ชาวท่าแซะ-ชุมพร อดเข้ากรุงค้านเขื่อน คนขับรถถูกกักตัวในค่ายทหาร
Posted: 19 Feb 10:52 PM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
เพจสมัชชาคนจนเผย ประชาชนท่าแซะ-ชุมพร อดเข้ากรุง เหตุทหารกักตัวคนขับรถไว้ในค่าย ก่อนเดินทางเข้ากทม.เพื่อยื่ นหนังสือคัดค้านเขื่อนต่อ กรรมการสิทธิฯ และรัฐบาล พรุ่งนี้ โดยช่วงสายวัน 15 คนถูกเรียกเข้าค่ายทหารด่ วนไปแล้ว
20 ก.พ. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'สมัชชาคนจน' รายงานว่า เมื่อเวลา 19.10 น. ชาวบ้านท่าแซะ จ.ชุมพร ไม่สามารถเดินทางมายื่นหนังสื อที่ทำเนียบรั ฐบาลและคณะกรรมการสิทธิมนุายชน (กสม.) ได้ เพราะทหาร บังคับให้คนขับรถขับไปจอดอยู่ ในค่ายเขตอุดมศักดิ์ มทบ.44 โดยในขณะนี้ได้กักตัวคนขับรถไว้ ในค่ายดังกล่าวด้วย
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้สื่ อข่าวได้รับแจ้งจาก มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ว่า วันนี้ เมื่อเวลา 9.00 น. ประชาชนในพื้นที่บ้านร้านตัดผม ต.สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จำนวน 15 คน ได้รับคำสั่งให้เดินทางเข้าไปยั งค่ายเขตอุดมศักดิ์ จ.ชุมพร สืบเนื่องจากช่วงค่ำของวันที่ 19 ก.พ. 2560 เจ้าหน้าที่ทหารได้เดินทางเข้าไ ปในหมู่บ้านโดยอ้างคำสั่งมาตรา 44 ขอนำตัวประชาชนเข้าไปค่ายทหาร แต่มีการเจรจาต่อรองกันขึ้น ท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่ได้กำชับใ ห้ประชาชนเดินทางไปที่ค่ายในเช้ าวันนี้แทน
มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ระบุด้วยว่าโดยมีการสันนิษฐานว่ า การเรียกตัวประชาชนเข้าค่ายทหาร นี้ น่าจะสืบเนื่องมาจากการที่ ประชาชนกลุ่มดังกล่าวจะเดิ นทางเข้าไปกรุงเทพมหานครเพื่อยื่ นหนังสือคัดค้านเรื่องเขื่อนท่ าแซะกับคณะกรรมการสิทธิมนุ ษยชนแห่งชาติ (กสม.) และเข้าร้องเรียนต่อรัฐบาลที่ทำ เนียบรัฐบาลในวันที่ 21 ก.พ. นี้ โดยเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวอา จเป็นการสกัดกั้นการร้องเรียน
นอกจากนี้ มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน ยังเปิดเผยด้วยว่า ประชาชนในพื้นที่รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารได้ประชุมร่วมกั บผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตร กรรม (ส.ป.ก.) ป่าไม้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ โดยมีข้อสรุปให้ทำการประชาชนที่ อยู่อาศัยในเขตที่ ส.ป.ก. เขตป่าไม้ เพื่อหาทางโยกย้ายประชาชนซึ่งมี แนวคิดว่าจะย้ายประชาชนไปอยู่ใน แปลงปลูกปาล์มของบริษัทวิจิตรภั ณฑ์ แต่การประชุมดังกล่าวขาดการมีส่ วนร่วมของประชาชนนผู้ได้รับผลกร ะทบ ประชาชนจึงทำหนังสือคัดค้านการป ระชุมดังกล่าวไปยังส่วนอำเภอ ส่วนจังหวัด และส.ป.ก.
โดยการคัดค้านเขื่อนท่าแซะ เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการตรว จสอบของ กสม. โดย กสม. มีการประชุมเรียกหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2559 และได้ข้อสรุปว่า ข้อ 1. ให้จังหวัดตั้งคณะกรรมการเพื่อบ ริหารลุ่มน้ำท่าตะเภา ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2551 ซึ่งท่าแซะเป็นสาขาหนึ่ง โดยให้ประชาชนเข้าร่วมเป็นกรรมก ารด้วย หากคณะกรรมการมีผลสรุปการจัดการ ลุ่มน้ำท่าตะเภาเป็นเช่นไรให้ ดำเนินการตามขั้นต่อไป ข้อ 2. ให้ส่วนจังหวัด ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ระงับการสร้างเขื่อนไว้ก่อน จนกว่าจะได้ข้อสรุปตามข้อ 1. และ ข้อ 3. กรมชลประทานควรยุติการดำเนินการ ใด ๆ ไว้ก่อนจนกว่าจะได้ข้อสรุปตาม ข้อ 1.
ทั้งนี้ เขื่อนท่าแซะ ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านร้านตัดผม ต.พี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร มีขนาดความจุน้ำประมาณ 157 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยจะทำให้เกิดพื้นที่ท่วมน้ำป ระมาณ 6,800 ไร และจะท่วมเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ประมาณ 1,600 ไร่ นอกจากนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อพื้ นที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของประ ชาชน ต.สองพี่น้องประมาณ 400 - 500 ครัวเรือน โดยที่ผ่านมาประชาชนได้พยายามคั ดค้านการสร้างเขื่อนท่าแซะมาโดย ตลอด เนื่องจากเห็นว่าไม่มีความจำเป็ นเพราะในพื้นที่จังหวัดชุมพรมีโ ครงการตามแนวพระราชดำริหนองใหญ่ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำได้ เป็นอย่างดีแล้ว
บารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน ให้สัมภาษณ์ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่ อข่าวประชาไทว่า กรมชลประทานมีแผนโครงการสร้ างเขื่อนท่าแซะตั้งแต่ปี 2536 แต่ประชาชนไม่ยินยอม และเมื่อปี 2538 ประชาชนเรียกร้องหลังจากถูกน้ำ ท่วมหลังจากมีการขุดคลองที่บ้ านร้านตัดผม ส่งผลให้ 400 ครัวเรือนในต. สองพี่น้อง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้รับผลกระทบ กรมชลฯแจ้งจะหาที่อยู่ให้ ประชาชนใหม่ แต่ยังไม่มีการจัดหาให้
บารมีกล่าวว่า โครงการสร้างเขื่อนท่าแซะมีวั ตถุประสงค์เพื่อเอาน้ำไปใช้ในนิ คมอุตสาหกรรมที่ จ.ประจวบ ไม่ใช่ใช้ประโยชน์ที่ท่าแซะ
หมายเหตุ : มีการอัพเดทข้อมูลพร้อมเปลี่ ยนพาดหัวข่าวเมื่อเวลา 19.40 น. 20 ก.พ.2560
แสดงความคิดเห็น