Posted: 22 Feb 2018 12:47 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เว็บไซต์ประชาไท)

สื่อดิอินเตอร์เซปท์รายงานถึงสถานการณ์การปราบปรามผู้คนหลังเหตุประท้วงการโกงการเลือกตั้งในฮอนดูรัสเมื่อปีที่แล้วที่ทำให้ ฮวน ออร์ลันโอ เฮอร์นันเดซ ได้เป็นประธานาธิบดี โดยมีการบุกค้นบ้านคนยามวิกาล แม้จะขัดต่อกฎหมายของฮอนดูรัสเองก็ตาม นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่หน่วยความมั่นคงพิเศษที่ก่อเหตุเช่นนี้เคยได้รับจากฝึกฝนจากสหรัฐฯ

เหตุเกิดกลางดึกคืนหนึ่งในเมืองพิเมียนตา ประเทศฮอนดูรัส ครอบครัวที่มีเด็กอายุ 3 กับ 6 ขวบ นอนหลับอยู่ในบ้านอยู่ดีๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยพิเศษบุกพังบ้านของพวกเขา ไล่รื้อบ้านของพวกเขากระจัดกระจาย ฉีกกระชากแม้แต่หมอนและเตียงนอนโดยที่คนในครอบครัวได้แต่ยืนมอง เด็กๆ ร้องไห้จ้าด้วยความกลัว "พวกเขาทำเหมือนเราเป็นอาชญากร ชี้อาวุธมาที่เรา"

เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นผลต่อเนื่องมาจากความพยายามปราบปราม ลิดรอนเสรีภาพในการชุมนุมของประชาชนหลังการเลือกตั้งที่เกิดปัญหาในช่วงเดือน พ.ย. 2560 และถึงแม้ว่าตามกฎหมายฮอนดูรัสแล้วการค้นตามหมายค้นควรจะกระทำได้เฉพาะในช่วงเวลากลางวันคือระหว่าง 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น เท่านั้น แต่หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงฮอนดูรัสก็อ้างว่าการบุกรุกตรวจค้นและจับกุมตามอำเภอใจของพวกเขา "กระทำอย่างถูกกฎหมาย"

หน่วยความมั่นคงพิเศษที่ก่อการเช่นนี้มีชื่อเรียกจากทางการฮอนดูรัสว่า TIGRES พวกเขากระทำการบุกตรวจค้นยามวิกาลมา 10 ครั้งแล้ว และจับกุมชาวเมืองพิเมียนตา 11 ราย โดยอ้างข้อหาเกี่ยวกับการทำลายทรัพย์สินและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจในการประท้วงต่อต้านการโกงการเลือกตั้งที่ทำให้ ฮวน ออร์ลันโอ เฮอร์นันเดซ จากพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับชัยชนะ

ดิอินเตอร์เซฟท์นำเสนอว่า TIGRES เป็นหน่วยพิเศษที่กลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์มาตั้งแต่การจัดตั้งในปี 2556 แล้ว หน่วยพิเศษกลุ่มนี้ได้รับการฝึกฝนจากหน่วยกรีนเบเรต์สจากกองกำลังพิเศษที่ 7 (สังกัดกองทัพอากาศ) สหรัฐฯ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กองกำลังกลุ่มนี้มีประวัติเสียหายจากกรณีการโจรกรรมและทุจริตคอร์รัปชัน รวมถึงการลอบค้ายา นอกจากนี้ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปราบปรามประชาชนในช่วงวิกฤตการเมืองฮอนดูรัส

นอกจากนี้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังแสดงการสนับสนุนเฮอร์นัสเดซ ผู้เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคมาเป็นเวลานานด้วย

การปราบปรามผู้ต่อต้านยังเกิดขึ้นหนักมากเป็นพิเศษในพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือของฮอนดูรัส ที่เป็นทั้งฐานของฝ่ายต่อต้านและเป็นฐานเศรษฐกิจสำคัญ โดยที่ผู้ประท้วงทำการต่อต้านด้วยการปิดถนนทางหลวงเป็นเวลานานหลายเดือน

ฮัวคิน เมจิยา ทนายความที่ทำงานเป็นนักวิจัยด้านสิทธิมนุษยชนขององค์กที่ชื่อ ERIC กล่าวว่ากองทัพฮอนดูรัสทำเหมือนพื้นที่ของพวกเขาเป็นพื้นที่สงครามโดยมีการใช้อาวุธปืนยิงใส่ประชาชนที่ชุมนุมประท้วงโดยปราศจากอาวุธ นอกจากนี้ยังมีการยิงแก็สน้ำตาใส่ผู้คนโดยไม่แยกแยะรวมถึงยิงใส่บ้านเรือนประชาชน คนที่ถูกจับก็ได้รับการปฏิบัติอย่างไร้มนุษยธรรม บางกรณีก็มีการบุกเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่มีหมายค้น

ทางด้านข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติก็เคยออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลที่ใช้กำลังเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุม รวมถึงโจมตีผู้ปกป้องสิทธิมนุษยชนและคนทำงานสื่อ โดยมีหลักฐานจากหลายแหล่งที่แสดงให้เห็นว่ามีใช้อาวุธปืนและการบีบบังคับไล่ที่ผู้ชุมนุมเป็นเครื่องมือในการปราบปรามประชาชน



เรียบเรียงจาก

U.S.-TRAINED POLICE ARE HUNTING DOWN AND ARRESTING PROTESTERS AMID POST-ELECTION CRISIS IN HONDURAS, The Intercept, 20-02-2018[full-post]

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.