถามไปยังมาตรฐานการจัดการกับกรณีที่น้องชายนายกรัฐมนตรีที่ขาดประชุม สนช.บ่อยครั้งแต่กลับเหมือนไม่รับผิดชอบ
“คุณประยุทธใช้ มาตรา 44 ฟุ่มเฟือยมากเกินไปนะครับ เพราะคุณประยุทธเกิดมาเป็นทหารไม่เคยใช้กฎหมาย ไม่รู้เรื่องกฎหมายหรอก ทำอะไรก็ผิดๆ พลาดๆ อยู่เสมอ ใช้เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมคุณประยุทธ์คิดไม่เป็นหรอก”
อดีต ผบ.ตร. ยังกล่าวถึงภาพลักษณ์ของไทยขณะนี้ในมุมมองต่างชาติว่า ตอนนี้เหมือนวุ่นวายไปหมด เหมือนกับประเทศชาติไม่มีงานจะทำ ตนสงสารชาติ ประเทศไทยมันบ้านป่าเมืองเถื่อนหรือไง ทำกับพระแบบนี้ คือลักษณะอย่างนี้พระเสียเปรียบตลอดเวลา เพราะพระไม่สามารถที่จะมาโวยวายได้ อย่างพี่น้องประชาชนทั้งหลาย ถูกจับยังต่อสู้โวยวายได้ แต่พระทำอะไรไม่ได้
“ถ้าเข้าไปค้นแล้วไม่เจอตัว คราวนี้คนออกคำสั่งควรไปฆ่าตัวตายเลย ผมก็ไม่รู้ว่าท่านอยู่ไหน แต่ทำไมไม่สืบทราบให้ดี ว่าอยู่ไม่อยู่ ก่อนที่จะไปขอหมายค้น”
พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ ยังเสนอทางออกว่า หากมองมุมพระธัมมชโย ถ้าท่านออกมามอบตัวต่อสู้คดีแล้วไม่ให้ประกัน มีการจับท่านสึกเลย หรือถูกควบคุมตัวแล้วเกิดติดเชื้อในกระแสเลือด จะทำอย่างไร ใครจะรับประกัน ตนเสนอให้ไปพูดคุยเจรจา ให้คำมั่นสัจจะกัน ก็แค่ให้ประกันตัวมันจะเสียหายอะไร จะจับท่านไปทำไม มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า มีธงไว้หรือเปล่า ที่มันเกิดปัญหาเพราะมันไม่แฟร์ ถ้าเป็นผม ผมก็คงไม่ไป เพราะไปก็ไม่รู้จะได้ความยุติธรรมหรือเปล่า
“ไม่เคยมีรัฐบาลไหนย่ำยีพระพุทธศาสนาได้มากถึงเพียงนี้ คุณเปลี่ยนยุทธวิธีซะใหม่ดีกว่านะครับในการจับกุมตัวพระรูปหนึ่ง ผมไม่เคยเห็นใครเขาทำกันขนาดนี้ เหมือนอย่างกับรบทัพจับสึกนะ” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
source :- http://www.komkhao.com/content/7971
แสดงความคิดเห็น