Posted: 27 Jul 2017 01:29 AM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

จีนและอินเดียสุ่มเสี่ยงจะเกิดการสู้รบครั้งใหม่จากเรื่องข้อพิพาทด้านเขตแดน เมื่อทางการจีนประกาศไม่ยอมถอยทัพที่วางไว้ในพื้นที่ที่ราบสูงดอกลัม ซึ่งทางภูฎานอ้างว่าเป็นกรรมสิทธิของตนและอินเดียส่งกองทัพเข้าไปช่วยปกป้องพื้นที่ดังกล่าวไว้หลังจากที่จีนพยายามสร้างถนนเข้าไปในพื้นที่เขตแดน โดยที่จีนขู่ให้อินเดียถอนทัพออกถึงจะยอมให้มีการหารือในเรื่องนี้


เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2560 สื่ออัลจาซีรารายงานเกี่ยวกับความขัดแย้งทางเขตแดนระหว่างจีนกับอินเดีย เมื่อทางการจีนประกาศเรียกร้องให้อินเดียถอยทัพของตัวเองออกจากพื้นที่สูงของเทือกเขาหิมาลัยโดยบอกให้อินเดียอย่าล้ำเส้นท้าเสี่ยงกับจีน

จีนกับอินเดียมีข้อพิพาทด้านเขตแดนในพื้นที่ที่ราบสูงดอกลัม (Doklam) ซึ่งประเทศภูฎานที่มีความสนิทสนมกับจีนอ้างสิทธิเหนือดินแดนเขตนี้ โดยที่ทางการอินเดียไม่ได้อ้างสิทธิเหนือดินแดนแต่เข้าไปช่วยสนับสนุนภูฏานในการมีสิทธิเหนือพื้นที่นี้ ขณะที่จีนพยายามจะสร้างถนนตัดผ่านพื้นที่ดังกล่าวไปจนถึงชายแดนอินเดียทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

รัฐบาลภูฎานเปิดเผยว่าจีนพยายามสร้างถนนตัดมาจนกระทั่งถึงค่ายทหารกองทัพภูฎานใกล้กับสันเขาจัมเปรีก็หยุดถึงตรงนั้น โดยที่จีนมองว่าสันเขาจัมเปรีเป็นเส้นเขตแดนแต่ทั้งภูฎานและอินเดียมองว่าพื้นที่นั้นเป็นอาณาเขตประเทศภูฎานทำให้อินเดียส่งกองกำลังของตนเองจากรัฐสิกขิมเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อพยายามยับยั้งไม่ให้จีนสร้างถนนต่อ อัลจาซีราระบุว่ามีทหารราว 300 นายของทั้งฝ่ายจีนและอินเดียประจำการอยู่ห่างกันออกไปราว 150 เมตร

วันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ก.ค.) พ.อ. อู๋เฉียน โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงว่าอินเดียจะต้องไม่ประเมินจนต่ำเกินไปในความพยายาม "ปกป้องผืนแผ่นดินและเขตแดนอธิปไตยของจีน"

สุษมา สวราช รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินเดียกล่าวถึงกรณีที่จีนสร้างถนนเข้ามาที่เขตพรมแดนดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านความมั่นคงอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพความสัมพันธ์แบบเดิมระหว่างสามฝ่ายจนทำให้อินเดียกังวลในประเด็นความมั่นคง

ทางการอินเดียความความกังวลต่อเรื่องที่จีนทำการก่อสร้างในเขตพื้นที่ดังกล่าวเพราะจะทำให้จีนสามารถเข้าถึงผืนแผ่นดินที่เรียกว่า "คอไก่" พื้นที่ดังกล่าวเป็นจุดแคบๆ ที่เชื่อมต่อระหว่างอินเดียกับรัฐทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ห่างไกล

ทางการอินเดียเรียกร้องให้จีนถอนทัพออกจากพื้นที่ดังกล่าวและให้มีการเจรจาต่อรองกันในเรื่องความขัดแย้งนี้ ขณะที่จีนก็กล่าวโต้ตอบว่าอินเดียควรถอนกองกำลังคุ้มกันเขตแดนเองตัวเองก่อนเช่นกัน โดยที่ พ.อ. อู๋เฉียนกล่าวอีกว่าทางการจีนดำเนินมาตรการฉุกเฉินในพื้นที่ขัดแย้งและจะเพิ่มการซ้อมรบและการวางกำลังในพื้นที่มากขึ้น

มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการหารือเรื่องความขัดแย้งเขตแดนในการประชุมกลุ่มเศรษฐกิจ BRICS สัปดาห์นี้ ซึ่ง อจิต โดวาล ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอินเดียจะไปร่วมประชุมที่กรุงปักกิ่งพร้อมกับกลุ่มประเทศอื่นๆ ของ BRICS ได้แก่ บราซิล รัสเซีย และแอฟริกาใต้

จีนและอินเดียเคยทำสงครามสู้รบในเรื่องเขตแดนแถบเทือกเขาหิมาลัยมาก่อนในปี 2505 รวมถึงในช่วงนั้นจีนไม่พอใจที่อินเดียให้ที่พักพิงแก่ดาไลลามะผู้นำทางด้านจิตวิญญาณของทิเบต การสู้รบดังกล่าวจีนเป็นฝ่ายชนะทำให้ได้กรรมสิทธิเป็นเจ้าของพื้นที่เขตแดนอัคไซ ชิน และรัฐอรุณาจัลประเทศ ในครั้งนั้นการสร้างถนนของจีนก็เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งเช่นกัน



เรียบเรียงจาก

China demands India pulls back troops in border dispute, Aljazeera, 24-07-2017

http://www.aljazeera.com/news/2017/07/china-demands-india-pulls-troops-border-dispute-170724065132611.html



ข้อมูลเพิ่มเติมจาก

https://en.wikipedia.org/wiki/Doklam

https://en.wikipedia.org/wiki/Sino-Indian_War

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.