สมาคมนักกฎหมายสิทธิแถลงเนื่ องในวันทนายความ จี้ 'สภาทนาย' พิทักษ์ความเป็นอิสระวิชาชีพ
Posted: 20 Feb 2017 07:04 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
20 ก.พ. 2560 สมาคมนักกฎหมายกฎหมายสิทธิมนุ ษยชน (HRLA) ออกแถลงการณ์เนื่องในวั นทนายความ (20 ก.พ.) เรียกร้องให้ สภาทนายความแสดงบทบาทอย่างเข้ มแข็งในการพิทักษ์ความเป็นอิ สระในการปฏิบัติหน้าที่ตามวิ ชาชีพของทนายความ รวมถึงเรียกร้องให้เพื่อนนั กกฎหมาย ทนายความ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกั บกฎหมายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึ งความยุติธรรมของประชาชน มีบทบาทหรือแสดงท่าทีในการปฏิ เสธกฎหมายและกระบวนการยุติ ธรรมที่ไม่ถูกต้อง เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่ สอดคล้องกับหลักนิติรัฐ/นิติ ธรรมและสิทธิมนุษยชน อันจะส่งผลต่อการเข้าถึงความยุ ติธรรมของประชาชนตามมาในภายหน้า
เนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า ภายหลังการยึดอำนาจของคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา มีการใช้กฎหมายและกระบวนการยุติ ธรรมที่มีความพิเศษผิ ดไปจากระบบปกติเพื่อจัดการกับผู้ เคลื่อนไหวที่เห็นต่างจากคณะรั ฐประหาร หรือจัดการกับชาวบ้านหรือบุ คคลที่ลุกขึ้นมามีส่วนร่วม เรียกร้องและตรวจสอบรัฐ ผ่านกฎหมายหรือคำสั่งของคณะรั ฐประหาร และที่สำคัญกระบวนการยุติ ธรรมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ในการให้ความเป็นธรรม คุ้มครองสิทธิเสรี ภาพของประชาชนและตรวจสอบการใช้ อำนาจรัฐได้อย่างที่ควรจะเป็น ขณะที่ทนายความถูกคุกคามผ่ านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม โดยยกกรณีทนายเบญจรัตน์ มีเทียน ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีโดยเจ้ าหน้าที่ทหารเพื่อตอบโต้กลั บจากการที่เธอได้รั บมอบอำนาจจากลูกความซึ่งตกเป็ นจำเลยในกรณี "ขอนแก่นโมเดล" ให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้ าที่ทหารเหล่านั้น และกรณีทนายศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่ อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นทนายความให้กับนักศึ กษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน หลังจากที่เธอไม่ยินยอมให้เจ้ าหน้าค้นรถเพื่อหาหลักฐานของ 14 นักศึกษา เนื่องจากเธอมองว่าเป็นการใช้ อำนาจตรวจค้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้เข้าแจ้งความฐานปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบต่อเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง เป็นสาเหตุให้เธอถูกแจ้ งความดำเนินคดีถึง 3 คดี
แถลงการณ์ชี้ว่า ในฐานะที่ทนายความมีบทบาทสำคั ญในการให้ความช่วยเหลื อทางกฎหมายแก่ประชาชน เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุ ษย์ของประชาชน การปฏิบัติหน้าที่ของทนายความจึ งต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเต็ มที่ เพื่อประกันว่าสิทธิ ของประชาชนจะได้รับการคุ้ มครองอย่างเป็นรูปธรรม
รายละเอียดมีดังนี้
แถลงการณ์ เนื่องในวันทนายความ
สภาทนายความต้องแสดงบทบาทอย่ างเข้มแข็งในการพิทักษ์ความเป็ นอิสระในการปฏิบัติหน้าที่ตามวิ ชาชีพของทนายความ
ภายหลังการยึดอำนาจของคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งแต่ 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา พบว่ามีการใช้ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมที่ มีความพิเศษผิดไปจากระบบปกติเพื่ อจัดการกับผู้เคลื่อนไหวที่เห็ นต่างจากคณะรัฐประหาร หรือจัดการกับชาวบ้านหรือบุ คคลที่ลุกขึ้นมามีส่วนร่วม เรียกร้องและตรวจสอบรัฐ โดยมีการเลือกใช้กฎหมายหรือคำสั่ งของคณะรัฐประหาร อาทิ พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 คำสั่งหัวหน้าคณะรั กษาความสงบแห่งชาติฉบับที่ 3/2558 เรื่องการรักษาความสงบเรียบร้ อยและความมั่นคงของชาติ หรืออื่นๆ เพื่อจัดการกับประชาชนที่ไม่ ยอมเชื่อฟัง และที่สำคัญกระบวนการยุติ ธรรมไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ ในการให้ความเป็นธรรม คุ้มครองสิทธิเสรี ภาพของประชาชนและตรวจสอบการใช้ อำนาจรัฐได้อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้การบังคับใช้กฎหมายค่อนข้ างเป็นไปโดยอำเภอใจและไร้เหตุ ผลที่ถูกต้อง ดังเราจะเห็นการเรียกคนเข้าค่ ายทหารหรือสถานี ตำรวจโดยปราศจากความผิด การตั้งข้อหาแปลกประหลาดพิ ศดารเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ
ร้ายกว่านั้น การปฏิบัติหน้าที่ ของทนายความในการให้ความช่ วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ต้ องหาหรือจำเลยก็ตกอยู่ ในสภาวะยากลำบาก กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมได้ ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมื อในการคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ ของทนายความด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมามี ทนายความอย่างน้อย 2 รายเท่าที่เรามีข้อมูล ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี คือ กรณีทนายเบญจรัตน์ มีเทียน ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีโดยเจ้ าหน้าที่ทหารเพื่อตอบโต้กลั บจากการที่เธอได้รั บมอบอำนาจจากลูกความซึ่งตกเป็ นจำเลยในกรณี "ขอนแก่นโมเดล" ให้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้ าที่ทหารเหล่านั้น และกรณีทนายศิริกาญจน์ เจริญศิริ ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่ อสิทธิมนุษยชน ซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายความให้กั บนักศึกษาขบวนการประชาธิ ปไตยใหม่ 14 คน ที่ถูกข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ซึ่งเธอถูกดำเนินคดีจากเหตุ การณ์ที่เจ้าหน้าจะทำการตรวจค้ นหาหลักฐานของ 14 นักศึกษาจากรถยนต์ของเธอ เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 27 มิถุนายน 2558 แต่เธอและทีมทนายความจากศูนย์ ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนไม่ ยอม เพราะการใช้อำนาจตรวจค้นไม่ ชอบด้วยกฎหมาย และเธอได้เข้าแจ้งความฐานปฏิบั ติหน้าที่โดยมิชอบต่อเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง นั้นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอถู กแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 3 คดี ได้แก่ 1) คดีข้อหากระทำความผิดฐานซ่อนเร้ นพยานหลักฐานและทราบคำสั่งเจ้ าพนักงานแล้วไม่ปฏิบัติตามคำสั่ งตามมาตรา 142 และมาตรา 368 ประมวลกฎหมายอาญา 2) คดีข้อหาแจ้งความเท็จตามมาตรา 172 และมาตรา 174 ประมวลกฎหมายอาญา และ3) คดีข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช.ฉบับที่ 3/2558 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116
ทนายความมีบทบาทสำคัญในการให้ ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ ประชาชน เพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุ ษย์ของประชาชน โดยเฉพาะสิทธิในการเข้าถึ งความยุติธรรม (the right to access to justice) และการดำเนินคดีที่เป็นธรรม (the right to a fair trial) อันเป็นสิทธิขั้นพื้ นฐานในกระบวนการยุติธรรมที่ถู กรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแห่ งราชอาณาจักรไทยหลายฉบับที่ผ่ านมา รวมทั้งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจั กรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 และตราสารระหว่างประเทศที่ ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศว่ าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง (ICCPR) การปฏิบัติหน้าที่ ของทนายความในการปกป้องรั กษาประโยชน์ของลูกความตามหลักวิ ชาชีพ จึงต้องได้รับการคุ้มครองอย่ างเต็มที่ เพื่อประกันว่าสิทธิ ของประชาชนจะได้รับการคุ้ มครองอย่างเป็นรูปธรรม โดยทนายความจะต้องสามารถปฏิบัติ หน้าที่ทางวิชาชีพของตนได้อย่ างเป็นอิสระและปราศจากการข่มขู่ ขัดขวาง การแทรกแซงที่ไม่ชอบธรรม และการเผชิญกับการถูกดำเนินคดี หรือจากการกระทำใดๆ ที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ ในทางวิชาชีพตามมาตรฐานและจริ ยธรรมที่ได้รับการรับรองไว้
ดังนั้น เนื่องในวันทนายความนี้ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยนั กกฎหมายและทนายความจำนวนหนึ่ง จึงขอเรียกร้องให้สภาทนายความ ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้งขึ้ นเพื่อวัตถุประสงค์ในการส่งเสริ มการประกอบวิชาชี พทนายความและผดุงเกียรติ ของสมาชิกสภาทนายความ ได้แสดงจุดยืนอย่างเข็มแข็งเพื่ อพิทักษ์ความเป็นอิ สระในการประกอบวิชาชีพ ว่าไม่เห็นด้วยต่อการกระทำใดๆ โดยเฉพาะการใช้เครื่องมื อทางกฎหมายและกระบวนการยุติ ธรรมในการแทรกแซง ขัดขวางหรือคุกคามการปฏิบัติหน้ าที่ของทนายความตามหลั กจรรยาบรรณวิชาชีพ ทั้งนี้ เพื่อให้สิทธิในการเข้าถึ งความยุติธรรมและการดำเนินคดีที่ เป็นธรรมอันเป็นสิทธิขั้นพื้ นฐานของประชาชนที่ถูกรับรองไว้ ทั้งในรัฐธรรมนูญและกติการะหว่ างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมื องและการเมืองเป็นผลขึ้นจริง
นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ ระบบกฎหมายของประเทศ ทั้งการตรากฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และการตีความกฎหมายเป็ นไปในทางที่ไม่สอดคล้องกับหลั กการนิติรัฐ/นิติธรรมและสิทธิ มนุษยชน และค่อนข้างเป็ นไปโดยอำเภอใจและสนับสนุนการใช้ อำนาจที่ไร้ ขอบเขตและขาดการตรวจสอบถ่วงดุล ด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังอย่างยิ่งว่าเพื่ อนนักกฎหมาย ทนายความ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกั บกฎหมายเพื่อส่งเสริมการเข้าถึ งความยุติธรรมของประชาชน น่าจะมีบทบาทหรือแสดงท่าที ในการปฏิ เสธกฎหมายและกระบวนการยุติ ธรรมที่ไม่ถูกต้อง เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่ สอดคล้องกับหลักนิติรัฐ/นิติ ธรรมและสิทธิมนุษยชน อันจะส่งผลต่อการเข้าถึงความยุ ติธรรมของประชาชนตามมาในภายหน้า
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรี ภาพของประชาชนและศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์
สมาคมนักกฎหมายกฎหมายสิทธิมนุ ษยชน (HRLA)
สภาทนายความต้องแสดงบทบาทอย่
ภายหลังการยึดอำนาจของคณะรั
ร้ายกว่านั้น การปฏิบัติหน้าที่
ทนายความมีบทบาทสำคัญในการให้
ดังนั้น เนื่องในวันทนายความนี้ สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีสมาชิกประกอบด้วยนั
นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่
ด้วยความเคารพต่อสิทธิเสรี
สมาคมนักกฎหมายกฎหมายสิทธิมนุ
แสดงความคิดเห็น