Posted: 28 Jul 2017 03:41 PM PDT  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ตำรวจสระแก้วสกัดจับรถพ่วงบรรทุกข้าวสาร 7 คันอ้างนำเข้ามาจากกัมพูชา แต่ตรวจพบเป็นข้าวที่ประมูลมาปลายทางส่งบางปะกง จึงถูกแจ้งข้อหาขนย้ายข้าวออกนอกเขตอำเภอแต่ไม่มีหนังสืออนุญาตขนย้าย ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งตั้งคณะกรรมการสอบโดยให้พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว รายงานให้ทราบภายใน 7 วัน

กรณีที่ตำรวจ จ.สระแก้ว สกัดจับรถบรรทุกข้าวสารสำแดงเอกสารเท็จนั้น มีรายงานในช่วงข่าวภาคค่ำของสถานีโทรทัศน์ NBT สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 26 ก.ค. (รับชมคลิปใน NBT) โดยมีรายละเอียดว่า ตำรวจภูธรเมืองสระแก้วเร่งตรวจสอบขยายผลรถบรรทุกข้าวสารที่ถูกจับว่ามีบุคคลใดอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เนื่องจากพบว่าข้าวทั้งหมดเป็นข้าวที่ประมูลมา ไม่ใช่การนำเข้าข้าวมาจากประเทศเพื่อนบ้านตามที่มีการสำแดงเอกสาร

โดยรายงานใน NBT ระบุว่า รถบรรทุกพ่วง 7 คันบรรทุกข้าวสารถูกตำรวจภูธร สภ.เมืองสระแก้ว สกัดจับเมื่อคืนวันที่ 25 ก.ค. พร้อมควบคุมตัวคนขับรถทั้ง 7 คนมาสอบปากคำและแจ้งข้อหาขนย้ายข้าวออกนอกเขตอำเภอ ตามประกาศสำนักคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ โดยไม่มีหนังสืออนุญาตขนย้ายข้าว อันเป็นความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ จากนั้นเจ้าของข้าวทั้งหมดรีบมาประกันตัวคนขับรถ นำรถและข้าวทั้งหมดกลับไป

พ.ต.อ.ภิรมย์ จันทราภิรมย์ ผกก.สภ.เมืองสระแก้ว คนขับรถทั้ง 7 คนสำแดงเอกสารว่าข้าวทั้งหมดนำเข้ามาจากกัมพูชา แต่เมื่อตรวจสอบในเชิงลึกพบว่าเป็นข้าวหอมปทุมที่เพิ่งถูกประมูลมาในราคาถูก ปลายทางข้าวจะมาที่บริษัทแซทเทิลไลท์ จำกัด อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของข้าวที่แท้จริงคือบริษัทถาวรจำกัด

เมื่อตรวจสอบลงไปอีกพบว่า บริษัทถาวร จำกัด ตั้งอยู่ใน จ.สระแก้ว เคยเปิดทำธุรกิจผลิตน้ำมันพืชส่งขายกัมพูชา เคยถูกร้องเรียนว่าทำให้เกิดมลพิษ แต่ก็พบว่ามาทำธุรกิจข้าว ขณะที่ นายกล้าณรงค์ พงษ์เจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วสั่งตั้งกรรมการสอบสวนการเคลื่อนย้ายข้าวในครั้งนี้ว่าเป็นข้าวมาจากที่ใด นำข้าวไปใช้ประโยชน์อย่างไร โดยให้พาณิชย์จังหวัดสระแก้ว รายงานให้ทราบภายใน 7 วัน

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.