dmcpost

บีบีซีไทย - BBC Thai

ความสุขของเด็ก ๆ ในเมืองอเลปโป

ภาพถ่ายจากโดรนเผยให้เห็นห้วงเวลาที่เด็ก ๆ ชาวเมืองอเลปโปเล่นฟุตบอลกันอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังของเมืองที่ตกเป็นเป้าถูกโจมตีทางอากาศจากกองกำลังของฝ่ายรัฐบาลภายใต้การสนับสนุนของซีเรีย

แม้จะต้องมีชีวิตอยู่ท่ามกลางสงคราม แต่เด็ก ๆ ก็ยังแสวงหาโอกาสที่ทำให้พวกเขาได้มีความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ

บีบีซีไทย - BBC Thai

วานนี้ (29 ก.ย.) ทางการแคนาดาจัดงานปาร์ตี้กลางสวนถวายแด่เจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระโอรสและพระธิดาของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งอยู่ระหว่างเสด็จเยือนแคนาดาอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย. ก่อนเสด็จกลับสหราชอาณาจักรในวันนี้ (30 ก.ย.)

มีการเตรียมงานโดยใช้สนามหญ้าภายในทำเนียบรัฐบาลจัดปาร์ตี้กลางสวนโดยมีการนำของเล่นสำหรับเด็กมาสร้างความบันเทิงมากมาย ซึ่งเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงสำราญกับบุตรหลานของข้าราชการทหาร ที่มาร่วมงานด้วย

ทั้งนี้ การเสด็จเยือนแคนาดาครั้งนี้ เป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศเป็นครั้งแรกของเจ้าหญิงชาร์ลอตต์

ชมพระอิริยาบถของเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์จากวิดีโอนี้ค่ะ#RoyalFamily #CanadaVisit #PrinceGeorge #PrincessCharlotte#ThBBCShorts

บีบีซีไทย - BBC Thai

กทม.สำรวจแนวป้องกันน้ำท่วมไม่ให้ซ้ำรอยวิกฤตปี 2554

คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) เดินทางไปตรวจแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา วันนี้ (30 ก.ย.) เพื่อดูความพร้อมบริเวณจุดเสี่ยงวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปี 2554 ได้แก่ ซอยเขียวไข่กา เขตดุสิต และซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 เขตบางพลัด ซึ่งเมื่อห้าปีที่แล้วยังไม่มีการสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวร แต่ใช้กำแพงรั้วของเอกชนเป็นแนวป้องกันซึ่งไม่เพียงพอและทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่

สำนักการระบายน้ำ กทม. ได้สร้างแนวป้องกันน้ำท่วมถาวรแล้วเสร็จในปี 2558 กับสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์แล้วเสร็จประมาณ 76.80 กิโลเมตร ซึ่งประเมินว่าจะช่วยป้องกันปัญหาน้ำล้นจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ตั้งแต่ระดับ 2.80 - 3.50 เมตรที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง

ส่วนพื้นที่ก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมที่ยังไม่แล้วเสร็จอีก 200 เมตรบริเวณถนนทรงวาด เขตสัมพันธวงศ์ ได้มีการเรียงกระสอบทรายเป็นแนวป้องกันน้ำท่วมเป็นการชั่วคราว ที่ความสูงราว 2.80 เมตรที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง

นอกจากนี้ ช่างภาพบีบีซีไทยได้ลงพื้นที่สำรวจชุมชนริมน้ำบริเวณคลองเปรมประชากรในเขตหลักสี่เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) พบว่าระดับน้ำในคลองเริ่มเพิ่มสูงขึ้นจนเอ่อเข้าท่วมทางสัญจร แต่ผู้อาศัยในชุมชนเปิดเผยว่าเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นทุกปี#Bangkokfloods

บีบีซีไทย - BBC Thai

ผู้อพยพยังยอมฝ่าอันตรายใช้เส้นทางคาบสมุทรบอลข่านเดินทางมาให้ถึงยุโรป

ปัจจุบันยังมีผู้อพยพอย่างน้อย 1,000 คนต่อสัปดาห์ เดินทางผ่านคาบสมุทรบอลข่าน เพื่อมาให้ถึงยุโรป แม้ว่าก่อนหน้านี้นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานสภายุโรปจะออกมาประกาศว่าจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์ที่ผู้อพยพต้องฝ่าอันตรายเช่นนั้นอีกแล้ว

เดเมียน แกรมมาทิคัส ผู้สื่อข่าวบีบีซี บอกว่า ที่ผ่านมาผู้อพยพจำนวนมากยอมเสี่ยงอันตราย ซึงรวมถึงการหลบซ่อนอยู่ใต้ท้องรถไฟนานเกือบ 20 ชั่วโมง เพื่อเดินทางไปให้ถึงออสเตรีย ซึ่งหลายคนก็ถูกจับได้ บ้างก็ติดค้างอยู่ที่ค่ายผู้อพยพที่มีสภาพย่ำแย่ในเซอร์เบีย อย่างไรก็ตามผู้อพยพเหล่านี้ยังยืนกรานว่าพวกเขาจะไม่ละความพยายามเดินทางไปให้ถึงยุโรปให้ได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

บีบีซีไทย - BBC Thai

“ชิมอน เปเรซ” บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก
บรรดาผู้นำโลกเดินทางไปยังกรุงเยรูซาเลม เพื่อร่วมพิธีฝังศพนายชิมอน เปเรซ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอิสราเอล โดยนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวสดุดีนายเปเรซที่อุทิศตนเพื่อยุติความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ แต่กระนั้นความฝันในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคดังกล่าวก็ยังไม่เป็นจริง ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยกย่องนายเปเรซเป็นบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก
นายเปเรซ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 93 ปี เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง

นอกจากนายโอบามาแล้ว นายเบนยามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล นายมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ และผู้นำคนสำคัญอื่น ๆ ได้เดินทางไปร่วมพิธีศพซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยกลุ่มนักรบฮามาสประณามการเดินทางไปร่วมพิธีศพของนายอับบาส ขณะที่นายโอบามาชี้ว่าการปรากฏตัวของนายอับบาสเป็นเครื่องเตือนใจให้เห็นว่าภารกิจในการสร้างสันติภาพยังไม่เสร็จสิ้นลง

ด้านนายเนทันยาฮู กล่าวยกย่องนายเปเรซว่าเป็น “บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของโลก” และว่าในขณะที่อิสราเอลและผู้คนทั่วโลกต่างอาลัยกับการจากไปของนายเปเรซ แต่ยังคงมีความหวังในสิ่งที่นายเปเรซได้สืบทอดเอาไว้ ด้วยวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของบุรุษผู้ที่เคยมีชีวิตอยู่อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย #ShimonPeres #Israel

บีบีซีไทย - BBC Thai

สนใจไปลองบ้างไหมครับ จีนเพิ่งเปิดห้องน้ำกระจกใสที่ทะเลสาบฉือเหยียน

สื่อของทางการจีนรายงานว่าทะเลสาบฉือเหยียน ทางตอนใต้ของมณฑลหูหนานได้เปิดให้บริการห้องน้ำสาธารณะแห่งใหม่ที่ทำด้วยกระจกใส สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกได้ชัดเจน โดยหวังว่าห้องน้ำกระจกนี้จะเป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวที่ทะเลสาบแห่งนี้ได้มากขึ้น

ห้องน้ำกระจกที่ว่านี้ตั้งอยู่บนต้นไม้สูง ผนังกั้นระหว่างห้องน้ำหญิงและชายทำด้วยกระจกฝ้าบาง ๆ ซึ่งสามารถมองทะลุเห็นกันได้ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบตัว แต่ในเวลาเดียวกันก็มองเห็นคนอื่นทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำอีกห้องได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงมีรายงานว่าในวันเปิดให้บริการวันแรกมีนักท่องเที่ยวเพียงไม่กี่คนที่กล้าเข้าห้องน้ำกระจกนี้

ที่ผ่านมาจีนนิยมใช้กระจกมาเป็นวัสดุก่อสร้างสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดใจ เช่น สะพานหรือทางเดินในอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง ซึ่งได้รับความนิยม แต่มีบางแห่งต้องปิดให้บริการด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัย

สำหรับการสร้างห้องน้ำกระจกนี้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลมีเดีย บางคนบอกว่าจะไม่ยอมใช้ห้องน้ำนี้เด็ดขาด บางคนบอกว่าจะยอมใช้ห้องน้ำแห่งนี้หากกลั้นไม่ไหวจริง ๆ บางคนมองว่าเป็นการใช้งบประมาณอย่างฟุ่มเฟือย #GlassToilet#China

บีบีซีไทย - BBC Thai

คิดเห็นกันอย่างไรกับงานวิจัยที่พบว่าชาวเจเนอเรชันวายที่เคยมีเพศสัมพันธ์ยอมรับมีคู่รักโดยเฉลี่ย 5 คน และมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกอายุ 15 ปี

ม.มหิดลเผยแพร่รายงานพฤติกรรมคนต่างวัยในไทย พบคนในกลุ่มที่เรียกว่าเจเนอเรชั่นวาย หรือผู้ที่มีอายุประมาณ 11-34 ปี ที่อาศัยอยู่ในเมืองเป็นกลุ่มคนที่มีการใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ และทั้งหญิง-ชายในวัยนี้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์ ยอมรับว่ามีคู่รักโดยเฉลี่ย 5 คน กับมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในช่วงอายุประมาณ 15 ปี นักวิจัยแนะพ่อแม่ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง

ผศ.เฉลิมพล แจ่มจันทร์ คณะทำงานรายงานสุขภาพคนไทย สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล กล่าวกับบีบีซีไทยว่า สิ่งที่พบจากการวิจัยคือแนวโน้มที่ผู้หญิงในกลุ่มเจเนอเรชันวาย ที่เคยมีเพศสัมพันธ์นั้นมีในอัตราสูงพอ ๆ กับผู้ชายในวัยเดียวกันที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ทั้งนี้ คนในกลุ่มดังกล่าวมีความเป็นอิสระ มีการศึกษา สามารถพึ่งพิงตัวเองได้มากขึ้น และเติบโตมาในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรม พัฒนาการทางเทคโนโลยีและการสื่อสาร

ผศ.เฉลิมพล กล่าวอีกว่า สิ่งที่น่าสนใจคือคนในกลุ่มเจเนอเรชั่นถัดไปจากเจนวาย หรือกลุ่มที่มีอายุ 5 ปี และ 10 ปี จะเป็นกลุ่มที่มีความเป็นตัวตน มีการมองโลกที่หลากหลายมากขึ้นกว่าเจเนอเรชันใด ๆ เพราะมีโลกทัศน์ที่เปิดกว้าง สามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการรับรู้ได้ทันทีผ่านทางอินเทอร์เน็ต “ดังนั้นครอบครัว โรงเรียน และสังคมที่เขาอยู่นั้น จะไม่มีผลมากเหมือนในอดีตอีกแล้ว พ่อแม่ต้องเข้าใจบริบทเหล่านี้ หากลูกจะมีเพศสัมพันธ์ก็จะต้องคำนึงถึงการป้องกัน ค่านิยมและแนวคิดที่พ่อแม่เคยมีอาจจะต้องปรับไปตามพลวัตรที่เปลี่ยนแปลงไป”

ทั้งนี้ ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า หากแบ่งสัดส่วนประชากรของไทยตามรุ่นหรือตามเจเนอเรชั่น พบว่า คนเจนเอ็กซ์ (เกิดปี 2504 – 2524) มีจำนวนสูงสุดคือ 23 ล้านคน รองลงมาคือเจนวาย (เกิดปี 2525 – 2548) จำนวน 22 ล้านคน เบบี้บูมเมอร์ (เกิดปี 2486 – 2503) จำนวน 11.7 ล้านคน หลังเจนวาย (เกิดปี 2549 เป็นต้นไป) ประกอบด้วย กลุ่มเจนแซด เจนแอลฟา และเจนซี จำนวน 7.8 ล้านคน และ กลุ่มไซเลนต์เจน (เกิดปี 2468 – 2485) จำนวน 3.3 ล้านคน #GenerationY

ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

บีบีซีไทย - BBC Thai

ผู้นำฟิลิปปินส์เมินคำเปรียบเทียบเป็นฮิตเลอร์ พร้อมระบุ “ยินดีฆ่าผู้ค้ายา”

นายโรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ แถลงข่าวที่เมืองดาเวา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ เพื่อปกป้องนโยบายการทำสงครามต่อต้านยาเสพติดของรัฐบาลตน วันนี้ (30 ก.ย.) โดยระบุว่าการทำสงครามต่อต้านยาเสพติดเป็นการกวาดล้างอาชญากร เพื่อสวัสดิภาพของลูกหลานชาวฟิลิปปินส์รุ่นต่อไป

รายงานข่าวระบุว่านายดูเตอร์เตกล่าวตอบโต้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ซึ่งเปรียบเทียบสงครามยาเสพติดในฟิลิปปินส์กับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ภายใต้คำสั่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำกองทัพนาซีเยอรมนีในอดีต และนายดูเตอร์เตย้ำว่าหากฮิตเลอร์ฆ่าชาวยิวไปกว่าสามล้านคน ตนก็ยินดีที่จะฆ่าผู้ค้ายาเสพติดสามล้านคนเช่นกัน

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าทั้งผู้นำศาสนาและองค์กรต่อต้านการเลือกปฏิบัติและเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐฯ แถลงตำหนิการแสดงความคิดเห็นของนายดูเตอร์เตว่าเป็นเรื่องน่ารังเกียจและโหดร้าย พร้อมระบุว่านายดูเตอร์เตติดค้างคำขอโทษแก่ครอบครัวชาวยิวที่เคยตกเป็นเหยื่อกองทัพนาซีของฮิตเลอร์

ทั้งนี้ กองทัพนาซีเยอรมนีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอื่นๆ มากกว่า 6 ล้านคน ขณะที่นายดูเตอร์เตสั่งดำเนินนโยบายการทำสงครามต่อต้านยาเสพติดเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดถูกสังหารแล้วมากกว่า 3,000 คน โดยร่างผู้ถูกสังหารมักถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ พร้อมป้ายข้อความระบุว่าผู้เสียชีวิตกระทำผิดด้วยเรื่องอะไร แต่ข้อกล่าวหาทั้งหมดยังไม่ได้รับการไต่สวนตามกระบวนการทางกฎหมาย

บีบีซีไทย - BBC Thai

อินเดียระดมโจมตีชายแดนแคชเมียร์ อ้างปราบกลุ่มติดอาวุธที่ปากีสถานหนุนหลัง

กองทัพอินเดียปฏิบัติการโจมตีกลุ่มติดอาวุธในดินแดนแคชเมียร์ รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ทางเหนือของอินเดีย ติดพรมแดนปากีสถาน ทั้งยังเป็นพื้นที่ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลอินเดียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนมานานหลายสิบปี โดยพลโทรันบีร์ ซิงห์ ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการกองทัพอินเดีย แถลงว่า การโจมตีดินแดนแคชเมียร์เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้ (29 ก.ย.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากปากีสถาน

กองทัพอินเดียระบุด้วยว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะช่วยป้องกันการก่อเหตุโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายที่ฝังตัวอยู่ตามแนวชายแดนอินเดียและปากีสถาน ขณะที่รายงานข่าวระบุว่านี่คือการตอบโต้กลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนซึ่งบุกเข้าค่ายทหารอินเดียในดินแดนแคชเมียร์ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทำให้ทหารอินเดียเสียชีวิต 18 นาย และรัฐบาลอินเดียกล่าวหาว่าปากีสถานอยู่เบื้องหลังกลุ่มติดอาวุธผู้ก่อเหตุ

อย่างไรก็ตาม กองทัพปากีสถานออกแถลงการณ์ตอบโต้อินเดีย โดยระบุว่าไม่มีปฏิบัติการโจมตีเกิดขึ้นบริเวณเส้นควบคุมแท้จริง ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างปากีสถานและอินเดียในดินแดนแคชเมียร์ พร้อมย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการยิงปะทะกันระหว่างทหาร 2 ฝ่าย โดยทหารปากีสถาน 1 นายถูกยิงเสียชีวิตในการเผชิญหน้าที่ไม่ได้มีการยั่วยุใดๆ และทหารอินเดีย 1 นายพร้อมอาวุธครบมือ รุกล้ำเข้ามาในเขตปากีสถาน จึงถูกจับกุมและควบคุมตัวเพื่อสอบปากคำ

แถลงการณ์ของกองทัพปากีสถานระบุด้วยว่าการกล่าวอ้างถึงปฏิบัติการโจมตีเพื่อทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายในดินแดนแคชเมียร์เป็นความพยายามสร้างกระแสแบบผิดๆ ของกองทัพอินเดียเท่านั้น

บีบีซีไทย - BBC Thai

สื่อสหรัฐฯ เผยทรัมป์เคยละเมิดมาตรการคว่ำบาตรคิวบา

เว็บไซต์นิวส์วีค สื่อสหรัฐฯ รายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกันลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ โดยจ่ายเงินให้แก่บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจไปสำรวจช่องทางการดำเนินธุรกิจในประเทศคิวบาเมื่อปี 2541 เข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ มีต่อคิวบา ซึ่งมาตรการดังกล่าวยังคงอยู่แม้รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา เพิ่งจะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทางการทูตของสองประเทศไปเมื่อไม่นานมานี้

รายงานข่าวของนิวส์วีคอ้างอิงการสัมภาษณ์อดีตผู้บริหารและพนักงานของบริษัททรัมป์ โฮเทลส์ แอนด์ คาสิโน รีสอร์ท ซึ่งยอมรับว่าได้ส่งนักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจเข้าไปดูลู่ทางการลงทุนในกรุงฮาวานาของคิวบาจริง ทั้งยังมีเอกสารในชั้นศาลที่เกี่ยวกับการยื่นฟ้องบริษัทดังกล่าว ซึ่งถูกกล่าวหาว่าลักลอบเข้าไปสำรวจตลาดโดยอ้างว่าเป็นการเดินทางไปร่วมกิจกรรมการกุศลของโบสถ์คริสต์คาทอลิกในคิวบา แต่การใช้จ่ายเงินของบริษัทสหรัฐฯ ในคิวบาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลก่อนถือว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ทีมโฆษกของนายทรัมป์ปฏิเสธข่าวการละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ พร้อมระบุว่ารายงานข่าวอ้างถึงการใช้จ่ายเงินเมื่อปี 2541 แต่นายทรัมป์ก็ไม่เคยลงทุนหรือสนับสนุนการทำธุรกิจใดๆ ในคิวบาเลย ขณะที่นายมาร์โค รูบิโอ ส.ว.รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายคิวบาและเป็นผู้สนับสนุนนายทรัมป์ ระบุว่านายทรัมป์ควรออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงอย่างละเอียด แม้ตนจะสนับสนุนนายทรัมป์ แต่ก็ไม่อาจมั่นใจเรื่องข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด 100%

ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน ผู้แทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่าหากนายทรัมป์ละเมิดกฎหมายสหรัฐฯ ด้วยการพยายามหาทางลงทุนในคิวบาจริง ถือว่านายทรัมป์คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าที่จะเคารพกฎหมายของสหรัฐฯ

บีบีซีไทย - BBC Thai

จีนจะสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่ที่สุดใต้กำแพงเมืองจีน

สื่อของทางการจีนรายงานว่า จะมีการสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุดในโลก ใต้กำแพงเมืองจีนส่วนที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปชม โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมเพื่อมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในปี 2022

สถานีรถไฟความเร็วสูงดังกล่าวจะสร้างขึ้นที่ด่านปาต้าหลิง ซึ่งเป็นส่วนของกำแพงเมืองจีนที่มีผู้นิยมไปเยือนกันมากที่สุดถึงราว 30,000 คนต่อวันในช่วงเทศกาล โดยตั้งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 80 กิโลเมตร และสถานีนี้เป็นส่วนหนึ่งของทางรถไฟที่เชื่อมระหว่างกรุงปักกิ่งและเมืองจางเจียโข่วซึ่งเป็นสถานที่จัดการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว

ทั้งนี้ สถานีรถไฟความเร็วสูงดังกล่าวจะอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 102 เมตร และมีพื้นที่ก่อสร้างใต้ดินกว้าง 36,000 ตารางเมตร เท่ากับสนามฟุตบอลมาตรฐาน 5 สนาม โดยจะใช้เทคนิคการขุดเจาะแบบพิเศษใต้เนินเขาซึ่งเป็นที่ตั้งของกำแพงเมืองจีน โดยไม่ให้กระทบกระเทือนต่อโครงสร้างของมรดกโลกแห่งนี้

เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 29 กันยายน เฟซบุ๊ก”ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม”ของนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญา โพสต์ข้อความระบุว่า 

“วันก่อนได้ยินมาว่าท่านนายกกล่าวถึง คุณเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และคุณศรีสุวรรณ จรรยา ที่ร้องให้มีการสอบสวนกรณีพลเอกปรีชา จันทร์โอชา และวงศาคณาญาติในหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องฝาย เรื่องการใช้เครื่องบิน การใช้บ้านพักทางราชการตั้งเป็นห้างหุ้นส่วน และการประมูลงานราชการ ว่าทั้งคุณเรืองไกรและคุณศรีสุวรรณนั้นทำมาหากินอะไรถึงได้ร้องได้ทุกเรื่อง เดี๋ยวท่านจะตรวจสอบทั้งสองคนนี้บ้าง ผมอยากจะเรียนว่าทั้งสองคนนั้นท่านก็เป็นประชาชนคนไทยที่รักชาติไม่แพ้ท่านหรอกครับ เขากำลังทำหน้าที่ของ “พลเมืองดี” ที่ตรวจความไม่ชอบมาพากลตามที่ “กฎหมาย” ให้อำนาจเขาไว้ กล่าวคือ เมื่อมีกรณีน่าเชื่อว่ามีการกระทำความผิดทางอาญาอย่างหนึ่งขึ้น เขาซึ่งเป็นบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ “ผู้เสียหาย” ได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ว่ามีบุคคลรู้ตัวหรือไม่ก็ดีได้กระทำความผิดอย่างหนึ่งขึ้น ซึ่ง “ข้อร้องเรียน” ของเขานั้น นักกฎหมายเราเรียกว่า “คำกล่าวโทษ” ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 2 (8) เพื่อให้เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจทำการสอบสวนในเรื่องดังกล่าวว่าเป็นความผิดจริงหรือไม่ ซึ่งเป็นบทบาทของพลเมืองดีโดยทั่วไปที่จะปกปักษ์รักษาบ้านเมืองของตน จะต่างกับท่านนายกตรงที่ท่านมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 44 สั่งเลื่อนลดปลดย้ายข้าราชการต่างๆ ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำทุจริตทั้งที่ยังไม่มีการสอบสวน แค่สงสัยเท่านั้น..จนครอบครัวเขาเสียชื่อเสียงไปมากมายก่ายกองและเสียหายไปชั่วลูกชั่วหลาน พอคนในตระกูลจันทร์โอชาโดนเข้าบ้าง ท่านจะไปโวยวายทำไม เหมือนกันแหละครับ ไม่โดนเองไม่รู้สึก พอท่านรู้สึกท่านก็จะสั่งตรวจสอบเขาบ้างว่าสองท่านนี้ทำมาหากินอะไร..ท่านเป็นนายกต้องระมัดระวัง คิดได้แต่อย่าคิดดัง เพราะสิ่งที่ทำคือเกียรติภูมิของประเทศนะครับ ไม่ได้สอนนะ แต่ว่าผมว่าท่านไม่เข้าใจหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนแม้แต่น้อย ไม่เชื่อลองถามอาจารย์วิษณุก็ได้ ว่าพูดถูกหรือเปล่า แต่ต้องขอให้อาจารย์ตอบแบบ “ครูกฎหมาย” นะครับ อย่าตอบแบบ “เนติบริกร นะครับ”

บีบีซีไทย - BBC Thai

ทารกสองรายในไทยที่มีภาวะศีรษะเล็กจากการติดเชื้อไวรัสซิกาเป็นกรณีแรกที่พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

วันนี้ (30 ก.ย.) กระทรวงสาธารณสุขได้แถลงข่าวว่าทารก 2 รายจากจำนวน 4 ราย ซึ่งพบว่ามีอาการศีรษะเล็กนั้นยืนยันได้ว่าเป็นอาการที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกาจริง ส่วนทารกอีก 1 รายต้องรอการตรวจสอบเพิ่มเติม และทารกอีก 1 รายยังอยู่ในครรภ์มารดา

นายแพทย์ประเสริฐ ทองเจริญ ผู้ทรงคุณวุฒิประจำกรมควบคุมโรค ระบุว่าทารกศีรษะเล็กที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซิกาทั้งสองรายเป็นกรณีแรกที่พบในประเทศไทย และองค์การอนามัยโลกระบุว่าเป็นกรณีแรกที่พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน พร้อมเตือนว่าทารกศีรษะเล็กอาจมีปัญหาด้านระบบการหายใจ รวมถึงพัฒนาการทางสมอง

รายงานข่าวระบุว่าผู้ติดเชื้อไวรัสซิกาบางรายไม่แสดงอาการใดๆ ทำให้การตรวจสอบและป้องกันทำได้ยาก ส่วนผู้ติดเชื้อที่ล้มป่วยจะมีอาการไข้สูงพร้อมผื่นแดง รวมถึงปวดตามข้อต่อ แต่หากหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อในช่วงไตรมาสแรกและไม่แสดงอาการ อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ รวมถึงทำให้เกิดอาการศีรษะเล็ก และขณะนี้ยังไม่มีวัคซีนใดที่จะป้องกันเชื้อไวรัสซิกาได้

นอกจากนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ยังได้ออกแถลงการณ์เตือนหญิงอเมริกันที่ตั้งครรภ์ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังกลุ่มประเทศแถบเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม 11 ประเทศ ได้แก่ บรูไน เมียนมา กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย มัลดีฟส์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ติมอร์เลสเต และไทยด้วย

พลเอกปรีชาและบุตรชายทำอะไรไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก แต่บังเอิญที่ผ่านมา ฝ่ายยึดอำนาจใส่ความนักการเมืองไว้ซะเต็มที่ ว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือทุจริตคอรัปชั่น แท้ที่จริงแล้ว เราทุกคนก็เลว-ดีพอกัน ไม่ว่าจะเป็นคนมีสีใส่เครื่องแบบหรือผู้แทนประชาชน

ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล M.L. Nattakorn Devakula
30 กันยายน 2559

ชมคลิปย้อนหลังรายการ #WakeUpNews : ทีเรื่องรามเกียรติ์เล่าเป็นฉากๆ แต่เรื่อง ‘ลูกบิ๊กติ๊ก’ ไม่รู้จะลงโทษยังไง ได้ที่ >>
http://shows.voicetv.co.th/wakeupnews/416991.html
#VoiceTV21

Atukkit Sawangsuk

วิษณุ เครืองาม ยืนยันไปเถอะว่า บุตรภรรยา พล.อ.ปรีชาไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย จริงครับ ปปช.สอบแล้วอาจมีมติ 9-0 เพราะได้แต่สงสัยไม่มีพยานหลักฐานว่าพ่อช่วยอุ้มสม แต่คำถามคือ เหมาะสมหรือไม่ นี่ต่างหากที่ประยุทธ์ตอบสังคมไม่ได้ แล้วกลับโมโหโกรธา

ในฐานะพี่ ในฐานะผู้บังคับบัญชา เป็น ผบ.ทบ.ตั้งน้องมาเป็นแม่ทัพภาค 3 เป็นนายกฯ ตั้งน้องเป้นผู้ช่วย ผบ.ทบ. เป็นปลัดกลาโหม พอเกิดข้อครหา จะบอกแต่ว่า ไม่ปกป้อง ให้ ปปช.สอบ เท่านั้นพอไหม

ยิ่งยกตนเป็นคนดี เป็นแบบอย่างให้เด็กอนุบาลท่องค่านิยม 12 ประการ จะไม่ตอบคำถามเรื่องจริยธรรมได้ไง ให้ ปปช.สอบ ถ้าไม่มีพยานหลักฐาน แม้สังคมสงสัย ก็ต้องยกประโยชน์ให้จำเลย แค่นั้นจบกัน? จะให้สังคมพอใจ? แล้วลอยหน้าลอยตาบอกว่า ให้ส่วนราชการดูแบบอย่างการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพโปร่งใส! นักการเมืองทับซ้อนเอามันให้ตาย! สอนเยาวชนบอกให้ดูตัวเอง รับราชการไม่มีวิ่งเต้นเส้นสาย! (แต่หลานชายติดยศร้อยตรีได้)

แล้วก็จะออกกฎหมาย 3-4 ชั่วโคตร เห็นไหม ดูทักษิณเป็นเยี่ยงอย่าง แค่เซ็นชื่อให้เมียประมูลซื้อที่ดินเท่านั้น คุกเลย! เห็นไหม "อีปู" ไม่โกงแต่ละเว้น ยังโดนยึดทรัพย์ 3.5 หมื่นล้าน

แต่น้องท่านไม่โง่! โถ แค่ละเว้นจริยธรรม

ว่าที่จริงเรื่องนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นเขย่าประยุด ถ้าไม่เพราะท่าที มีน้ำโห ขึ้นไอ้ห่- ขู่กลับ ไม่รับผิดชอบการกระทำของน้องชาย คอยดูนะ ถ้านักข่าวซักแล้วปรี๊ดแตกอีก 1-2 ครั้ง เรื่องจะยิ่งไปกันใหญ่ แค่ให้วิษณุเป็นทนายหน้าหอ ก็เสียหาย (แต่สงสัยสั่งบล็อกนักข่าวไม่ให้ถามหมดแล้ว)

ย้ำอีกทีนี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่วัดใจ ว่าจะก้าวข้ามกับดักจริยธรรมได้ไหม โดยเฉพาะพวกสลิ่มต้านโกงที่โก้งโค้งเชลียร์ทั้งหลาย พุทธอิสระวันแรกปากเก่ง วันหลังๆ พอประยุดโดนยิ่งลักษณ์ย้อน ก็เปลี่ยนเสียง หันมาปกป้อง ส่วนไอ้พวกนักเปิดไฟกว่าจะอ้าปากได้ เกือบตกรถไฟ ซ้ำยังปูผ้ากราบซะก่อน ค่อยเรียกร้องความโปร่งใส

บีบีซีไทย - BBC Thai

เปิดตัวเว็บไซต์ TripFez ทริปแอดไวเซอร์ของนักท่องเที่ยวมุสลิม

ก่อนหน้านี้ชาวมุสลิมจำนวนมากอาจไม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวในดินแดนหลายแห่ง เพราะเกรงว่าจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกและอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมตามศาสนบัญญัติหรือ “ฮาลาล” แต่ในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวมุสลิมรุ่นใหม่พากันเดินทางไปยังดินแดนที่ไม่คุ้นเคยกันมากขึ้น เช่น ภูฏาน เกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น เพราะมีเว็บไซต์บริการข้อมูลท่องเที่ยวอย่าง TripFez ที่เปรียบเสมือนเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างทริปแอดไวเซอร์สำหรับโลกมุสลิมโดยเฉพาะ

TripFez ซึ่งมีฐานในมาเลเซีย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อมุสลิมในโรงแรมทั่วโลก เช่นข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำละหมาด โดยระบุว่ามีคัมภีร์อัลกุรอ่าน ผ้าปู เครื่องหมายระบุทิศสำหรับการทำละหมาด รวมทั้งบริการนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออกจากมินิบาร์ในห้องพักหรือไม่ ทั้งยังบอกพิกัดร้านอาหารฮาลาลใกล้บริเวณโรงแรมอีกด้วย

บีบีซีไทย - BBC Thai

เกิดอุบัติเหตุรถไฟพุ่งชนสถานีในนิวเจอร์ซีย์ เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน เจ็บร่วมร้อย

เกิดอุบัติเหตุรถไฟโดยสารพุ่งชนสถานีรถไฟในเมืองโฮโบเกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 3 คน และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน

ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งซึ่งอยู่ที่สถานีรถไฟขณะเกิดเหตุ บอกกับบีบีซีว่ารถไฟขบวนที่เกิดเหตุแล่นตกรางมาอย่างเต็มเหนี่ยว เขาเห็นผู้โดยสารบนขบวนรถดังกล่าวพากันปีนออกมาจากหน้าต่าง ผู้โดยสารหลายคนได้รับบาดเจ็บ บางคนมีเลือดออกที่ศีรษะ

ขณะนี้คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

เมืองโฮโบเกนตั้งอยู่อีกฟากของแม่น้ำฮัดสัน คนละฝั่งกับนิวยอร์คซิตี้ ผู้โดยสารจะใช้สถานีรถไฟโบโฮเกนเป็นจุดเชื่อมต่อการเดินทางไปยัง แมนฮัตตัน แต่ละวันมีผู้โดยสารใช้บริการสถานีแห่งนี้ประมาณ 15,000 คน #Traincrash

บีบีซีไทย - BBC Thai

ลูกกอริลลาเกิดใหม่ที่สวนสัตว์ในอังกฤษ

สวนสัตว์ทไวครอสในมณฑลเลสเตอร์เชียร์ของอังกฤษ ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นลูกกอริลลาที่ลุ่มตะวันตก ซึ่งเกิดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สวนสัตว์บอกว่ายังไม่ได้ตั้งชื่อลูกกอริลลาอย่างเป็นทางการ และขณะนี้ยังไม่รู้เพศของมัน เพราะแม่กอริลลาอุ้มลูกไว้แนบอกตลอดเวลา และไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้

ก่อนหน้านี้ โอซาลาและอูมบา แม่และพ่อของลูกกอริลลาเกิดใหม่ ได้เคยให้กำเนิดลูกกอริลลาตัวผู้ชื่อ โลเป ซึ่งอาศัยอยู่ในสวนสัตว์เดียวกัน

ทั้งนี้ กอริลลาที่ลุ่มตะวันตกมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา และเป็นกอริลลาที่มีความเสี่ยงสูญพันธุ์อย่างมาก โดยมีภัยคุกคามจากการถูกล่าและการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ #Gorilla #WesternLowlandGorilla

บีบีซีไทย - BBC Thai

แพนด้าน่ารัก

ศูนย์วิจัยและเพาะพันธุ์แพนด้ายักษ์ในนครเฉิงตูของจีน นำแพนด้า 23 ตัว ที่เพาะพันธุ์ได้ในปีนี้ มาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม แต่ละตัวดูน่ารักน่าเอ็นดูนะครับ

เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) เพิ่งถอดแพนด้า ออกจากบัญชีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มาอยู่ในกลุ่มที่มีความเปราะบางต่อการสูญพันธุ์แทน หลังจากพบว่า มาตรการอนุรักษ์แพนด้าของรัฐบาลจีน ประสบความสำเร็จ โดยคาดว่าปัจจุบันมีแพนด้าโตเต็มวัย อยู่ราว 1,864 ตัว อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญยังคงเตือนว่าปัญหาโลกร้อนจะส่งผลต่อการลดจำนวนลงของป่าไผ่ จึงทำให้มีความสุ่มเสี่ยงที่จำนวนแพนด้าจะลดลงในอนาคต #Panda #IUCN

บีบีซีไทย - BBC Thai

เด็กแอฟริกันบางกลุ่มมีภูมิต้านทานเอดส์คล้ายที่พบในลิง

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักร เผยผลการค้นพบล่าสุดหลังศึกษาตัวอย่างเลือดของเด็กชาวแอฟริกาใต้ 170 คนที่ติดเชื้อเอชไอวีว่า เด็กในจำนวนนี้ 10 % จะไม่พัฒนาไปมีอาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ในภายหลัง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนิ่งเฉยไม่พยายามโจมตีไวรัสเอชไอวี

ทั้งนี้ ปฏิกิริยาตอบโต้เพื่อพยายามทำลายไวรัสเอชไอวีอย่างรุนแรงของร่างกาย เป็นสาเหตุให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเกินขีดจำกัด และเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลายจนเกิดอาการของโรคเอดส์ในที่สุด การที่ค้นพบว่าภูมิคุ้มกันของเด็กชาวแอฟริกันบางกลุ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเชื้อเอชไอวีต่างออกไป อาจเป็นแนวทางไปสู่การรักษาการติดเชื้อเอชไอวีโดยอาศัยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัดได้

ศาสตราจารย์ฟิลิป กูลเดอร์ หนึ่งในทีมนักวิจัยระบุว่า การที่คนเราป่วยด้วยโรคเอดส์นั้น ไม่ได้มาจากการติดเชื้อเอชไอวีโดยตรง แต่มาจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีต่อเชื้อเอชไอวีในแต่ละคนมากกว่า โดยระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก 10% จากกลุ่มตัวอย่างหลีกเลี่ยงที่จะเข้าทำลายเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตนเองที่ถูกต้อง และเป็นกลไกเดียวกับที่พบในลิงกว่า 40 ชนิดซึ่งมีเชื้อภูมิคุ้มกันบกพร่องในลิงหรือ SIV อยู่ แต่ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังสันนิษฐานว่า การที่ภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่ทำงานอย่างแข็งขันรุนแรงเช่นในผู้ใหญ่ ทำให้ไม่เกิดอาการของโรคเอดส์ในวัยเด็ก แต่ก็ไม่แน่ว่าเด็กบางคนอาจเริ่มมีอาการของโรคเอดส์เมื่อเติบโตขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่เกิดอาการของโรคเอดส์ตลอดชีวิต ซึ่งอาจเป็นหลักฐานของวิวัฒนาการขั้นต้นในการอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีในมนุษย์ก็เป็นได้

บีบีซีไทย - BBC Thai

บ้านโมเสคแห่งลอสแอนเจลิส

ศิลปินคู่สามีภรรยาชาวอเมริกัน สร้างบ้านที่ประดับด้วยกระเบื้องโมเสคทำมือทั้งหลัง โดยใช้เวลาสร้างและประดับประดาต่อมาเรื่อย ๆ ถึง 20 ปี และยังใช้วัสดุอื่น ๆ สารพัดเช่นถ้วยกาแฟและของที่ระลึกต่าง ๆ มาร่วมตกแต่งด้วย

นายกอนซาโล ดูแรน เจ้าของบ้านเล่าว่า แนวคิดในการตกแต่งบ้านทั้งหลังด้วยกระเบื้องโมเสค มีจุดเริ่มต้นมาจากภรรยาของเขาที่ต้องการทำกระเบื้องโมเสคตกแต่งห้องน้ำด้วยตนเอง แต่หลังจากนั้นทั้งสองคนเกิดสนุกกับการตกแต่งบ้านด้วยวิธีนี้ จึงได้ขยายการตกแต่งไปยังส่วนอื่นของบ้านเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้กระทั่งเสาและฝ้าเพดาน

ทั้งคู่มองว่า บ้านโมเสคของตนเป็นผลงานศิลปะอย่างหนึ่ง และในอนาคตเมื่อทั้งสองเสียชีวิตไปแล้ว จะเปิดบ้านหลังนี้ซึ่งตั้งอยู่ในนครลอสแอนเจลิสให้เป็นพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้คนทั่วไปเข้าชมด้วย

บีบีซีไทย - BBC Thai

“วิษณุ” ย้ำตั้งบริษัทในค่ายทหารอาจผิดแค่ระเบียบภายใน

“วิษณุ” ชี้ลูกชาย “พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา” ใช้บ้านพักในค่ายทหารตั้งบริษัทอาจแค่ผิดระเบียบภายใน ส่วน พล.อ.ปรีชา ปฏิเสธไม่พูดเรื่องบริษัทของบุตรชาย ขณะที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียตั้งคำถามถึงความเหมาะสมการใช้สถานที่ราชการเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

สำนักข่าวไทยรายงานว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาย้ำอีกครั้งกรณีบุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหมใช้บ้านพักในค่ายทหารจดทะเบียนตั้งบริษัทว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดกฎหมายทั่วไป แต่เป็นเรื่องที่อาจผิดระเบียบภายใน ซึ่งกระทรวงกลาโหมจะเป็นหน่วยงานที่พิจารณา ส่วนจะตีความอย่างไรตนไม่ทราบ

ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรารายงานว่าได้ตรวจสอบพบว่า หจก. คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นคู่สัญญารับเหมาก่อสร้างงานของหน่วยงานภาครัฐทั้งสิ้น 11 โครงการ รวมวงเงิน 155,603,000 บาท โดยได้ใช้บ้านพักในค่ายสมเด็จพระเอกาทศรศ จ.พิษณุโลก เป็นที่ตั้งบริษัท

ด้าน นสพ.บางกอกโพสต์รายงานว่า เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ปรีชา ออกมายืนยันว่าไม่ทราบเรื่องที่บุตรชายใช้บ้านในค่ายพักทหารเป็นที่ตั้งบริษัทของตนเอง

บีบีซีไทยได้โทรศัพท์ไปสอบถาม พล.อ.ปรีชา ซึ่งปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเรื่องนี้ โดยบอกเพียงว่า “สื่อเขียนกันเอง หาคำตอบเอา ถ้าถูกถูก ถ้าผิดก็ว่าไป แล้วมันผิดหรือยัง ส่วนที่นายวิษณุระบุว่าผิดระเบียบภายในก็ให้ไปสอบถามนายวิษณุ”

ทั้งนี้ นายวิษณุ ตอบคำถามสื่อมวลชนที่ถามว่าจะเอาผิดกับ พล.อ.ปรีชา ที่จะเกษียณอายุราชการได้มากน้อยแค่ไหน ว่า ไม่ทราบ เช่นเดียวกับที่เขาไม่ทราบว่าการจัดตั้งบริษัทที่ทำในนามของบุตรชาย พล.อ.ปรีชา ซึ่งไม่ใช่ข้าราชการทหาร จะสามารถลงโทษได้มากน้อยแค่ไหน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดีย อาทิ Pantip.com วิพากษ์วิจารณ์ความเหมาะสมในเรื่องนี้อย่างกว้างขวาง โดยบ้างมองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความไม่มีคุณธรรมและจริยธรรม บางคนตั้งคำถามว่า หากการใช้บ้านในค่ายทหารเป็นสถานที่ตั้ง หจก.ได้ ต่อจากนี้ไปผู้ที่อาศัยบ้านหลวงก็สามารถนำไปใช้ตั้งกิจการต่าง ๆ ได้เช่นกัน เพราะไม่ผิดระเบียบ ไม่ผิดวินัย ไม่ผิดกฎหมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ เป็นต้น

(ภาพจากเว็บไซต์รัฐบาล)

บีบีซีไทย - BBC Thai

ชิมอน เปเรส: จากเด็กชายผู้อพยพสู่รัฐบุรุษของอิสราเอล

นายชิมอน เปเรส อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีอิสราเอลผู้อุทิศตนเพื่อสันติภาพ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 93 ปี เมื่อวันที่ 27 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมอง เขาเป็นหนึ่งในนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลและรัฐบุรุษที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของโลก โดยเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันกระบวนการไปสู่สันติภาพของภูมิภาคตะวันออกกลาง

เปเรสอพยพจากโปแลนด์มาตั้งถิ่นฐานที่ปาเลสไตน์ในวัยเด็ก ในช่วงทศวรรษ 1930 ซึ่งปาเลสไตน์ยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ ต่อมาเขาได้เข้าสู่แวดวงการเมือง โดยมีบทบาทสำคัญในการเจรจาเบื้องหลังเพื่อการก่อตั้งรัฐและกองทัพอิสราเอล ทั้งยังประสบความสำเร็จในการเจรจาให้อิสราเอลได้รับความช่วยเหลือทางเทคโนโลยีจากฝรั่งเศส ในการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งแรกของตน เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ต่อไปอีกด้วย

แม้ในช่วงแรกของชีวิตนักการเมือง เปเรสจะมีส่วนสนับสนุนการตั้งถิ่นฐานของชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงค์ ซึ่งเป็นที่มาของความขัดแย้งกับปาเลสไตน์ แต่ต่อมาเขาได้เล็งเห็นผลเสียของโครงการนี้ และหันมามุ่งเจรจาเพื่อทำข้อตกลงสันติภาพกับปาเลสไตน์ ซึ่งประสบความสำเร็จภายใต้ชื่อของข้อตกลงกรุงออสโลในปี 1993 ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปีต่อมา ร่วมกับนายยิตซัก ราบิน นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และนายยัสเซอร์ อาราฟัต แกนนำขบวนการปลดปล่อยปาเลสไตน์

ชิมอน เปเรส เป็นนายกรัฐมนตรีอิสราเอลถึง 2 สมัย และยังดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแม้ในวัยกว่า 90 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยชนะการเลือกตั้ง เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่สู้ไว้วางใจแนวนโยบายที่ไม่มุ่งเน้นอุดมการณ์ แต่เน้นการปฏิบัติได้จริง และมุ่งสร้างข้อตกลงสันติภาพของเขา #ShimonPeres #Israel

บีบีซีไทย - BBC Thai

การค้นพบตัวเอง : สูตรความสำเร็จของ “ม๊าเดี่ยว”

อภิเชษฐ์ เอติรัตนะ หรือ “ม๊าเดี่ยว” เน็ตไอดอลชาวขอนแก่นวัย 17 ปี เปิดตัวคอลเลคชั่นเสื้อผ้าฝีมือการออกแบบของตัวเองเป็นครั้งแรก โดยวิถีการดำรงชีวิตและอัตลักษณ์ของคนอีสานยังคงเป็นแรงบันดาลใจหลักในการสร้างสรรค์ผลงาน “ม๊าเดี่ยว” เผยว่าสิ่งที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในวันนี้คือ “การค้นพบตัวเองและทำในสิ่งที่ชอบให้ดีที่สุด”

“ม๊าเดี่ยว” เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่นำวัสดุเหลือใช้และวัตถุดิบในท้องถิ่น มาสร้างสรรค์เป็นผลงานการออกแบบเสื้อผ้า และเผยแพร่รูปถ่ายแฟชั่นดังกล่าวบนเฟซบุ๊กส่วนตัว หลังจากนั้นก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และได้รับเชิญให้เป็นนักออกแบบรับเชิญในรายการประกวดหานางแบบระดับเอเชีย และปรากฏตัวทางโทรทัศน์อีกหลายครั้ง

“ม๊าเดี่ยว” เปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า ผลงานการออกแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นแรกนี้ เป็นความร่วมมือกันระหว่างเขาและ กงพัฒน์ ศักดาพิทักษ์ ศิลปินป๊อปอาร์ตชาวจังหวัดเลย โดยทั้งสองคนได้หยิบเอาสิ่งที่ถือได้ว่าเป็นวิถีการใช้ชีวิตและอัตลักษณ์ของคนในภาคอีสานที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี มาเป็นแนวคิดและวัสดุที่ใช้ในการออกแบบ เช่น ข้อความที่อยู่ท้ายรถบรรทุก สุ่มไก่ และใบตอง

อย่างไรก็ตาม ม๊าเดี่ยวบอกว่า กว่าที่จะก้าวมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นเพียง “กะเทยบ้านนอกและไม่ใช่เด็กที่ตั้งใจเรียน” แต่เนื่องจากเขารู้ตัวเองว่าชอบอะไรและไม่กลัวที่จะทำในสิ่งที่รัก กับการรู้จักคิดนอกกรอบ สิ่งเหล่านี้เป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุด

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงมุมมองต่อความสำเร็จครั้งล่าสุด “ม๊าเดี่ยว” ตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “การมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีความตั้งใจและมุ่งมั่น สำหรับความสำเร็จ ณ ขณะนี้ ยังไม่ใช่ความสำเร็จ 100% เพราะนั่นหมายถึงการที่ตัวเองมีความสุขในสิ่งที่ทำทุก ๆ วัน”