เปิดใจบันยาล แวมะนอ : ญีฮาดฯ ไม่กลับไปที่เดิมอีกแล้ว
Posted: 09 Mar 2016 10:18 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
การตัดสินใจทิ้งโรงเรียนญีฮาดวิ ทยาของครอบครัวแวมะนอแล้วไปพั กอาศัยชั่วคราวที่มัสยิ ดและโรงเรียนตาดีกาบ้านท่าด่าน ม.3 ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี รวม 14 ชีวิต หลังจากศาลแพ่งพิพากษาริบทรัพย์ สินที่ดินโรงเรียนญีฮาดวิทยาหรื อปอเนาะบ้านท่าด่านเนื้อที่ 14 ไร่เศษตกเป็นของรัฐในความผิ ดฐานก่อการร้ายตามกฎหมายฟอกเงิ นส่ง ผลสะเทือนไม่น้อยต่อสถานการณ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้/ ปาตานี
และในที่สุดทางศูนย์ ประสานงานให้ความช่วยเหลื อครอบครัวโรงเรียนปอเนาะญิฮาดวิ ทยา จะจัดงานเลี้ยงข้าวยำน้ำชาเพื่ อสมทบทุนช่วยเหลือครอบครั วปอเนาะญีฮาดวิทยาและพัฒนาชุ มชนท่าด่านให้เป็นศูนย์ กลางการศึกษาชุมชนโดยชุมชนเพื่ อชุมชน ในวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559 ที่จะถึงนี้ เป้าหมายเพื่อซื้อที่ดิน 10 ไร่สร้างโรงเรียนแห่งใหม่
ทำไมครอบครัวแวมะนอตัดสินใจเช่ นนั้น ทั้งที่รัฐอนุญาตให้อยู่ต่ อและจะให้เปิดเป็นสถานศึกษาได้ ตามเจตนารมณ์เดิมของผู้ก่อตั้ งผู้บริจาค นายบันยาล แวมะนอ ลูกชายนายดุลเลาะ แวมะนอ ที่เป็นอดีตครูใหญ่โรงเรียนญี ฮาดวิทยาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดในคดีซึ่ งเกิดมาตั้งแต่ปี 2548 เปิดใจอธิบายเรื่องนี้
สร้างที่ใหม่เพื่อสานต่ อเจตนารมณ์เดิม
นายบันยาล แวมะนอ บอกว่า เหตุผลที่พยายามจะระดมทุนเพื่ อสร้างโรงเรียนขึ้นมาอีกครั้งก็ เพื่อสานต่อเจตนารมณ์ ของบาบอเฮงผู้ก่อตั้งปอเนาะญิ ฮาด และเพื่อให้คนในหมู่บ้านมีที่ศึ กษาหาความรู้โดยเฉพาะด้านศาสนา เพราะ 11 ปีที่ผ่านมา เราเห็นแล้วว่าการไม่มีโรงเรี ยนสอนศาสนาคอยฝึกอบรมเด็ กและเยาวชน ส่งผลเสียต่อสังคมที่นี่อย่างที ่หลายคนก็ทราบดี เช่น ติดยาเสพติด และปัญหาอื่นๆ เป็นต้น
“นี่จึงเป็นที่มาที่ทำให้ชาวบ้ านอยากให้มีโรงเรี ยนสอนศาสนาในหมู่บ้านอีกครั้ง จึงได้ช่วยๆ กันเตรียมจัดงานระดมทุนที่ใกล้ จะถึงในไม่กี่วันข้างหน้านี้ เพื่อที่จะสร้างศูนย์การเรียนรู ้ขึ้นมาใหม่ในหมู่บ้านนี้อีกครั ้ง”
ไม่กลับไปที่เดิมอีกแล้ว เพราะถูกทำให้มีมลทิน
นายบันยาล กล่าวว่า หากถามว่าทำไมถึงไม่กลับไปเปิ ดสถานศึกษาในที่เดิม ก็เพราะรัฐเองก็แถลงแล้วว่าที่ เดิมเป็นที่ดินวากัฟ( สาธารณประโยชน์) และจะทำให้เป็นที่วากั ฟตามเจตนารมณ์เดิมของบาบอเฮง แต่เราจะไม่กลับไปแล้ว เพราะภาพของสถานที่ตรงนั้นรั ฐได้สร้างให้สังคมภายนอกเห็นเป็ นสถานที่ที่สกปรกหรือมีมลทิ นไปแล้ว
หากเรากลับไปเปิดโรงเรียนอีกครั ้งในภาวะที่มีมลทินอยู่นั้น คนนอกก็จะมีอคติต่อสถานศึกษาแห่ งนั้นได้ และจะเกิดปัญหาตามมาคือไม่มี ใครอยากจะมาสอนและไม่มีคนที่ จะมาเรียน แล้วจะกลับไปเปิดที่เดิมเพื่ ออะไร?
“ที่ผ่านมา 11 ปีที่เราอาศัยอยู่ตรงนั้นก็ไม่ มีใครกล้าไปเยี่ยมเลย แม้แต่ชาวบ้านหรือญาติพี่น้ องเองก็ไม่กล้าเข้าไปถามข่ าวคราวของเรา หากเรากลับไปที่เดิมอีกแล้ วใครจะกล้าไป?”
แต่หากรัฐจะเปิดเป็นสถานศึ กษาในที่นั้นอีกครั้งเอง ผมก็ไม่มีปัญหาไม่ได้ใดๆ แล้วแต่รัฐบาลจะเห็นควร จะเอาใครมาสอนก็ไม่มีปัญหา ขอเพียงแค่ว่าอย่านำครอบครั วของเราเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยก็ พอ”
ปอเนาะญีฮาดเป็นเจตนาร่ วมของคนในหมู่บ้าน
นายบันยาล กล่าวว่า ในความเป็นจริง กรณีปอเนาะญิฮาดนั้นที่ดินเท่ านั้นที่เป็นของครอบครัวเรา ส่วนเจตนารมณ์ในการสร้ างปอเนาะนั้น จุดเริ่มต้นไม่ใช่เจตนารมณ์ ของบาบอเฮงคนเดียว แต่เป็นเจตนารมณ์ของชาวบ้านในพื ้นที่ที่คิดว่าจำเป็นต้องมี สถานศึกษาศาสนา เพื่ออบรมเยาวชนให้มีความรู้พื้ นฐานทางด้านศาสนา เพราะหากไม่มีความรู้ศาสนาหรื อไม่มีศูนย์เรียนรู้ศาสนาในพื้ นที่ ทุกคนก็ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าจะส่ งผลเสียอย่างไรบ้าง
การสร้างปอเนาะญีฮาดจึงเป็ นเจตนารมณ์ร่วมของคนในหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาว่าจะต้องสร้ างสถานศึกษาในชุมชนขึ้นมาอีกครั ้ง ดังนั้นงานจัดเลี้ยงระดมทุนที่ จะถึงนี้จึงกลายเป็นวาระของทุ กคนในหมู่บ้านนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องของครอบครั วเราเท่านั้น
คาดว่างานเลี้ยงเพื่อระดมเงินที ่กำลังจะถึงนี้น่าจะมีคนมาร่ วมงานจำนวนมาก เพราะพี่น้องช่วยกันเชิญคนมาร่ วมงานเยอะมาก โดยปกติแล้วงานต่างๆ เจ้าของงานจะเป็นคนเชิญเอง แต่งานนี้เรายังไม่ทันได้ ออกไปเชิญก็มีพี่น้องอาสามาช่ วยเราเชิญคน เพราะพวกเขาเองก็คงไม่อยากเห็ นภาพของครอบครัวเราที่จะต้ องอาศัยอยู่ที่มัสยิดและโรงเรี ยนดาตีกานานไปกว่านี้
ที่ใหม่ไม่สอนแบบปอเนาะอย่างเดี ยว
นายบันยาล กล่าวว่า ตอนนี้แผนการเปิดสถานศึกษาแห่ งใหม่ยังอยู่ในช่วงประชุมเตรี ยมการ และหลังจากงานระดมทุนก็จะมาคุ ยกันว่าจะเชิญใครมาสอนบ้าง ตนเป็นแค่เพียงผู้คอยคิดมัต(ให้ บริการ)เท่านั้น และทำหน้าที่ตามที่คนในหมู่บ้ านมอบหมาย
สถานศึกษาที่จะสร้างขึ้นมาใหม่ เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน จะรายละเอียดมากกว่าปอเนาะแบบดั ่งเดิม เช่น อาจจะมีการเรียนการสอนคัมภีร์อั ลกุรอานหลักสูตรกีรออาตีสำหรั บเด็กและสำหรับคนสูงอายุ มีชมรมเยาวชนคนรุ่นใหม่ มีชมรมปันจะสีลัต หรืออื่นๆ เป็นต้น แล้วแต่เจตจำนงของประชาชนในพื้ นที่
มีวิชาหลากหลาย ทั้งสันติภาพและกฎหมาย
นายบันยาล กล่าวว่า เป็นไปได้ว่าศูนย์การเรียนรู้นี ้จะรองรอบคนทุกวัย อาจเรียกได้ว่าเป็นวิทยปัญญาที่ ได้จากวิกฤตในครั้งนี้ก็เป็นได้ เพราะในอดีตปอเนาะเป็นสถานศึ กษาศาสนาแก่เด็กหรือเยาวชนอย่ างเดียวเท่านั้น
เป็นไปได้ว่าศูนย์การเรียนรู้ แห่งใหม่ที่เรากำลังจะสร้างขึ้ นมานี้ การเรียนการสอนจะเข้มข้ นและหลากหลายกว่าเดิม โดยเฉพาะความรู้ที่จำเป็ นในสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น ความรู้เรื่องสันติภาพ ความรู้เรื่องกฎหมายหรื อกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นไปได้ทั้ งหมดในอนาคต ซึ่งขึ้นอยู่กับที่การประชุ มภายหลังจากงานระดมทุนว่าจะเป็ นอย่างไร
โต๊ะอิหม่ามย้ำปอเนาะญิฮาดเป็ นวาระของทุกคน
นายมูฮัมหมัดนาวาวี หะยีอับดุลกอเดร์ โต๊ะอิหม่ามประจำมัสยิดกือแด(บ้ านท่าด่าน) กล่าวว่า กรณีของครอบครัวแวมะนอกลายเป็ นเรื่องของทุกคนในหมู่บ้าน เพราะเกี่ยวข้องกับปอเนาะที่เป็ นที่วากัฟของทุกคนในหมู่บ้านนี้ ไม่ใช่สมบัติของเจ้าของปอเนาะ ยกเว้นที่ดินเท่านั้นที่ครอบครั วแวมะนอเป็นเจ้าของ ส่วนมัสยิด ปอเนาะแต่ละหลัง(หอพักนักเรียก) แม้ตัวอาคารโรงเรียนเองก็เป็ นหยาดเหงื่อของคนในหมู่บ้านทั้ งสิ้น จึงกลายเป็นเรื่องของทุกคนและทุ กคนจะต้องร่วมกันรับผิดชอบ
เหตุผลที่จะสร้างสถานศึกษาขึ้ นมาใหม่ก็เพื่อจะสานต่ อเจตนารมณ์ของบาบอเฮงและชาวบ้ านในอดีตที่ต้องการให้มีสถานที่ เรียนศาสนาในหมู่บ้าน เพื่อคอยให้ความรู้ศาสนาแก่ เยาวชนในพื้นที่
มติของชาวบ้านท่าด่านที่ต้ องการให้ย้ายออก
นายมูฮัมหมัดนาวาวี บอกว่า ครอบครัวแวมะนอไม่ได้ย้ ายออกมาเองโดยพลการ เพราะก่อนที่พวกเขาจะออกมาก็ได้ ปรึกษาหารือกับชาวบ้านมาแล้วว่า พวกเขาควรจะทำอย่างไรต่อไปดี เพราะพวกเขาเป็นเพียงแค่ผู้ดู แลปอเนาะเท่านั้น ทางชาวบ้านในพื้นที่จึงลงมติให้ ออกมา แล้วชาวบ้านจะหาที่หรือสร้ างปอเนาะขึ้นมาใหม่แทน จึงเป็นที่มาของการจัดงานเลี้ ยงระดมทุนในวันที่ 19 มีนาคมนี้
“สิ่งที่ผู้นำศาสนาแถลงเมื่ อหลายวันที่ผ่านมา ผมอาจเห็นต่างจากที่เขาบอกว่ าเป็นที่ดินวากัฟและจะให้กลั บไปเป็นวากัฟเหมือนเดิม เพราะความเป็นจริงแล้วที่ดินนั้ นมีเจ้าของถูกต้องตามกฎหมาย สิ่งก่อสร้างเท่านั้นที่เป็ นวากัฟ แต่สิ่งที่เรากำลังจะสร้างขึ้ นมาใหม่นี่แหละที่จะทำให้เป็ นวากัฟทั้งที่ดินและปอเนาะหรื อสิ่งก่อสร้างทั้งหมด ยกเว้นตัวบ้านของครอบครั วแวมะนอซึ่งก็ใช้พื้นที่ไม่ เยอะ”
กินข้าวยำฟังเสวนา ปอเนาะญิฮาด-ชะตากรรมปาตานี
นายมูฮัมหมัดนาวาวี บอกว่า สำหรับงานกินข้าวยำเพื่อสมทบทุ นช่วยเหลือครอบครัวปอเนาะญิ ฮาดวิทยาและพัฒนาชุมชนท่าด่ านให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาชุ มชนโดยชุมชนเพื่อชุมชน จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2559 เวลา 09.00-21.00 น. ณ สนามฟุตบอลกลางประจำหมู่บ้านท่ าด่าน จัดโดยศูนย์ประสานงานให้ความช่ วยเหลือครอบครัวโรงเรี ยนปอเนาะญิฮาดวิทยา
ศูนย์ประสานงานนี้ประกอบด้วย 6 ฝ่ายหลัก คือ มัสยิดท่าด่าน โรงเรียนตาดีกา กลุ่มสตรี กลุ่มเยาวชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและท้ องที่ ร่วมกับ เครือข่ายศิษย์เก่าปอเนาะญิฮาด สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่ งประเทศไทย (สนมท.) สหพันธ์นิสิตนักศึกษา นักเรียน และเยาวชนปาตานี (PerMAS) และเครือข่ายประชาสังคมเพื่อสั นติภาพ (คปส.)
ในงานจะมีวงเสวนาสาธารณะ หัวข้อ “ปอเนาะญิฮาดวิทยา-บทเรี ยนและอนาคตชะตากรรมปาตานี” มีนายอนุกูล อาแวปูเตะ (อับดุลกอฮาร์ บิน ฮาญีอับดุลอาวัง) ประธานศูนย์ทนายความมุสลิมจั งหวัดปัตตานี นายบัลยาน แวมะนอ ตัวแทนครอบครัวโรงเรียนปอเนาะญิ ฮาดวิทยา นายหะยีอัฮหมัด ฮาซัน ประธานเครือข่ายศิษย์เก่ าปอเนาะญิฮาดวิทยาเป็นวิทยากร ดำเนินรายการโดย นายตูแวดานียา ตูแวแมแง ผู้อำนวยการสำนักปาตานีรายาเพื่ อสันติภาพและการพัฒนา (LEMPAR)
งานนี้ถือเป็นครั้งแรกๆ ในพื้นที่ที่จัดงานกินข้ าวยำสมทบทุนไปพร้อมๆ กับบรรยากาศของการนั่งฟั งการเสวนาสาธารณะไปด้วย
ลำดับเหตุการณ์โดยสรุป
คดีเริ่มต้นเมื่อปี 2548 มีแจ้งข้อหาบุคคลว่าฝึกอาวุ ธภายในบริเวณโรงเรียน 36 คน มี 18 คนเข้ามอบตัวสู้คดีและได้รั บการปล่อยตัวหมดเพราะหลักฐานไม่ เพียงพอ อีกบางส่วนหลบหนีรวมทั้ งนายดอเลาะ แวมะนอ ในปีเดียวกันพี่ชายของบันยาลถู กยิงเสียชีวิต
วันที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาริบทรัพย์สิ นที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงเรียนญีฮาดวิ ทยา หรือปอเนาะบ้านท่าด่าน ม.3 บ้านท่าด่าน ต.ตะโล๊ะกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในเนื้อที่ 14 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่ง คดีแพ่งในคดีแดงที่ ฟ.160/2558 ซึ่งมีความผิดฐานก่อการร้าย ตามนิยามบทบัญญัติป้องกั นและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (8) ของกฎหมายว่าด้วยคดีแพ่ งและกฎหมายการฟอกเงินของสำนั กงานป้องกั นและปราบปรามการฟอกเงิน
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 นายโสภณ ทิพย์บำรุง อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 รองอัยการจังหวัดปัตตานีได้ชี้ แจงข้อกฎหมายกรณีศาลแพ่งมีคำพิ พากษาริบทรัพย์สินที่ดินดังกล่ าว เนื่องจากมีพยานยืนยันว่ามี การใช้ที่ดินเป็นฝึกการก่อการร้ าย จึงถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ กระทำความผิด แต่รัฐก็ยังให้ปรับปรุงเป็ นสถานศึกษาให้กับชุมชน เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ของผู้บริจาค โดยให้เจ้าของที่เดิมเป็นผู้บริ หารต่อไป
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ครอบครัวแวมะนอทั้งหมด 14 คน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนเก็บข้ าวของทั้งหมดย้ายออกจากบ้ านในอยู่ในบริเวณโรงเรียนไปอาศั ยอยู่ที่มัสยิดและโรงเรียนตาดี กา และตัดสินใจไม่อุทธรณ์เพื่อสู้ คดี
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ประชาชนจากที่ต่างๆ เริ่มหลั่งไหลเข้าไปเยี่ ยมครอบครัวของนางยาวาฮี แวมะนอ และมีการตั้งศูนย์ประสานงานให้ ความช่วยเหลือครอบครัวโรงเรี ยนปอเนาะญิฮาดวิทยาที่มัสยิดบ้ านท่าด่าน
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ชาวบ้านท่าด่านได้รวมตัวกันที่ มัสยิดประมาณ 200 คน เพื่อคณะทำงานศูนย์ประสานงานให้ ความช่วยเหลือครอบครัวโรงเรี ยนปอเนาะญิฮาดวิทยา
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 คณะผู้นำองค์กรศาสนาประจำจังหวั ดชายแดนภาคใต้รวม 9 คนได้แถลงแนวทางการแก้ปั ญหาการยึดที่ดินโรงเรียนญีฮาดวิ ทยา นำโดยนายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจั งหวัด(กอจ.)ปัตตานี โดยจะตั้งคณะกรรมการพิเศษพิ จารณาแนวทางการใช้ประโยชน์ในที่ ดินดังกล่าว ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุ มชน และตอบสนองเจตนารมณ์เดิมของเจ้ าของที่ดิน
แต่นายบันยาล ยืนยันว่าที่ดินทั้ง 14 ไร่ของโรงเรียนญีฮาดวิทยาตกเป็ นของรัฐแล้ว จึงไม่เกี่ยวกับครอบครัวของตน และทางศูนย์ประสานงานให้ความช่ วยเหลือฯก็จะจัดงานเลี้ยงน้ ำชาเพื่อสมทบทุนหาเงินซื้อที่ดิ น 10 ไร่สร้างโรงเรียนแห่งใหม่ในวั นที่ 19 มีนาคม 2559 นี้
วันที่ 15 ธันวาคม 2558 ศาลแพ่งมีคำพิพากษาริบทรัพย์สิ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 นายโสภณ ทิพย์บำรุง อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 2 รองอัยการจังหวัดปัตตานีได้ชี้
วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2559 ครอบครัวแวมะนอทั้งหมด 14 คน ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนเก็บข้
วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2559 ประชาชนจากที่ต่างๆ เริ่มหลั่งไหลเข้าไปเยี่
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2559 ชาวบ้านท่าด่านได้รวมตัวกันที่
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2559 คณะผู้นำองค์กรศาสนาประจำจังหวั
แต่นายบันยาล ยืนยันว่าที่ดินทั้ง 14 ไร่ของโรงเรียนญีฮาดวิทยาตกเป็
แสดงความคิดเห็น