Atukkit Sawangsuk

สล้าง บุนนาค เป็นหนึ่งในภาพสะท้อนความย้อนแย้งคดเคี้ยวของประวัติศาสตร์การเมืองไทย น้องๆ สมัคร สุนทรเวช คือจากฝ่ายขวา ปราบนักศึกษา 6 ตุลา ตบหน้า อ.ป๋วยที่สนามบิน กลับกลายเป็นกองเชียร์ทักษิณ แม้คงไม่ใช่ด้วยทัศนะประชาธิปไตยอะไรหรอก น่าเป็นเพราะเลือดตำรวจเข้มข้น ปลื้มยุคทักษิณตำรวจมีีศักดิ์ศรี และคงชอบอำนาจนิยม จาก 6 ศพโจ ด่านช้าง มาสู่ยุคฆ่าตัดตอน แต่ก็ตลกร้ายที่บั้นปลายชีวิต สล้างติดโผ 83 รายชื่อที่ถูก ศอฉ.อายัดบัญชีฐานสงสัยว่าหนุนม็อบเสื้อแดงปี 53 และถูก คสช.เรียกรายงานตัวปี 57 เลยได้พูดคุยกับคนรุ่นใหม่ เช่น บก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์จอม เพชรประดับ ลงประชาไทเมื่อปี 52

ถามว่าวันนี้รู้สึกอย่างไรกับสล้าง ก็ยังคงประณามพฤติกรรมในอดีต (รวมทั้งวิสามัญ 6 ศพ) แต่การที่สล้างไม่ได้มีบทบาท "ขวาพิฆาตซ้าย" ในรัฐประหาร 2 ครั้งหลัง ก็ทำให้ความรู้สึกเดิมไม่ได้เพิ่มขึ้น ไม่เหมือนคนอื่นๆ หรือพวกคนตุลา ที่พลิกข้างไปอย่างน่าทุเรศกว่า

พูดง่ายๆว่า สล้างมาตายตอนนี้ก็เลยรู้สึกเฉยๆ ไม่ให้ค่า ไม่อโหสิ แต่ไม่ถึงกับต้องไชโยโห่ร้อง ถึงอย่างไร สิ่งที่แกทำมันติดตัว บันทึกไปชั่วกัลปาวสาน เช่นที่อ้างว่าตบหน้า อ.ป๋วยเพื่อช่วยจากกระทิงแดงก็ไม่มีใครเชื่อ (แล้วก็ไม่ได้ถือว่าสล้างเปลี่ยนมามีจุดยืนประชาธิปไตย แกเพียงแต่เข้าข้างทักษิณ เลยไม่เชียร์รัฐประหาร)

เพียงแต่เทียบๆ ดูแล้ว ก็นึกขำๆ ว่าเอ๊ะ ระหว่างสล้างตาย กับกวีเน่าๆ ตาย นี่จะไชโยโห่ร้องข้างไหนดีหว่า

(ชวนอ่าน)

ย้อนดูบันทึกคำให้การ ‘สล้าง บุนนาค’ คดี 6 ตุลาคม 2519 (โคตรตอแหล พูดยังกะกระทิงแดงเป็นประชาชนมือเปล่า นศ.มีอาวุธเป็นคลัง ความจริงมี แต่แค่การ์ดเอาปืนพ่อมาไม่กี่คน)
https://www.matichon.co.th/news/854902
สิงห์เฒ่ามือสังหาร ‘พล.อ.สล้าง บุนนาค’ เตือนคนไทยก่อนจะสิ้นชาติ (ให้สัมภาษณ์จอม ปี 52 มีส่วนที่เหมือนตำรวจทั่วไปคือยัวะมาก ที่สื่อ กระแสสังคม กรรมการสิทธิ เข้าข้างม็อบพันธมิตร ด่าตำรวจเละ ในคดี 7 ตุลา 51)
https://prachatai.com/journal/2009/09/25863


แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.