Posted: 03 Feb 2018 05:58 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

ยีน ชาร์ป นักวิชาการอเมริกันผู้ศึกษาและเผยแพร่แนวทางยุทธศาสตร์ต่อต้านเผด็จการแบบสันติวิธี เสียชีวิตแล้วย่างสงบในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลงานขอเขาส่งผลทั้งความรู้และแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวต่อต้านอำนาจด้วยการไม่ใช้ความรุนแรงหลายที่ในโลกช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา

ยีน ชาร์ป นักวิชาการอเมริกันผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการทำงานด้านสันติวิธี

3 ก.พ. 2561 สถาบันอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ประกาศว่า ยีน ชาร์ป นักวิชาการอเมริกันผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการทำงานด้านสันติวิธีเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วในบ้านพักของตัวเองด้วยอายุรวม 90 ปี

ชาร์ปเป็นผู้ที่เขียนหนังสือเกี่ยวกับการต่อสู้กับการกดขี่ด้วยสันติวิธีจนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับการเคลื่อนไหวอาหรับสปริง บทมรณกรรมเกี่ยวกับชาร์ประบุว่าเขาเป็นคนที่อุทิศชีวิตให้กับการค้นคว้าและเขียนงานเกี่ยวกับการต่อสู้กับอำนาจ โดยมีข้อเสนอหลักคือการโยกย้ายการยินยอมของประชาชนและสถาบันที่สนับสนุนอำนาจเหล่านั้นให้หันเหออกมาสู่หนทางแบบประชาธิปไตยให้ได้จะทำให้ผู้ปกครองสูญเสียอำนาจลงได้

ชาร์ปเกิดเมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2471 เขาได้รับปริญญาตรีและโทด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยรัฐโอไฮโอก่อนที่จะย้ายไปนิวยอร์กแล้วเขียนหนังสือเล่มแรกที่นั่นเกี่ยวกับแนวทางอหิงสาของมาหตมะคานธี ในปี 2496 เขาแสดงจุดยืนอารยะขัดขืนต่อการเกณฑ์ทหารอเมริกันไปร่วมรบในสงครามเกาหลีทำให้เขาถูกลงโทษจำคุก 2 ปี ก่อนหน้าที่เขาจะถูกพิจารณาคดีในเรื่องนี้เขาเคยเขียนจดหมายถึงอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ปรินสตันพูดถึงจุดยืนของตัวเองในกรณีสงครามเกาหลีและขอให้เขียนคำนำหนังสือเกี่ยวกับคานธี ไอน์สไตน์ตอบกลับโดยทันทีว่าจะเขียนคำนำให้หนังสือเขาและให้อนุญาตนำจดหมายของเขาไปใช้ในกระบวนการพิจารณาคดีได้

ไอน์สไตน์เขียนถึงชาร์ปว่า "ผมชื่นชมคุณจากใจจริงในเรื่องความเข้มแข็งทางจริยธรรมของคุณและได้แต่หวัง ถึงแแม้ว่าผมไม่รู้จริง ๆ ว่าผมจะทำแบบเดียวกับคุณหรือไม่ถ้าผมต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน" ไอน์สไตน์ยังเขียนจดหมายปลอบใจแม่ของชาร์ปหลังจากที่มีคำตัดสินออกมาแล้วด้วย

หลังจากที่ชาร์ปได้รับการปล่อยตัว เขาก็ทำงานร่วมกับ เอเจ มุสเต นักสันตินิยมที่มีชื่อเสียงที่สุดในอเมริกา ก่อนที่จะเดินทางไปยังกรุงลอนดอนเพื่อที่จะเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการของสื่อพีชนิวส์แล้ววางแผนจัดการชุมนุมอัลเตอร์มาสตันต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งแรกในปี 2501 โดยมีการแจกใบปลิวที่เรียกร้องให้ผู้เดินขบวนอยู่ภายใต้แนวทางไม่ใช่ความรุนแรง ในเวลาต่อมาชาร์ปได้เดินทางไปศึกษาต่อที่สถาบันแห่งไอเดียในออสโล ทำให้เขาได้ปริญญาเอกสำหรับวิทยานิพนธ์ที่ได้รับคำชื่นชมมากที่สุดคือ "การเมืองของปฏิบัติการสันติวิธี" (The Politics of Nonviolent Action)

หลังจากที่ชาร์ปศึกษาเรื่องการหยุดงานประท้วงของครูเพื่อแสดงการต่อต้านเผด็จการทหารควิสลิงในนอร์เวย์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาก็เป็นผู้บุกเบิกการศึกษายุทธศาสตร์การต่อสู้แบบสันติวิธีเพื่อยับยั้งการรุกรานของสหภาพโซเวียต โดยเชื่อว่าถ้าหากประชาชนได้รับการฝึกฝนในการต่อสู้แบบสันติวิธีก็จะทำให้พวกเขาไม่สามารถถูกปกครองได้และทำให้ชนะได้โดยไม่ต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์ แนวคิดของเขาถูกนำมาใช้อย่างประสบความสำเร็จในช่วงที่ประเทศแถบบอลติคต่อต้านขัดขืนกองกำลังของโซเวียตเมื่อปี 2534 และการต่อต้านการรัฐประหารยึดอำนาจมิคาอิล กอร์บาชอฟ ผู้นำรัสเซียในยุคสมัยนั้นในเวลาต่อมา จนทำให้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของลิทีวเนีย ออเดรียส บุตเควิเซียส บอกว่า "ผมขอหนังสือของเขา (ชาร์ป) ดีกว่าอาวุธนิวเคลียร์"

หนึ่งในสิ่งที่ผู้คนรู้จักกันในนามของชาร์ปคือ 198 วิธี ของการต่อสู้แบบสันติวิธี (198 nonviolent methods) ที่มาจากการศึกษากรณีการต่อสู้โดยสันติในประวัติศาสตร์หลายร้อยปีที่ผ่านมา หลักการของเขายังมีการนำไปปฏิบัติจริง ทั้งจากการที่ชาร์ปเคยเข้าพบยัสเซอร์ อาราฟัต โน้มน้าวให้เขาและชาวปาเลสไตน์ใช้หลักการสันติวิธีต่อสู้กับอิสราเอล ชาร์ปยังเคยเข้าไปศึกษาการประท้วงรัฐบาลจีนที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 2532 ด้วย

ในปี 2535 ชาร์ปยังเคยลอบเข้าไปในพม่าเพื่อจัดสอนวิธีการต่อต้านอย่างไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในพม่าและชนกลุ่มน้อย หลังจากที่มีการสั่งคุมขังอองซานซูจี จากนั้นเขาจึงเรียบเรียงหนังสือบทความเกี่ยวกับการต่อสู้กับเผด็จการชื่อ "จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" (From Dictatorship to Democracy) ที่ฝากไว้เป็นแนวทางการต่อสูของชาวพม่าโดยที่ใช้ภาษาเรียบง่ายและไม่ยาวทำให้มีการแปลส่งต่อให้กับผู้คนที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันอยู่ได้


"จากเผด็จการสู่ประชาธิปไตย" ของยีน ชาร์ป มีการแปลออกไปมากกว่า 34 ภาษา มีการนำไปใช้ต่อสู้กับเผด็จการในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพม่า เซอร์เบีย, จอร์เจีย รวมถึงอาหรับสปริง ในหลายปีหลังจากที่หนังสือเล่มนี้เผยแพร่ออกมา และมีการใช้อยู่แม้กระทั่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นขบวนการคนหนุ่มสาวในอียิปต์หรือนซีเรีย การเคลื่อนไหวในฮ่องกง เวเนซุเอลา และที่อื่น ๆ


ชาร์ปเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลโนเบลถึง 3 ครั้งเป็นอย่างน้อย และเคยได้รับรางวัลระดับนานาชาติหลายรางวัล เช่น รางวัลไรท์ลิฟลิฮู้ด ในปี 2555 มีภาพยนตร์ชีวประวัติของเขาชื่อ "How to Start a Revolution" ชนะรางวัล BAFTA และมีการฉายทั่วโลกรวมถึงในที่ชุมนุมออคคิวพายที่เรียกร้องทั้งความเป็นธรรมทั้งทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ




เรียบเรียงจาก


Gene Sharp, Godfather of nonviolent revolution dies at 90 years old, HowToStartARevolution, 30-01-2018
https://www.howtostartarevolution.org/single-post/GeneSharpObituary


Gene Sharp, US scholar whose writing helped inspire Arab Spring, dies at 90, The Guardian, 31-01-2018
https://www.theguardian.com/world/2018/jan/30/gene-sharp-dead-arab-spring-political-scientist

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.