บีบีซีไทย - BBC Thai

เด็กแอฟริกันบางกลุ่มมีภูมิต้านทานเอดส์คล้ายที่พบในลิง

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักร เผยผลการค้นพบล่าสุดหลังศึกษาตัวอย่างเลือดของเด็กชาวแอฟริกาใต้ 170 คนที่ติดเชื้อเอชไอวีว่า เด็กในจำนวนนี้ 10 % จะไม่พัฒนาไปมีอาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเอดส์ในภายหลัง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายนิ่งเฉยไม่พยายามโจมตีไวรัสเอชไอวี

ทั้งนี้ ปฏิกิริยาตอบโต้เพื่อพยายามทำลายไวรัสเอชไอวีอย่างรุนแรงของร่างกาย เป็นสาเหตุให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานเกินขีดจำกัด และเซลล์เม็ดเลือดขาวถูกทำลายจนเกิดอาการของโรคเอดส์ในที่สุด การที่ค้นพบว่าภูมิคุ้มกันของเด็กชาวแอฟริกันบางกลุ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเชื้อเอชไอวีต่างออกไป อาจเป็นแนวทางไปสู่การรักษาการติดเชื้อเอชไอวีโดยอาศัยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัดได้

ศาสตราจารย์ฟิลิป กูลเดอร์ หนึ่งในทีมนักวิจัยระบุว่า การที่คนเราป่วยด้วยโรคเอดส์นั้น ไม่ได้มาจากการติดเชื้อเอชไอวีโดยตรง แต่มาจากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มีต่อเชื้อเอชไอวีในแต่ละคนมากกว่า โดยระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก 10% จากกลุ่มตัวอย่างหลีกเลี่ยงที่จะเข้าทำลายเชื้อเอชไอวี ซึ่งเป็นวิธีป้องกันตนเองที่ถูกต้อง และเป็นกลไกเดียวกับที่พบในลิงกว่า 40 ชนิดซึ่งมีเชื้อภูมิคุ้มกันบกพร่องในลิงหรือ SIV อยู่ แต่ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังสันนิษฐานว่า การที่ภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่ทำงานอย่างแข็งขันรุนแรงเช่นในผู้ใหญ่ ทำให้ไม่เกิดอาการของโรคเอดส์ในวัยเด็ก แต่ก็ไม่แน่ว่าเด็กบางคนอาจเริ่มมีอาการของโรคเอดส์เมื่อเติบโตขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนที่ติดเชื้อเอชไอวีไม่เกิดอาการของโรคเอดส์ตลอดชีวิต ซึ่งอาจเป็นหลักฐานของวิวัฒนาการขั้นต้นในการอยู่ร่วมกับเชื้อเอชไอวีในมนุษย์ก็เป็นได้

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.