แนะประชาชนหมั่นเช็คสิทธิ-ติ ดตามข้อมูลการรักษาของตนเองอย่ างสม่ำเสมอ
Posted: 17 Feb 2017 10:59 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
รองเลขา สพฉ. ชี้ปมดราม่า รพ.เอกชนโขกค่ารักษาพยาบาลผู้ป่ วยเกินจริง ให้รอฟังคำชี้แจงจากทุกฝ่าย ระบุกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการข้ อกำหนดที่ชัดเจนในการดูแล รพ.เอกชน แนะประชาชนหมั่นเช็คสิทธิการรั กษาพยาบาลของตนและติดตามข้อมู ลเกี่ยวกับสิทธิการรั กษาของตนเองอย่างสม่ำเสมอ ย้ำหากเจ็บป่วยฉุกเฉินต้ องโทรสายด่วน 1669 พร้อมเตรียมวางระบบรับการดำเนิ นการตามนโยบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่”
18 ก.พ. 2560 ภายหลังจากที่มีกระแสดราม่ าในโลกออนไลน์กรณี โรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงินค่ ารักษาพยาบาลกับผู้ป่วยฉุกเฉิ นด้วยจำนวนเงินที่มากจนต้ องถอดทองจำนำไว้ที่โรงพยาบาลนั้ นล่าสุด นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุ กเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อั นดับแรกตนขอแนะนำประชาชนก่ อนเลยว่าหากเราพบเห็นผู้ป่วยฉุ กเฉินทุกกรณีให้โทรสายด่วน 1669 เพราะในระบบสายด่วน 1669 ของเราจะช่วยประเมินอาการเจ็บป่ วยฉุกเฉินของผู้ป่วยและจั ดรถพยาบาลที่เหมาะสมกับอาการเจ็ บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินเพื่อรี บนำส่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่ สุดเครื่องมือพร้อมที่สุดให้ ทำการรักษาอย่างทันท่วงทีได้ ดังนั้นหากประชาชนท่านใดเจ็บป่ วยฉุกเฉินหรือพบผู้ป่วยฉุกเฉิ นควรรีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 ทั้งนี้เท่าที่ตนติดตามข่ าวทราบว่าผู้ป่วยรายดังกล่าวนั้ นมีสิทธิในกองทุนของประกันสังคม ซึ่งหากเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในลั กษณะนี้นั้นเมื่อเรานำผู้ป่วยส่ งไปรักษายังโรงพยาบาลที่อยู่ ใกล้แต่ไม่ใช่โรงพยาบาลในสิทธิ กองทุนที่ผู้ป่วยเป็นสมาชิกอยู่ หากผู้ป่วยไม่รู้สติญาติ สามารถแจ้งเรื่องไปยั งโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยขึ้นทะเบี ยนตามสิทธิแต่ละกองทุนเพื่อให้ โรงพยาบาลเจ้าของสิทธิส่ งรถพยาบาลมารับไปทำการรักษายั งโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยมีสิทธิได้ โดยในส่วนของค่าใช้จ่ ายและกระบวนการต่างๆ ในการส่งตัวโรงพยาบาลที่เราขึ้ นทะเบียนสิทธิไว้จะเข้ามาดู แลและอำนวยความสะดวกให้
รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุ กเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงพยาบาลเอกชนที่ถู กประชาชนร้องเรียนนั้นก็ต้ องรอการชี้แจงจากโรงพยาบาลว่าค่ าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้ นมีค่าใช้จ่ายในส่วนไหนบ้ างและราคาเหมาะสมกับการรั กษาพยาบาลที่เกิดขึ้นหรือไม่ และหากประชาชนรู้สึกว่าไม่เป็ นธรรมหรือถูกเอารัดเอาเปรี ยบจากโรงพยาบาลเอกชนกรมสนับสนุ นบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุขซึ่งทำงานอย่ างหนักเพื่อที่จะออกกฏออกระเบี ยบให้ประชาชนได้รับการรักษาที่ ได้มาตรฐานและเป็ นธรรมจากโรงพยาบาลเอกชนและโรงพย าบาลทุกๆ แห่งก็พร้อมที่จะเข้ามาดู และประชาชนให้ได้รับความเป็ นธรรมได้ นอกจากนี้แล้วเท่าที่ ตนทราบมาในร่าง พ.ร.บ.สถานพยาบาลฉบับปรับปรุ งใหม่นั้น ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าให้ โรงพยาบาลเอกชนต้องแสดงอัตราค่ ารักษาพยาบาล ค่ายาและเวชภัณฑ์ ค่าบริการทางการแพทย์ ค่าบริการอื่นๆและสิทธิของผู้ป่ วย ไว้อย่างชัดเจน จะเรียกเก็บเกินอัตราที่แสดงไว้ ไม่ได้ และต้องให้บริการผู้ป่วยตามสิ ทธิที่ได้แสดงไว้ และต้องเยียวยาผู้ป่วยฉุกเฉินซึ่ งอยู่ในสภาพอันตราย จำเป็นต้องได้รับการรั กษาพยาบาลให้พ้นจากอันตรายก่ อนส่งต่อไปสถานพยาบาลอื่นด้วย ซึ่งหากโรงพยาบาลเอกชนแห่งใดไม่ ทำตามก็ถือว่ามีความผิดตามพ.ร. บ.ฉบับนี้
นพ.ภูมินทร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในส่วนแนวทางในการดำเนิ นงานตามนโนบาย “เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่” หรือ ucep นั้น สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นั้นกำลังเร่งจั ดทำตารางราคาและอัตราจ่าย (Fee Schedule) เพื่อเป็นราคาการบริการการแพทย์ ฉุกเฉินที่โรงพยาบาลจะเรียกเก็ บจากกองทุนสุขภาพ และวางระบบการดำเนินการเพื่อให้ ทันใช้ก่อนสงกรานต์เหมือนที่นพ. ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ไว้ ทั้งนี้ประชาชนทุ กคนในประเทศไทยมีสิทธิในการรั กษาฟรีจาก 3 กองทุนดังนี้ 1. กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้ าราชการ กรมบัญชีกลาง 2. กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ งชาติหรือที่เราเรียกว่าบัตรทอง และ 3. กองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม ซึ่งประชาชนทุกคนจะต้องเข้าสู่ ระบบทั้ง 3 กองทุนนี้ตามหน้าที่ การงานของตนเอง และสำหรับประชาชนที่ประกอบอาชี พอิสระก็ต้องอย่าลืมไปขึ้นทะเบี ยนบัตรทองเพื่อให้มีสิทธิ ในการรักษาพยาบาลไว้ด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิ นและเรามีสิทธิตามรายละเอียดของ 3 กองทุนนี้ระบบของ 3 กองทุนจะทำงานทันที ซึ่งเราจะต้องหมั่นศึกษาข้อมู ลเกี่ยวกับสิทธิของตนเองไว้ด้วย และอย่าลืมที่สำคัญที่สุดคื อหากเราเจ็บป่วยฉุกเฉินหรื อพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินทุกกรณี ให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1669 เราพร้อมที่จะดูและทุกคนตลอด 24ชั่วโมง
แสดงความคิดเห็น