ทางการมาเลเซียเรียกตัวคณะทูตของตนในกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือให้เดินทางกลับประเทศ หลังไม่พอใจที่ทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์กล่าวหาว่า มาเลเซียร่วมมือกับฝ่ายศัตรูลอบสังหารนายคิม จอง นัม พี่ชายต่างมารดาของผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ทางการมาเลเซียได้เรียกตัวนายกัง ชอล ทูตเกาหลีเหนือประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์เข้าพบ หลังเขากล่าวหาว่ามาเลเซียปกปิดความจริงบางอย่างในเรื่องการลอบสังหารเอาไว้ และได้ร่วมมือกับฝ่ายศัตรูของเกาหลีเหนือก่อเหตุฆาตกรรมขึ้น อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาโฆษกของกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียได้ชี้แจงว่า การเรียกตัวนายกัง ชอล เข้าพบนั้นเป็นเพียงการปรึกษาหารือเท่านั้น
ทั้งนี้ นายกัง ชอล กล่าวหาทางการมาเลเซียดังข้างต้น หลังมาเลเซียปฏิเสธข้อเรียกร้องของเกาหลีเหนือที่จะให้ส่งศพของนายคิม จอง นัม ไปให้โดยไม่ต้องผ่านการชันสูตรเสียก่อน โดยมาเลเซียแย้งว่าข้อกล่าวหาของทูตเกาหลีเหนือนั้นไม่มีมูลความจริง และเป็นหน้าที่ที่ฝ่ายตนต้องสืบสวนและชันสูตรศพให้เรียบร้อย เพราะเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นในดินแดนของมาเลเซีย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ขณะนี้ทางการมาเลเซียกำลังรอตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของศพ ซึ่งต้องอาศัยตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติของผู้ตายในกรุงปักกิ่งหรือมาเก๊ามาเปรียบเทียบ แต่หากไม่สามารถหาตัวอย่างดีเอ็นเอจากญาติมาใช้ในการชันสูตรได้ ก็จะคืนร่างของนายคิม จอง นัม แก่ทางการเกาหลีเหนือต่อไป แม้ฝ่ายเกาหลีเหนือเคยระบุว่าจะไม่ยอมรับผลชันสูตรที่ฝ่ายตนไม่ได้เข้าร่วมเป็นพยานอยู่ด้วย

แม้หลายฝ่ายจะมองว่าผู้นำเกาหลีเหนืออาจอยู่เบื้องหลังการลอบสังหารพี่ชายต่างมารดาด้วยยาพิษ ขณะที่กำลังรอเครื่องบินอยู่ที่สนามบินกรุงกัวลาลัมเปอร์ แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด และรัฐบาลเกาหลีเหนือเองก็ยังไม่ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียซึ่งดำเนินการสืบสวนกรณีนี้อยู่ระบุว่า กำลังติดตามจับกุมชายชาวเกาหลีเหนืออีก 4 คน ซึ่งคาดว่ามีส่วนในการลอบสังหาร แต่เป็นไปได้ว่าชายทั้ง 4 คนอาจหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โดยขณะนี้ตำรวจมาเลเซียสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวเกาหลีเหนือไว้ได้เพียงรายเดียว คือนายรี จอง ชอล รวมทั้งควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยหญิงชาวเวียดนามและอินโดนีเซียไว้ได้ก่อนหน้านี้ด้วย
ส่วนสถานีโทรทัศน์ฟูจิของญี่ปุ่น ได้นำภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุลอบสังหารนายคิม จอง นัม มาออกอากาศ โดยภาพวิดีโอที่ไม่สู้ชัดเจนนักแสดงให้เห็นว่ามีหญิงสองคนเข้ามาประกบตัวเขาที่สนามบิน โดยหญิงผู้หนึ่งที่สวมเสื้อแบบตรงกับของผู้ต้องสงสัยชาวเวียดนาม ได้พุ่งเข้าหาเขาจากด้านหลัง แล้วใช้ผ้าเช็ดที่ใบหน้าของเขาอย่างรวดเร็วก่อนหลบหนีไป หลังจากนั้นนายคิม จอง นัม ได้เข้าขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่สนามบินโดยชี้ไปที่ใบหน้าของตน และมีผู้นำตัวเขาไปยังอีกห้องหนึ่ง


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.