เลขาธิการยูเอ็นตระหนกเหตุโจมตีในซีเรียทวีความรุนแรงต่อเนื่อง
นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกประจำตัวนายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เปิดเผยว่านายบันมีความกังวลต่อสถานการณ์ในเมืองอเลปโปของซีเรียซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธอย่างต่อเนื่อง และทวีความรุนแรงขึ้นจนน่าตระหนกหลังข้อตกลงหยุดยิงในซีเรียล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผู้แทนรัฐบาล 3 ประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ และฝรั่งเศส เรียกร้องให้มีการจัดประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันนี้ (25 ก.ย.) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เพื่อหารือแนวทางรับมือการโจมตีด้วยกำลังอาวุธในซีเรีย โดยเฉพาะสถานการณ์สู้รบในเมืองอเลปโป ทางเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นการแย่งชิงพื้นที่ระหว่างกองทัพรัฐบาลซีเรียกับกลุ่มติดอาวุธฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อประชาชนนับล้านคนที่ติดอยู่ในพื้นที่ และเสี่ยงต่อภาวะขาดแคลนน้ำ
ด้านนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร เสนอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ารัฐบาลซีเรียและกองทัพรัสเซียเป็นฝ่ายระดมโจมตีทางอากาศในซีเรียจนขบวนรถช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมถูกทำลายจริงหรือไม่ เพราะอาจเข้าข่ายการก่ออาชญากรรมสงคราม แต่รัฐบาลรัสเซียยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุดังกล่าว และนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ยืนยันว่าการผลักดันให้เกิดสันติภาพในซีเรีย ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย จะยังดำเนินต่อไปแม้ข้อตกลงหยุดยิงจะสิ้นสุดไปแล้ว
ส่วนนายวาลิด อัล-โมอาเล็ม รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่งซีเรีย แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่ากองทัพซีเรียพุ่งเป้าโจมตีกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย พร้อมย้ำว่าปฏิบัติการโจมตีกลุ่มติดอาวุธในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง และคาดว่ารัฐบาลจะบรรลุเป้าหมายในการกวาดล้างกลุ่มก่อการร้ายในไม่ช้า
แสดงความคิดเห็น