ภาพจาก เฟสบุ๊ค บัณฑิตา ฮาริ อย่างดี
Posted: 20 Feb 2018 12:21 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)
รมว.พลังงาน และตัวแทนเครือข่ายโรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่-เทพา ร่วมเซ็นสัญญา 4 ข้อหยุดโรงไฟฟ้า ให้เวลาศึกษาความเหมาะสมโดยนักวิชาการทีมีความเป็นกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน 9 เดือน ประกาศยุติการชุมนุมพร้อมเดินทางกลับบ้าน แกนนำยัน 9 เดือน ถ้ารัฐยังไม่ดำเนินตามข้อตกลงเราก็ต้องขึ้นมาใหม่
20 ก.พ.2561 รายงานข่าวระบุว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)หารือร่วมกับเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเล กระบี่-เทพา นานกว่า 1 ชั่วโมง และในที่สุดได้ข้อสรุปด้วยการตั้งโต๊ะเซ็นสัญญาหยุดโครงการไฟฟ้าถ่านหิน หลังจากนั้นกลุ่มตัวแทน ประกาศยุติการชุมนุน ชาวบ้านที่มาชุมนุมก็ต่างเก็บของ และเริ่มทยอยกลับบ้าน โดยไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลตามกำหนดการเดิม
สำหรับบันทึกข้อตกลงระหว่าง กระทรวงพลังงาน กับเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่หน้าสหประชาชาตินั้น มีสาระสำคัญ 4 ประเด็น ดังนี้
1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถอนรายงาน EHIA โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ ออกจากการพิจารณาของสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ภายใน 3 วัน และให้ กฟผ. ส่งหนังสือแจ้งรับทราบการขอถอนรายงานไปยังเครือข่าย
2. ให้กระทรวงพลังงานจัดทำรายงานผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อศึกษาว่าพื้นที่จังหวัดกระบี่ และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ โดยจะต้องจัดทำด้วยนักวิชาการทีมีความเป็นกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน และหากการศึกษาชี้การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินว่าไม่เหมาะสม กฟผ. ต้องยุติการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสองพื้นที่ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือน
3. หากผล SEA ชี้ว่าพื้นที่มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในขั้นตอนการจัดทำ EHIA จะต้องจัดทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน
4. ให้คดีความระหว่าง กฟผ. และเครือข่ายเลิกแล้วต่อกัน
ด้าน รมว.พลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการตามกระบวนการที่ได้รับปากไว้กับชาวบ้าน โดยยอมรับว่าไม่กังวล การหาคณะกรรมการกลางที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายมาทำหน้าที่ศึกษาความเหมาะสม ซึ่งทุกขั้นตอนจากนี้ไปในระยะเวลา 9 เดือน จะต้องทำอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เริ่มต้น 29 ม.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เริ่มนั่งสงบที่หน้า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล จากนั้นกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เข้ามาสมทบ และ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา เริ่มอดอาหารที่ด้านหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ จำนวน 68 คน พร้อมด้วยนักศึกษา 1 คนในจำนวนนั้น เป็นลม หามส่งโรงพยาบาล 10 คน จนกระทั่ง รมว.พลังงานลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมดังกล่าวในวันนี้
(ที่มา : ไทยพีบีเอส, เพจหยุดถ่านหินกระบี่ และ เฟสบุ๊ค บัณฑิตา ฮาริ อย่างดี)
ผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถาม มุสตาร์ซีดีน วาบา หรือ “แบมุส” แกนนำกลุ่มค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และเป็น 1 ใน 17 คน ที่ถูกตั้งข้อขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่่รัฐ พกพาอาวุธในที่สาธารณะ กีดขวางการจราจร และฝ่าฝืน พ.ร.บ. การชุมนุมในที่สาธารณะ จากกรณีเข้าร่วมกิจกรรม “เดิน...เทใจให้เทพาหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน” เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มเติม ถึงข้อตกลงนี้ โดย มุสตาร์ซีดีน กล่าวว่า ต้องรอดูอีก 9 เดือนว่า เขาทำตามข้อตกลงอยู่ไหม อย่างที่พวกเราได้พูดไปตอนเช้าว่า ถ้า 9 เดือนนี้รัฐยังไม่ดำเนินตามข้อตกลงเราก็ต้องขึ้นมาใหม่
สำหรับข้อตกลงที่ระบุว่า ยกเลิกการดำเนินคดีกับชาวบ้าน นั้น มุสตาร์ซีดีน กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่ารวมถึงคดี 17 ผู้ต้องหาที่ถูกจับต้องประท้วงหรือไม่ เพราะว่าคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว พวกเราก็น่าจะต้องไปศาลสงขลา 12 มี.ค.นี้ เป็นนัดพร้อม
มุสตาร์ซีดีน กล่าวย้ำถึงการทำ EHIA ใหม่ด้วยว่ามีข้อเท็จจริงอยู่ทนโท่ว่า เทพานี้อุดมสมบูรณ์มาก มีปลาหลายหลายชนิด มีป่าโกงกาง ไม่ได้เป็นป่าเสื่อมโทรม ป่าร้างอย่างที่ EHIA เขียน มาดูด้วยตาก็ได้ และยังมีงานศึกษาธรรมชาติที่นี่อีกมากมายที่พูดว่าทะเลที่เทพานั้นอุดมสมบูรณ์ พวกเราจึงไม่กลัว จะให้ทำ EHIA อีกกี่ครั้ง ถ้าทำอย่างซื่อสัตย์ จริง ผลก็จะออกมาว่าทะเลเทพานั้นอุดมสมบูรณ์ แต่รัฐจะไปทำ EHIA อีกที ตนว่าเป็นงานผลาญงบอยู่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจออกประกาศให้ชาวบ้านค้านโรงไฟฟ้าเทพา-กระบี่ ยุติการนั่งหน้าทำเนียบ
คุยกับผู้ชุมนุมค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา ในวันที่พี่น้องอดอาหารจนเป็นลม
รมว.พลังงาน และตัวแทนเครือข่ายโรงไฟฟ้าถ่านหิน กระบี่-เทพา ร่วมเซ็นสัญญา 4 ข้อหยุดโรงไฟฟ้า ให้เวลาศึกษาความเหมาะสมโดยนักวิชาการทีมีความเป็นกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน 9 เดือน ประกาศยุติการชุมนุมพร้อมเดินทางกลับบ้าน แกนนำยัน 9 เดือน ถ้ารัฐยังไม่ดำเนินตามข้อตกลงเราก็ต้องขึ้นมาใหม่
20 ก.พ.2561 รายงานข่าวระบุว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมา ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยตัวแทนการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)หารือร่วมกับเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเล กระบี่-เทพา นานกว่า 1 ชั่วโมง และในที่สุดได้ข้อสรุปด้วยการตั้งโต๊ะเซ็นสัญญาหยุดโครงการไฟฟ้าถ่านหิน หลังจากนั้นกลุ่มตัวแทน ประกาศยุติการชุมนุน ชาวบ้านที่มาชุมนุมก็ต่างเก็บของ และเริ่มทยอยกลับบ้าน โดยไม่เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาลตามกำหนดการเดิม
สำหรับบันทึกข้อตกลงระหว่าง กระทรวงพลังงาน กับเครือข่ายปกป้องสองฝั่งทะเลกระบี่-เทพา ยุติโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่หน้าสหประชาชาตินั้น มีสาระสำคัญ 4 ประเด็น ดังนี้
1. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ถอนรายงาน EHIA โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการ ออกจากการพิจารณาของสำนักนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อม (สผ.) ภายใน 3 วัน และให้ กฟผ. ส่งหนังสือแจ้งรับทราบการขอถอนรายงานไปยังเครือข่าย
2. ให้กระทรวงพลังงานจัดทำรายงานผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) เพื่อศึกษาว่าพื้นที่จังหวัดกระบี่ และอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินหรือไม่ โดยจะต้องจัดทำด้วยนักวิชาการทีมีความเป็นกลางที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับร่วมกัน และหากการศึกษาชี้การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินว่าไม่เหมาะสม กฟผ. ต้องยุติการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสองพื้นที่ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 9 เดือน
3. หากผล SEA ชี้ว่าพื้นที่มีความเหมาะสมในการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในขั้นตอนการจัดทำ EHIA จะต้องจัดทำโดยคนกลางที่ยอมรับร่วมกัน
4. ให้คดีความระหว่าง กฟผ. และเครือข่ายเลิกแล้วต่อกัน
ด้าน รมว.พลังงาน กล่าวว่า หลังจากนี้จะดำเนินการตามกระบวนการที่ได้รับปากไว้กับชาวบ้าน โดยยอมรับว่าไม่กังวล การหาคณะกรรมการกลางที่เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายมาทำหน้าที่ศึกษาความเหมาะสม ซึ่งทุกขั้นตอนจากนี้ไปในระยะเวลา 9 เดือน จะต้องทำอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา
สำหรับการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เริ่มต้น 29 ม.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา เริ่มนั่งสงบที่หน้า สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล จากนั้นกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ เข้ามาสมทบ และ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา เริ่มอดอาหารที่ด้านหน้าสำนักงานองค์การสหประชาชาติ จำนวน 68 คน พร้อมด้วยนักศึกษา 1 คนในจำนวนนั้น เป็นลม หามส่งโรงพยาบาล 10 คน จนกระทั่ง รมว.พลังงานลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมดังกล่าวในวันนี้
(ที่มา : ไทยพีบีเอส, เพจหยุดถ่านหินกระบี่ และ เฟสบุ๊ค บัณฑิตา ฮาริ อย่างดี)
ผู้สื่อข่าวประชาไท สอบถาม มุสตาร์ซีดีน วาบา หรือ “แบมุส” แกนนำกลุ่มค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา และเป็น 1 ใน 17 คน ที่ถูกตั้งข้อขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่่รัฐ พกพาอาวุธในที่สาธารณะ กีดขวางการจราจร และฝ่าฝืน พ.ร.บ. การชุมนุมในที่สาธารณะ จากกรณีเข้าร่วมกิจกรรม “เดิน...เทใจให้เทพาหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน” เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เพิ่มเติม ถึงข้อตกลงนี้ โดย มุสตาร์ซีดีน กล่าวว่า ต้องรอดูอีก 9 เดือนว่า เขาทำตามข้อตกลงอยู่ไหม อย่างที่พวกเราได้พูดไปตอนเช้าว่า ถ้า 9 เดือนนี้รัฐยังไม่ดำเนินตามข้อตกลงเราก็ต้องขึ้นมาใหม่
สำหรับข้อตกลงที่ระบุว่า ยกเลิกการดำเนินคดีกับชาวบ้าน นั้น มุสตาร์ซีดีน กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่ารวมถึงคดี 17 ผู้ต้องหาที่ถูกจับต้องประท้วงหรือไม่ เพราะว่าคดีเข้าสู่ชั้นศาลแล้ว พวกเราก็น่าจะต้องไปศาลสงขลา 12 มี.ค.นี้ เป็นนัดพร้อม
มุสตาร์ซีดีน กล่าวย้ำถึงการทำ EHIA ใหม่ด้วยว่ามีข้อเท็จจริงอยู่ทนโท่ว่า เทพานี้อุดมสมบูรณ์มาก มีปลาหลายหลายชนิด มีป่าโกงกาง ไม่ได้เป็นป่าเสื่อมโทรม ป่าร้างอย่างที่ EHIA เขียน มาดูด้วยตาก็ได้ และยังมีงานศึกษาธรรมชาติที่นี่อีกมากมายที่พูดว่าทะเลที่เทพานั้นอุดมสมบูรณ์ พวกเราจึงไม่กลัว จะให้ทำ EHIA อีกกี่ครั้ง ถ้าทำอย่างซื่อสัตย์ จริง ผลก็จะออกมาว่าทะเลเทพานั้นอุดมสมบูรณ์ แต่รัฐจะไปทำ EHIA อีกที ตนว่าเป็นงานผลาญงบอยู่
เรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ตำรวจออกประกาศให้ชาวบ้านค้านโรงไฟฟ้าเทพา-กระบี่ ยุติการนั่งหน้าทำเนียบ
คุยกับผู้ชุมนุมค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา ในวันที่พี่น้องอดอาหารจนเป็นลม
แสดงความคิดเห็น