รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงนโยบายผลักดันธุรกิจ Startup ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ว่า เป็นนโยบายที่ดี และถือว่าเป็นความพยายามปรับตัวให้ทันโลกที่น่าปรบมือให้ แต่ลัดขั้นตอนและไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะการทำธุรกิจ Startup คือ การที่ประชาชนต้องขายนวัตกรรมเป็นหลัก ซึ่งมาจากพื้นฐานความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ที่ดี แต่สำหรับประเทศไทยการศึกษาด้อยคุณภาพ อยู่อันดับท้ายของอาเซียน แล้วจะเอาไอเดียที่ไหนไปสร้างนวัตกรรม สุดท้ายก็ผลิตของซ้ำกัน มาขายในอินเตอร์เน็ต แล้วก็หลงไปว่ากำลังทำธุรกิจ Startup ทั้งที่มันเป็นแค่การขายของออนไลน์ กลายเป็นว่า 90% ของคนที่ไปลงทุน อยู่ในสภาวะขาดทุน ล้มเลิกกิจการ ขอแนะนำให้รัฐไปพัฒนาเรื่องการศึกษาก่อนจะก้าวไปสร้างฝันเรื่อง Startup

รศ.ดร.สมชาย กล่าวถึงอนาคตเศรษฐกิจไทยว่า ไม่มีทางกลับเข้าสู่สภาวะต้มยำกุ้ง เพราะสถาบันการเงินมีความระมัดระวังในเรื่องของการปล่อยเงินกู้มากขึ้น แต่ไทยมีความเสี่ยงไปจะสู่สภาวะต้มกบ หรือเศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ล้มละลายอย่างช้าๆ เพราะผู้นำไทยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยังไร้วิสัยทัศน์ นโยบายด้านเศรษฐกิจปรับตัวไม่ทันโลก ยังยึดมั่นกับกระบวนการผลิต และขายสินค้าแบบเก่า บวกกับปัจจัยภายนอกมีความผันผวนเร็วมาก อาทิ หากเศรษฐกิจจีนมีปัญหา อาเซียนก็มีปัญหาและไทยก็จะมีปัญหาตามเป็นโดมิโน วิธีการแก้ปัญหาคือการคาดเดาเศรษฐกิจ ที่ต้องแม่นยำที่สุด เพื่อมีข้อมูลไว้สำหรับปรับตัว แต่ที่ผ่านมา ทีมพยากรณ์เศรษฐกิจไทยก็มีความน่าสงสัยเรื่องประสิทธิภาพ เพราะมักจะคาดเดาตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจสูงกว่าความเป็นจริงเสมอ

source :- https://goo.gl/CKaWRB


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.