ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ภาพถ่ายปี 2013
ที่มา: แฟ้มภาพ/giyoshisan/Wikipedia
ที่มา: แฟ้มภาพ/giyoshisan/Wikipedia
ผลสำรวจหลังการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรญี่ปุ่นวันอาทิตย์นี้พบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะได้ที่นั่ง 2 ใน 3 ของสภา ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 และความทะเยอทะยานแก้ไขมาตรา 9 ในรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อเพิ่มอำนาจให้กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่น ท่ามกลางวิกฤตคาบสมุทรเกาหลีจากการแผลงฤทธิ์ทดสอบขีปนาวุธของคิมจองอึน
นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จากพรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) และพรรคแนวร่วมจะสามารถรักษาชัยชนะเอาไว้ได้ในการเลือกตั้งทั่วไปวันอาทิตย์นี้ (22 ต.ค.) โดยผลสำรวจเบื้องต้นพบว่า พรรคเสรีประชาธิปไตยและแนวร่วมจะรักษาที่นั่งเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ในสภาผู้แทนราษฎรเอาไว้ได้ ซึ่งจะเพิ่มโอกาสให้กับการตั้ง "รัฐบาลอาเบะ" สมัยที่ 3 พร้อมๆ กับเพิ่มความทะเยอทะยานของอาเบะในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ร่างขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ผลการสำรวจโดยอ้างอิงจากผลสำรวจนอกคูหาเลือกตั้ง (exit polls) ของสถานีโทรทัศน์ TBS และ TV Tokyo ชี้ว่าแนวร่วมของพรรคเสรีประชาธิปไตยและพรรคโคเมโต (Komeito) จะได้ที่นั่ง ส.ส. 311 ที่นั่ง จากทั้งหมดในสภาผู้แทนราษฎร 465 ที่นั่ง ซึ่งมากพอที่จะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่สหรัฐอเมริการ่างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหากทำได้จะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกนับตั้งแต่บังคับใช้มาได้ 70 ปี
ทั้งนี้เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย โทชิฮิโร นิคาอิ พยายามที่จะไม่พูดอะไรมากแม้จะได้รับข้อมูลแล้วว่าชัยชนะอยู่ในมือของพรรค "เราดีใจที่สาธารณชนได้มอบอาณัติแก่คณะรัฐบาล แต่เราก็จะระมัดระวังที่จะไม่ก้าวไปข้างหน้าอย่างผู้หยิ่งผยอง
แม้ว่าจะมีพรรคคู่แข่งคือพรรคคิโบโนโต (Kibo no To) หรือพรรคแห่งความหวัง ที่เพิ่งตั้งขึ้นโดยผู้ว่าการกรุงโตเกียว ยูริโกะ โคอิเกะ แต่ก็มีแนวโน้มว่าในการเลือกตั้งทั่วไปรอบนี้จะทำได้เต็มที่เพียงรักษาที่นั่งในสภาเดิมก็คือ 57 ที่นั่ง
ส่วนพรรคฝ่ายค้านอีกพรรคที่ได้ที่นั่งเพิ่มขึ้นก็คือ พรรคประชาธิปไตยรัฐธรรมนูญนิยมแห่งญี่ปุ่น ซึ่งมีแนวโน้มจะได้ถึง 58 ที่นั่ง จากเดิมมี 16 ที่นั่ง
ทั้งนี้มีรายงานว่า อาเบะ พยายามที่จะสร้างฉันทามติภายในพรรคเสรีประชาธิปไตย เพื่อที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้ภายในสิ้นปีนี้ รวมทั้งเริ่มกระบวนการประชามติในปีหน้า เพื่อการนี้รัฐบาลอาเบะชุดใหม่จะต้องได้เสียงข้างมากเกิน 2 ใน 3 หรือต้องมากกว่า 310 ที่นั่ง ทั้งนี้หากพรรคร่วมรัฐบาลขั้วเดิมยังมีเสียงข้างมากไม่ถึงเกณฑ์ 2 ใน 3 ก็อาจจะหาชวนพรรคฝ่ายค้านที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาเข้าร่วมเพื่อการนี้ อย่างเช่น พรรคคิโบโนโต และพรรคนิปปอน อิชิน โน ไก (Japan Innovation Party) ซึ่งทั้ง 2 พรรคมีจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามพวกเขาให้ความสำคัญกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 9 เรื่องกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) น้อยกว่าเรื่องสิทธิในการรับรู้ของประชาชน การศึกษาแบบไม่เก็บค่าใช้จ่าย และการกระจายอำนาจ
ข้อมูลจากกระทรวงการสื่อสาร จนถึงเวลา 18.00 น. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกมาใช้สิทธิร้อยละ 29.99 ลดลง ร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ขณะที่การเลือกตั้งล่วงหน้ามีผู้ออกมาใช้สิทธิถึง 21.37 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 62.54
เรียบเรียงจาก
Abe’s gamble pays off with ruling bloc headed for two-thirds majority in Lower House, BY TOMOHIRO OSAKI, The Japan Times. OCT 22, 2017
แสดงความคิดเห็น