ชมหินยักษ์ “อูลูรู” ทางอากาศจากโดรน
บริษัทท่องเที่ยวแห่งหนึ่งได้รับอนุญาตจากผู้นำชนพื้นเมืองอะบอริจินในออสเตรเลีย ให้ใช้โดรนถ่ายภาพทางอากาศของ “อูลูรู” หินยักษ์ซึ่งตั้งอยู่กลางที่ราบแห้งแล้งในเขตนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีได้เป็นกรณีพิเศษ ทำให้ได้เห็นความงามของสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งนี้ในมุมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน
หินอูลูรู หรือที่เดิมรู้จักกันในชื่อ “เอเยอร์ส ร็อก” เป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก โดยเป็นหินทรายที่เก่าแก่ถึง 600 ล้านปี มีความยาว 3.6 กม. และสูงกว่า 340 เมตร ทั้งยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชนพื้นเมืองชาวอานางูอีกด้วย #Uluru#AyersRock #ThBBCShorts


ภาพถ่ายล่าสุดจากพื้นที่ซึ่งอยู่ใกล้เคียงที่ตั้งของภูเขาไฟซินาบุง ในเขตกาโร บนเกาะสุมาตราในอินโดนีเซีย ซึ่งได้ปะทุขึ้นมาอีกรอบ ในเดือนนี้ (ส.ค.) และได้พ่นเถ้าถ่านปริมาณมหาศาลขึ้นสู่ท้องฟ้า
ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่านับตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ภูเขาไฟซินาบุงได้ปะทุบ่อยครั้งขึ้น ด้านทางการอินโดนีเซียกำลังเฝ้าจับตาดูการปะทุของภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำหนดพื้นที่อันตรายซึ่งต้องอพยพชาวบ้านออกจากหมู่บ้านหลายแห่ง
ทั้งนี้ ภูเขาไฟซินาบุง เคยสงบนิ่งมานานกว่า 400 ปี แต่กลับมาปะทุอีกครั้งในช่วง 5-6 ปีมานี้ #MountSinabung

รัสเซียประกาศไม่ยอมรับ หลังผลสอบยูเอ็นชี้รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือน
ทางการรัสเซียระบุไม่ยอมรับผลการสอบสวนของสหประชาชาติ ซึ่งชี้ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเช่นก๊าซคลอรีนและก๊าซพิษซารินโจมตีพลเรือนอย่างน้อย 2 ครั้งด้วยกัน
มีการเปิดเผยผลสอบสวนดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทีมสอบสวนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า หลักฐานที่ได้จากการโจมตี 9 ครั้ง ในเมือง 7 แห่งของซีเรีย พบว่ามีอย่างน้อย 2 กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2014 และ 2015 ที่พบว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีพลเรือน และมีอีก 1 กรณีซึ่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้ก๊าซมัสตาร์ดเข้าโจมตีด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรของรัฐบาลซีเรีย ได้แสดงความกังขาต่อผลสอบสวนดังกล่าว โดยนายไวทาลี เชอร์คิน ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนหรือวัตถุพยานซึ่งชี้ถึงความผิดของรัฐบาลซีเรียในเรื่องนี้ และพยานบุคคลส่วนมากในการสอบสวนนี้ก็มาจากฝ่ายกบฏ
ทั้งนี้ หากพบว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนจริง จะเปิดช่องให้ประชาคมนานาชาติสามารถทำตามข้อมติของสหประชาชาติที่ออกมาเมื่อปี 2013 ได้ ซึ่งข้อมติดังกล่าวระบุว่า ให้ดำเนินการตามกฎบัตรสหประชาชาติ หมวดที่ 7 โดยใช้กำลังทหารเข้ายับยั้งการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯว่า ยังเร็วเกินไปที่นานาชาติจะหารือกันเรื่องการคว่ำบาตรหรือใช้กำลังทหารในซีเรีย
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ - แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยที่ถูกโจมตีด้วยก๊าซคลอรีนในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา)

แบงก์ชาติเผยเศรษฐกิจไทยขยายตัวในอัตราชะลอลง ด้านคลังชี้เศรษฐกิจขยายตัวเกือบทุกภาคยกเว้น ตะวันออกเฉียงเหนือ
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยภาวะเศรษฐกิจไทยเดือน ก.ค.ขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอลง เพราะการใช้จ่ายภาครัฐลดลง ทั้งยังขาดปัจจัยกระตุ้นการบริโภคของภาคเอกชน ขณะที่การส่งออกยังซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า มูลค่าการส่งออกเดือน ก.ค.หดตัว 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการคลังชี้เศรษฐกิจขยายตัวเกือบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การส่งออกซึ่งมีมูลค่าราว 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจไทย ประสบภาวะหดตัวตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ ธปท.เองคาดว่าการส่งออกในปีนี้จะลดลง 2.5%
นางพิมลวรรณ มหัจฉริยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด บอกกับรอยเตอร์ว่า การส่งออกของไทยจะหดตัวหนักขึ้นกว่าที่ตนเคยประเมินไว้ที่ 2% และส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งหากการส่งออกยังไม่กระเตื้องก็อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีการทบทวนปรับลดประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้จาก 3.1% เป็น 3%
เมื่อวานนี้สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เพิ่งประกาศว่ามีความเป็นไปได้ที่การส่งออกในปีนี้จะติดลบ 2 % และเป็นการติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 อันเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลก และอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่า ซึ่งผู้ส่งออกต้องการให้ ธปท.ดูแลค่าเงินบาทให้อยู่ในอัตรา 34.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. ระบุวันนี้ (31 ส.ค.) ว่าที่ผ่านมาค่าเงินบาทเคลื่อนไหวใกล้เคียงสกุลเงินในภูมิภาค และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาแข็งค่าขึ้นร้อยละ 4 ขณะที่เงินริงกิตของมาเลเซีย เงินวอนของเกาหลี และเงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่ากว่าเงินบาทไทย นายวิรไทเตือนว่าความผันผวนของค่าเงินบาทยังมีต่อเนื่อง อันมีสาเหตุจากปัจจัยภายนอก และที่ผ่านมาเงินบาทแข็งค่าขึ้นเพราะเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับทุกสกุล
ด้านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้สรุปสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วประเทศ ในเดือน ก.ค. ซึ่งพบว่า เศรษฐกิจเกือบทุกภูมิภาคยังขยายตัวต่อเนื่อง โดยภาคกลางและภาคใต้เศรษฐกิจฟื้นตัวชัดเจน อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังเปราะบาง การลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัว แต่การท่องเที่ยวยังขยายตัวดีต่อเนื่อง#ThailandEconomy


เบียร์ชิงเต่ายอดขายตกหลังเศรษฐกิจจีนชะลอตัว
บริษัทชิงเต่า บริวเวอรี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อันดับสองของจีน รายงานผลประกอบการช่วงครึ่งแรกของปีนี้ว่าลดลงอย่างมาก โดยรายได้สุทธิตั้งแต่ช่วงเดือน ม.ค. – มิ.ย. ที่ผ่านมาลดลงถึงร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลกำไรลดลงมาอยู่ที่ 1,070 ล้านหยวน (ราว 6,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นผลกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีที่น้อยที่สุดนับแต่ปี 2012 เป็นต้นมา
ผู้ผลิตเบียร์ชิงเต่าระบุว่า สภาพเศรษฐกิจจีนที่กำลังชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคในประเทศลดการใช้จ่าย ส่งผลกระทบต่อยอดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลายประเภท นอกจากนี้ เหตุน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ของจีนเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ยอดขายเบียร์ไม่สู้ดีอีกด้วย โดยตัวเลขการเติบโตของยอดค้าปลีกในจีน ตกลงมาอยู่ที่ร้อยละ 10.2 เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ จีนเป็นประเทศที่มีการบริโภคเบียร์กันค่อนข้างสูง โดยคนจีนดื่มเบียร์ถึง 1 ใน 4 ของปริมาณเบียร์ที่ผลิตได้ทั่วโลก ทำให้ตลาดจีนดึงดูดผู้ผลิตเบียร์จากต่างชาติให้พยายามเข้าไปเจาะตลาดภายในประเทศกันหลายราย ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตเบียร์ของจีนเองต้องพบกับการแข่งขันที่สูงขึ้น


เด็กไทยชนะเลิศประกวดนวัตกรรมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์น้ำของสวีเดน
นักเรียนหญิง 3 คน จากโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ. สุราษฎร์ธานี คว้ารางวัลชนะเลิศในการประกวดนวัตกรรมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์น้ำกรุงสตอกโฮล์ม (Stockholm Junior Water Prize) ที่ประเทศสวีเดน โดยใช้การเลียนแบบวิธีกักเก็บน้ำตามธรรมชาติของสับปะรดสี มาสร้างอุปกรณ์เพิ่มความชื้นในดินราคาถูก ซึ่งสามารถช่วยประหยัดน้ำให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกยางพาราได้
ผลงานนวัตกรรมดังกล่าว เป็นของ น.ส.สุรีย์พร ตรีเพชรประภา น.ส.ธิดารัตน์ เพียร และ น.ส.กาญจนา คมกล้า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา โดยมีนางสุวารี พงศ์ธีระวรรณ และ นายเฉลิมพร พงศ์ธีระวรรณ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งผลงานดังกล่าวทำให้เยาวชนไทยได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นปีแรกของการประกวด และนักเรียนทั้งสามได้เข้ารับรางวัลจากเจ้าชายคาร์ล ฟิลิปแห่งสวีเดนด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มนักเรียนผู้ได้รับรางวัลสังเกตว่าสับปะรดสีพันธุ์ Aechmea aculeatosepala มีรูปร่างที่ช่วยให้กักเก็บน้ำซึ่งได้จากฝนและไอน้ำในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีส่วนที่ช่วยดักจับน้ำหลายส่วน เช่น แผ่นใบที่มีขอบใบทั้งสองข้างบางกว่าบริเวณกลางใบ ทำให้แผ่นใบมีลักษณะเป็นรูปตัวยูเหมือนรางน้ำ ทำให้น้ำไหลไปกักเก็บที่แอ่งระหว่างกาบใบได้ ส่วนหนามเล็กๆ บริเวณรอบใบบิดทำมุม 50 องศากับขอบใบ ช่วยดึงน้ำที่อยู่ห่างจากขอบใบในระยะ 2 มิลลิเมตรให้เข้ามาในใบได้ นอกจากนี้ ผิวใบด้านหน้าและด้านหลังช่วยให้น้ำไหลลงไปรวมกันที่รางรับน้ำ เนื่องจากแรงยึดติด (Adhesive force) ระหว่างน้ำกับผิวใบ มีมากกว่าแรงเชื่อมแน่น (Cohesive force) ของน้ำ
กลุ่มนักเรียนได้ประดิษฐ์อุปกรณ์เพิ่มความชื้นในดินโดยใช้แผ่นอะลูมิเนียม ซึ่งมีความจุความร้อนน้อย ทำให้ในช่วงเวลากลางคืนเมื่อไอน้ำในอากาศมากระทบจึงกลั่นตัวเป็นหยดน้ำลงสู่ที่กักเก็บได้ง่าย นอกจากนี้ ยังทำส่วนกักเก็บน้ำให้เหมือนกับสับปะรดสีซึ่งมีใบเรียงเหลื่อมซ้อนกัน จนมีลักษณะเป็นแอ่งกักเก็บน้ำทรงกรวยกลางลำต้น และพื้นที่ระหว่างซอกใบทุกใบก็สามารถเก็บน้ำได้ ซึ่งสามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าภาชนะทรงกรวยที่มีขนาดเท่ากันถึง 17.28 %
เมื่อนำชุดอุปกรณ์นี้ไปใช้จริงโดยติดตั้งบนต้นยางพารา แล้วต่อสายพลาสติกปักลงในดินห่างจากโคนต้น 1เมตร พบว่า ความชื้นในดินของต้นยางพาราที่ใช้ชุดอุปกรณ์ จะมีค่าสูงกว่าความชื้นในดินของต้นยางพาราที่ไม่ใช้ชุดอุปกรณ์ 17.65 %และมีความชื้นในดินใกล้เคียงกับการรดน้ำตามปกติ นอกจากนี้ ต้นยางพาราที่ใช้ชุดอุปกรณ์สามารถให้ผลผลิตสูงกว่าต้นที่ไม่ได้ใช้ชุดอุปกรณ์ 57.50 % โดยอุปกรณ์นี้มีราคาต้นทุนชุดละเพียง 25 บาท เมื่อนำไปใช้กับต้นยางพาราเพียง 6 วัน ก็จะคุ้มราคาทุน ซึ่งเป็นการช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำแก่เกษตรกร ทำให้ปลูกพืชได้แม้ในสภาวะแห้งแล้งด้วย


คริส บราวน์ ถูกจับกุม หลังใช้ปืนขู่นางงามในบ้านพัก
คริส บราวน์ นักร้องชื่อดังชาวอเมริกัน ถูกตำรวจเข้าจับกุมตัวในบ้านพัก หลังจาก เบย์ลี เคอร์แรน นางงามจากเวทีมิส แคลิฟอร์เนีย รีเจียนนอล ได้โทรแจ้งตำรวจว่า บราวน์ใช้อาวุธปืนจ่อหน้าข่มขู่เธอ หลังเธอแสดงความชื่นชมเครื่องประดับซึ่งเป็นของเพื่อนนายบราวน์
เคอร์แรนบอกกับหนังสือพิมพ์แอลเอไทมส์ว่า ก่อนเกิดเหตุ เธอและเพื่อนที่ร่วมทำธุรกิจกันได้ไปที่บ้านพักของบราวน์ในช่วงเย็นของวันที่ 30 ส.ค. โดยเธอได้แสดงความชื่นชมสร้อยเพชรของชายผู้หนึ่งซึ่งเจ้าตัวนำออกมาอวดแขกภายในบ้าน แต่ภายหลังชายคนดังกล่าวกลับแสดงอาการโกรธเกรี้ยว และบอกให้เธอออกห่าง ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่บราวน์ได้ชักปืนออกมาจ่อหน้าเธอ และไล่ให้เธอออกจากบ้าน
เคอร์แรนได้โทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์กับตำรวจหลังออกมาจากบ้านของบราวน์แล้ว ซึ่งตำรวจได้รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุแต่ไม่สามารถเข้าไปในตัวบ้านได้ เนื่องจากบราวน์ไม่ยินยอม ตำรวจจึงต้องรอให้ศาลอนุมัติหมายค้น จึงสามารถเข้าไปภายในบ้านได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บราวน์ถูกตำรวจจับกุมแต่ภายหลังได้ยื่นประกันตัวออกมาด้วยวงเงิน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านทนายความของบราวน์ได้ทวีตข้อความระบุว่า ข้อกล่าวหาที่ว่าเขาใช้ปืนขู่นางงามนั้น สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าไม่เป็นความจริง
ทั้งนี้ บราวน์เคยมีประวัติใช้ความรุนแรงหลายครั้ง รวมทั้งเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกาย “รีฮานนา” นักร้องชื่อดังซึ่งเป็นอดีตแฟนสาวของเขาอีกด้วย #ChrisBrown

บริษัทเดินเรือรายใหญ่ของเกาหลีใต้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ เสี่ยงทำคนตกงานนับหมื่น
คณะกรรมการบริหารบริษัทฮันจิน ผู้ให้บริการเดินเรือสินค้าระหว่างประเทศของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก ลงมติเป็นเอกฉันท์ให้มีการยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลเกาหลีใต้ หลังจากบริษัทประสบภาวะขาดทุนช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และไม่ได้รับอนุมัติเงินกู้จากสถาบันการเงินใดๆ
รายงานข่าวระบุว่าบริษัทฮุนได เมอร์แชนท์ มารีน (HMM) ซึ่งเป็นคู่แข่งของบริษัทฮันจิน อาจพิจารณายื่นข้อเสนอเพื่อขอซื้อหุ้นบางส่วนของฮันจิน แต่ HMM เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกเช่นกัน จึงยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าการพิจารณาซื้อหุ้นของฮันจินจะส่งผลในเชิงบวกหรือลบต่ออุตสาหกรรมการเดินเรือสินค้าของเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตาม กิจการเดินเรือสินค้าเป็นอีกภาคธุรกิจหนึ่งซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักทั่วโลก นับตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือลดลง แต่ค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น ทำให้หลายบริษัทต้องแบกรับต้นทุนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเกาหลีใต้จะเสนอนโยบายปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมการเดินเรือสินค้าในเร็วๆ นี้ เพราะการขอพิทักษ์ทรัพย์ของบริษัทฮันจินจะส่งผลให้มีการปรับลดหรือปลดพนักงานนับหมื่นคน ซึ่งจะไม่ส่งผลดีต่อภาพรวมของเศรษฐกิจ แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่าอัตราผู้ว่างงานหลักหมื่นคนถือเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับอัตราผู้มีงานทำกว่า 26 ล้านคนในเกาหลีใต้

เกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนือประหารเจ้าหน้าที่ระดับสูง
กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์แจ้งว่าทางการเกาหลีเหนือได้ประหารชีวิตนายคิม ยอง จิน รองนายกรัฐมนตรีซึ่งรับผิดชอบด้านการศึกษาไปเมื่อเดือนที่แล้ว ทั้งยังส่งนายคิม ยอง ชอล รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบงานข่าวกรองและความสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ไปเข้า “รับการศึกษาใหม่” เป็นเวลาหนึ่งเดือน โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากเมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) มีรายงานว่าเกาหลีเหนือได้ประหารชีวิตเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีสองรายจากกระทรวงเกษตรและกระทรวงศึกษาธิการ แต่ทางการเกาหลีเหนือไม่ได้ยืนยันรายงานดังกล่าวแต่อย่างใด และเป็นการยากที่จะตรวจสอบความถูกต้องของรายงานดังกล่าวได้ ส่วนรายงานข่าวกรองของเกาหลีใต้นั้นบางครั้งมีความคลาดเคลื่อน โดยเกาหลีใต้เคยแจ้งว่าเกาหลีเหนือได้ประหารนายพล รี ยอง กิล ผู้บัญชาการทหารระดับสูงเมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏในภายหลังว่ารายงานดังกล่าวไม่เป็นความจริง
สำหรับนายคิม ยอง ชอล นั้นนับว่าเป็นผู้ใกล้ชิดของผู้นำคิม จอง อึน โดยมักปรากฏตัวเคียงข้างในงานต่าง ๆ และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ เชื่อกันว่าการส่งตัวเขาไปเข้า “รับการศึกษาใหม่” นั้นอาจไม่ใช่การลงโทษแต่เป็นเพียงการฝึกอบรมชั่วคราว เพราะมีเจ้าหน้าที่หลายคนที่ผ่านกระบวนการนี้และได้รับตำแหน่งสูงขึ้น ส่วนนายคิม ยอง จิน ที่มีรายงานว่าถูกประหารนั้น ไม่มีผู้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขามากนัก

บ้านพักคนชราญี่ปุ่นถูกน้ำท่วมฉับพลัน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย
มีคนชราเสียชีวิต 9 คน จากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่บ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในจังหวัดอิวาเตะของญี่ปุ่น โดยฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเนื่องจากพายุไต้ฝุ่นไลออนร็อกที่พัดเข้าถล่มทางตอนเหนือของญี่ปุ่นเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) ทำให้หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านพักคนชราในเมืองอิวะอิซูมิซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ทำให้ไม่สามารถอพยพคนชราภายในบ้านหนีได้ทัน โดยรายงานระบุว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย เป็นผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม และเสียชีวิตเนื่องจากน้ำได้พัดพาโคลนเข้าทับถมในตัวอาคารจำนวนมาก
ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นไลออนร็อกทำให้มีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาถึง 300 มิลลิเมตร และมีผู้เสียชีวิตนอกเหนือจากเหตุการณ์ข้างต้นอีก 2 รายด้วย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พายุได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว และกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่รัสเซีย
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ทางการได้แจ้งเตือนให้ประชาชนกว่า 400,000 คน อพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเกรงว่าน้ำในแม่น้ำจะเอ่อท่วมและเกิดดินถล่ม โดยจังหวัดอิวาเตะนั้นเพิ่งจะฟื้นตัวจากภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว #JapanFlood

ชาวลาว 3 คน ร้องยูเอ็น ดูแลสิทธิเสรีภาพในการพูดของคนลาว หลังทางการจับกุมผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่วิจารณ์รัฐบาลไป 3 ราย
นายตามใจ ไค้ยะวงศ์ ชาวลาวและเพื่อนอีก 2 รายไปยื่นจดหมายถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์การสหประชาชาติเมื่อช่วงสาย หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามทำกิจกรรมเรียกร้องที่หน้าสถานทูตลาวในกรุงเทพฯ ช่วงเช้า ทั้ง 3 คนเรียกร้องให้ทางการลาวเปิดกว้างให้ประชาชนมีเสรีภาพในการพูดและมีส่วนร่วมติดตามนโยบายรัฐโดยสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้ และเรียกร้องให้ทางการลาวปล่อยตัวผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวลาว 3 รายที่ถูกจับเนื่องจากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลผ่านโซเชียลมีเดีย
“เราไม่ได้รับโอกาสในการแสดงออก เราขอเรียกร้องเรื่องการใช้เสรีภาพในการพูด ให้เราพูดจาได้ เราขอร้องรัฐบาลลาว เพราะตอนนี้การพูดวิจารณ์ หรือการใช้เฟซบุ๊กก็วิจารณ์ไม่ได้ ไม่สามารถอิสระเสรีในการพูดเรื่องโครงการต่างๆ น้องๆ สามคนที่โดนจับไป เขาเรียกร้องเท่าที่ทำได้ ก็ขอให้รัฐบาลลาวทบทวนหรือผ่อนคลายการแสดงออกและการพูดจาปราศรัยของประชาชน ให้เสรีภาพ และปล่อยตัวสามคนที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้นำของลาว” นายตามใจให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยที่หน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ โดยอนุญาตให้สื่อเผยแพร่ใบหน้าของเขาได้ และขอให้ระมัดระวังการเผยแพร่ภาพของผู้ร่วมเรียกร้องอีก 2 ราย เนื่องจากยังกังวลเรื่องความปลอดภัยและการถูกจับกุม
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตชาวลาว 3 ราย เป็นแรงงานข้ามชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในประเทศไทย ถูกจับกุมขณะที่เดินทางข้ามพรมแดนจากไทยกลับไปเยี่ยมบ้านที่ประเทศลาว เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 25 พ.ค. สถานีโทรทัศน์แห่งชาติลาวเผยแพร่ภาพบุคคลทั้งสาม ในที่คุมขังของรัฐบาลและระบุว่าทั้ง 3 คนละเมิดกฎหมายความมั่นคงของชาติเนื่องจากวิจารณ์รัฐบาลผ่านโซเชียลมีเดีย สมาพันธ์เพื่อสิทธิมนุษยชนสากล หรือ FIDH ระบุว่า ทั้ง 3 คนเคยเข้าร่วมประท้วงรัฐบาลลาวที่หน้าสถานทูตลาวในกรุงเทพฯ มาก่อน และพวกเขาโพสต์ข้อความวิจารณ์รัฐบาลลาวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นคอร์รัปชั่น
นายโลรองต์ เมลลอง รักษาการผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ ได้ร่วมมือกับรัฐบาลลาวเพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชน แต่ก็เห็นได้ว่ามีความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยแม้ว่ารัฐบาลลาวจะรับว่าจะปรับปรุงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ สังเกตได้ถึงการเพิ่มขึ้นของการละเมิดและคุกคามนักกิจกรรมทางสังคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกด้วย และผลคือประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะเซนเซอร์ตัวเองเพราะกลัวที่จะถูกลงโทษ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าห่วงกังวลอย่างยิ่งสำหรับประเทศที่มีพื้นที่ให้กับภาคประชาสังคมและประชาธิปไตยอย่างจำกัด
บีบีซีไทยติดต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูตลาวประจำกรุงเทพฯ เพื่อสอบถามถึงการทำกิจกรรมของชาวลาวเมื่อเช้า ได้รับคำตอบว่าไม่มีคำแถลงหรือคำชี้แจงใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

เมียนมาเปิดการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเป็นทางการ
รัฐบาลพรรคเอ็นแอลดีแห่งเมียนมาเปิดการเจรจาสันติภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ อย่างเป็นทางการที่กรุงเนย์ปิดอว์ วันนี้ (31 ส.ค.) โดยมีผู้แทนกองกำลังติดอาวุธชนกลุ่มน้อย 17 กลุ่มเข้าร่วมด้วย จากทั้งหมด 20 กลุ่ม เพื่อหารือแนวทางที่จะยุติความขัดแย้งซึ่งดำเนินมานานกว่าครึ่งศตวรรษ ทั้งยังเป็นการเจรจาสันติภาพอย่างเป็นทางการครั้งแรกภายใต้การนำของรัฐบาลพลเรือน
นายบัน คี มูน เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) เป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพครั้งนี้ ซึ่งถูกยกย่องว่าเป็นการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ และนายบันจะหารือกับรัฐบาลเมียนมา รวมถึงนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี และผู้แทนกลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง 17 กลุ่ม ทั้งยังมีเป้าหมายจะเจรจากับรัฐบาลเมียนมาให้ผลักดันมาตรการปกป้องคุ้มครองชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา โดยเฉพาะกลุ่มชาวโรฮิงญาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมา ซึ่งดำเนินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2555
ขณะที่โจนาห์ ฟิชเชอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเมียนมา ระบุว่ากองทัพเมียนมายังมีบทบาทสำคัญทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เนื่องจากกองทัพมีอำนาจแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งถึง 25% ในทั้งสองสภา ทำให้กองทัพยังคงมีอำนาจในการที่จะแทรกแซงประเด็นต่างๆ ได้ แม้จะอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลพลเรือน
การเจรจาครั้งนี้มุ่งเน้นที่การหารือข้อตกลงที่จะนำไปสู่การวางอาวุธและหยุดยิงของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการจัดสรรอำนาจในการบริหารจัดการตนเองในพื้นที่ปกครองของกลุ่มชาติพันธุ์ ขณะที่กลุ่มติดอาวุธอีก 3 กลุ่มซึ่งไม่ได้เข้าร่วมในการเจรจาครั้งนี้ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขดังกล่าว

เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนเอเชียติงการทำงาน กสม.ไทย ทำลายกลไกปกป้องสิทธิมนุษยชน
เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชนเอเชียว่าด้วยสถาบันสิทธิมนุษยชนระดับชาติ (ANNI) ออกแถลงการณ์ติติงการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติของไทย (กสม.) ว่าไม่มีความคืบหน้าและไม่เป็นกลางตามที่ควรจะเป็น พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลไทยให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลการไต่สวนด้านสิทธิมนุษยชนแก่ กสม.ด้วย
เนื้อหาในแถลงการณ์ของ ANNI ระบุว่า กสม.ของไทยถูกปรับลดสถานภาพไปอยู่ที่ระดับ B ตั้งแต่ปี 2557 และยังไม่ได้รับการปรับสถานะใดๆ จนถึงปัจจุบัน เป็นผลจากความล่าช้าในการปฏิบัติหน้าที่ด้านสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ โดยเป็นการอ้างอิงผลประเมินของคณะกรรมการประสานงานนานาชาติแห่งสถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (GANHRI)
ขณะที่ผลงานของ กสม.ในช่วงปีที่ผ่านมาไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจน ทั้งยังถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่มีประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ได้แก่ กระบวนการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนที่ขาดความโปร่งใส การไต่สวนข้อเท็จจริงไม่เป็นอิสระและไม่เป็นกลาง
คณะอนุกรรมการประเมินรายงานของ GANHRI ย้ำว่าสถานการณ์ภายใต้การประกาศภาวะฉุกเฉินและการรัฐประหาร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนจะต้องยืนกรานคัดค้านและคงความเป็นอิสระเอาไว้ให้ได้ เพราะการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องคุ้มครองและตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านสิทธิมนุษยชนเป็นหน้าที่หลักของ กสม. แต่ที่ผ่านมา กสม.ของไทยถูกโจมตีอย่างหนักเรื่องความล่าช้าในการไต่สวนข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2553 และ 2556
นอกจากนี้ยังมีรายงานอ้างอิงคำแถลงของประธาน กสม.ซึ่งบ่งชี้รัฐบาลไทยไม่ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ปรากฎในรายงานของ กสม. และทาง ANNI ขอเรียกร้องให้ กสม.จัดทำรายงานชี้แจงรายละเอียดเปิดเผยต่อสาธารณะให้ชัดเจนว่าข้อเสนอหรือมาตรการใดที่รัฐบาลยอมปฏิบัติหรือไม่ยอมปฏิบัติตามคำแนะนำของ กสม.
แถลงการณ์ของ ANNI ยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลไทยพิจารณาและตอบสนองต่อข้อเสนอในรายงานของ กสม.เพื่อส่งเสริมให้เกิดปฏิบัติการปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ดีขึ้นในประเทศไทย และย้ำว่ารัฐบาลไทยจะต้องเปิดเผยขั้นตอนต่างๆ ในการร่างหรือบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลจากร่างรัฐธรรมนูญที่เพิ่งผ่านการลงประชามติเมื่อวันที่ 7 ส.ค. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นไปตามหลักการว่าด้วยสถานะและหน้าที่ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน หรือ หลักการปารีส
(ภาพประกอบจากคลังภาพ: ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ปกป้องสิทธิมนุษยชนที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อปี 2557)

นักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน รวม 6 ราย เข้ารับฟังข้อกล่าวหาที่ สภ.ขอนแก่น เหตุจัดอภิปรายวิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ
10 โมงเช้าวันนี้ นักกิจกรรม และนักสิทธิมนุษยชน 6 ราย เดินเท้าจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นออกหมายเรียกโดยระบุว่าทั้งหมดกระทำผิดฐานชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 3/2558 จากการจัดเวที “พูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน?” ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นเมื่อวันที่ 30ก.ค. 2559
ผู้ต้องหาทั้งหมดประกอบไปด้วย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งถูกออกหมายเรียกไปก่อนหน้านั้นแล้ว นายฉัตรมงคล เจนเชี่ยวชาญ สมาชิกกลุ่มดาวดิน ผู้ต้องหาคนที่ 2 นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ นักกิจกรรมกลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ ผู้ต้องหาคนที่ 3 น.ส. ณัฐพร อาจหาญ นักกิจกรรมขบวนการอีสานใหม่ ผู้ต้องหาคนที่ 4 น.ส. ดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องหาคนที่ 5 และ น.ส.นีรนุช เนียมทรัพย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องหาคนที่ 6 ซึ่งสองรายหลังระบุว่า ไปสังเกตการณ์การทำกิจกรรมของนักกิจกรรมในวันดังกล่าวและยืนยันว่าไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกโดยเชื่อว่าทั้งสองเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมด้วย
ขอบคุณภาพประกอบจากสำนักข่าวประชาไท

จัดการรถติดในกรุงเทพฯ อย่างไรดี
เมื่อวานนี้ (30 ส.ค.) พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าคณะรัฐมนตรีกำลังหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการจรจรในกรุงเทพมหานคร ซึ่งในที่ประชุมมีการนำเสนอแนวคิดหลายแนวทาง เช่น สลับการใช้ถนนในแต่ละวันตามเลขทะเบียนลงท้ายด้วยเลขคู่ หรือเลขคี่ กำหนดให้จ่ายค่าบริการพิเศษในบางเส้นทาง หรือกำหนดให้รถหนึ่งคัน ต้องมีผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คน
ด้านนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า แนวคิดที่หารือกันนั้นเป็นเรื่องการจัดการเดินรถใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหาเมืองใหญ่ที่แออัดขึ้นทุกทีอย่างกรุงเทพฯ แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะประชาชนไม่ยอมให้ความร่วมมือ
“เราทำไม่ได้เพราะไม่ยอมกัน กำหนดหมายเลขทะเบียนเลขคู่เลขคี่ก็ไม่ได้ เราทำอะไรไม่ได้สักอย่างก็แก้ลำบาก เราจะสร้างระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน รถไฟ รถไฟฟ้าเพิ่ม ก็ลงทุนขนาดใหญ่ไปติดขัดตึกรามบ้านช่อง นี่คือปัญหาของการเติบโตที่ไม่มีคุณภาพของเมืองใหญ่ของเราที่รัฐบาลต้องมาตามแก้ ปัญหาคือกรุงเทพฯ มันแออัดเกินไปแล้วตอนนี้ ต้องหาวิธีการใหม่ๆ มาและดูว่าจะประชาชนจะยอมได้แค่ไหน เช่นการ จอดรถ การใช้รถ วิ่งรถอาจจะต้องเสียเงินในบางเส้นทางจะได้ไปใช้ระบบอื่นแทน ถ้าทุกคนคิดแบบเดิมผมก็ทำไม่ได้หรอก ไม่มีใครทำได้หรอก เราเป็นอย่างนี้มาหลายปีแล้ว เราได้ที่สองในโลกมาหลายปีแล้ว นี่คือสิ่งที่หมักหมมมาเป็นเวลานาน ถ้าถามรัฐบาลหน้าก็ตอบไม่ได้เหมือนกันแหละ ว่าจะทำอย่างไร เพราะฉะนั้นผมก็จะต้องวางพื้นฐานการพัฒนาเมืองใหญ่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ต้องพูดเรื่องผังเมือง ทุกคนอยากเข้ามาอยู่กรุงเทพฯ หมด” นายกรัฐมนตรีกล่าว
เมื่อไม่นานมานี้ กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่การจราจรติดขัดมากที่สุดในโลก โดยบริษัททอมทอม ผู้ผลิตระบบนำทางจีพีเอสชั้นนำผู้จัดอันดับดังกล่าวชี้ว่าปัญหาการจราจรติดขัดของกรุงเทพฯ นับว่าร้ายแรงที่สุดในบรรดา 295 เมือง ใน 38 ประเทศที่มีการสำรวจ แม้กรุงเทพฯ จะมีระบบขนส่งมวลชนที่หลากหลายก็ตาม
แฟนเพจบีบีซีไทยละครับ มีข้อเสนอแก้ปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ อย่างไรกันบ้าง




บอร์ดบีโอไอพิจารณาให้การส่งเสริมการลงทุน 34 โครงการ รวมเงินลงทุนกว่า 260,000 ล้านบาท
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อนุมัติให้ส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการในกลุ่มต่างๆ จำนวน 34 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 266,387.7 ล้านบาท ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรมหนัก โดยมีบริษัทที่ได้รับการส่งเสริม อาทิ ปตท. ซึ่งเตรียมลงทุนขนส่งก๊าซทางท่อ 96,000 ล้านบาท และเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม ซึ่งวางแผนขยายการลงทุนในผลิตภัณฑ์จากไก่และหมูโดยคาดว่าจะขยายพื้นที่การผลิตกว่า 7 พันไร่
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยระบุว่า โครงการที่จะได้รับการลงทุน 34 โครงการ ว่ามูลค่าเงินลงทุนรวม 266,387.7 ล้านบาท
ในส่วนของการอุดหนุนอุตสาหกรรมเกษตรนั้น อนุมัติเงินอุดหนุนทั้งหมด 30, 478.6 ล้านบาท โดยบริษัทเบทาโกเกษตรอุตสาหกรรมได้รับการอุดหนุนมากที่สุด 7 โครงการ รวมเป็นเงิน 7,299 ล้านบาท และบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตอาหารสัตว์ รวมมูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้นของ 3โครงการ 6,459.8 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีบริษัทเบทาโกร เซฟตี้ มีท แพคกิ้ง จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตเนื้อสุกรชำแหละ เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,269.4 ล้านบาท บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตผลิตภัณฑ์จากกาแฟ เงินลงทุนทั้งสิ้น 2,786.8 ล้านบาท เป็นต้น
กลุ่มแร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐานมีผู้ได้รับการสนับสนุน 2 ราย รวมเงินลงทุน 1,100 ล้านบาท กลุ่มอุตสาหกรรมเบา เช่นบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตรถยนต์ เงินลงทุนทั้งสิ้น 6,566.1 ล้านบาท กำลังการผลิต 62,000 คันต่อปี บริษัท มิตซุย ไฮยีนส์ แมททีเรียลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิต NONWOVEN FABRIC เงินลงทุนทั้งสิ้น 1,726.9 ล้านบาท กลุ่มเคมีภัณฑ์ พลาสติก และกระดาษ เงินลงทุนรวม 82,728.6 ล้านบาท ใช้วัตถุดิบในประเทศประมาณ 77,662.5 ล้านบาทต่อปี
ในส่วนของกลุ่มกิจการบริการและสาธารณูปโภค เงินลงทุนรวม 134,787.32 ล้านบาทนั้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมขยายกิจการขนส่งทางท่อ สำหรับขนส่งก๊าซธรรมชาติรวมระยะทาง 430 กิโลเมตร จากจังหวัดระยองไปจังหวัดนนทบุรี เงินลงทุนทั้งสิ้น 96,500 ล้านบาท โดยคาดว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และลดปัญหาการจราจรขนส่งก๊าซธรรมชาติโดยรถบรรทุก นอกจากนี้มีบริษัท เคอรี่ สยามซีพอร์ต จำกัด ได้รับส่งเสริมขยายกิจการขนถ่ายสินค้าสำหรับเรือบรรทุกสินค้า เงินลงทุนทั้งสิ้น 4,096.9 ล้านบาท เพื่อให้บริการขนถ่ายสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ปีละประมาณ 540,000 ทีอียู (หน่วยนับตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุตนับเป็น 1 อีทียู) บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ได้รับส่งเสริมขยายกิจการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ 76 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 280 ตันต่อชั่วโมง ตั้งโครงการที่จ.ระยอง เงินลงทุนทั้งสิ้น 3,501 ล้านบาท เป็นต้น

โฆษกคนสำคัญของกลุ่มไอเอสถูกสังหารในซีเรีย
สำนักข่าวอามัก ซึ่งเป็นสื่อของกลุ่มที่เรียกตนเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) รายงานว่านายอาบู มูฮัมหมัด อัล-อัดนานี โฆษกคนสำคัญของไอเอส เสียชีวิตที่เมืองอเลปโปของซีเรียหลังเข้าร่วมปฏิบัติการต่อสู้กับฝ่ายปฏิปักษ์ในซีเรียเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งยังระบุด้วยว่านายอัล-อัดนานีเป็นผู้พลีชีพเพื่ออุดมการณ์
ด้านนายปีเตอร์ คุก โฆษกกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ เปิดเผยว่ากองทัพสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีเมืองอัล-บับของซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่านายอัล-อัดนานีเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวหรือไม่ แต่ที่ผ่านมานายอัล-อัดนานี ถูกทางการสหรัฐฯ ตั้งค่าหัวไว้ที่ 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 175 ล้านบาท) เนื่องจากเขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มไอเอสและเป็นโฆษกที่ดำรงอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุด ทั้งยังได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะเป็นทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้และเป็นผู้จัดหาสมาชิกใหม่เข้าร่วมกลุ่มไอเอสอย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวระบุด้วยว่านายอัล-อัดนานี เป็นชาวซีเรียโดยกำเนิด และเป็นผู้ต่อต้านการทำสงครามอิรักของกองทัพสหรัฐฯ มาตั้งแต่ต้น และเขาเป็นที่รู้จักแพร่หลายในฐานะผู้ปลุกระดมให้สมาชิกไอเอสปฏิบัติการบุกเดี่ยว หรือโลนวูล์ฟ โจมตีกลุ่มประเทศตะวันตก ซึ่งคาดว่าจะเป็นแรงจูงใจสำคัญในการก่อเหตุวินาศกรรมที่กรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อปีที่ผ่านมา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าการสูญเสียนายอัล-อัดนานีจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มไอเอสอย่างแน่นอน แม้จะมีผู้อื่นมาดำรงตำแหน่งแทนเขาในอนาคต แต่ก็ไม่น่าจะได้รับความนิยมเทียบเท่าได้

บีบีซีไทย - BBC Thai

เมื่อ “ฟลี” พบ “โกโก้”

“ไมเคิล ฟลี” มือเบสแห่งวงร็อกอเมริกัน “เรด ฮอต ชิลี เปปเปอร์ส” เดินทางไปพบกับ “โกโก้” กอริลลาเพศเมียวัย 45 ปี ที่มูลนิธิกอริลลาในเมืองวู้ดไซด์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยภาพวิดีโอที่บันทึกการพบกันของทั้งสอง ได้รับความสนใจจากผู้ใช้โซเชียลมีเดียเป็นจำนวนมาก

โกโก้นั้นเป็นกอริลลาที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก จากความสามารถในการใช้ภาษามือที่ฝึกสอนโดยมนุษย์ ข้อมูลจากเว็บไซต์มูลนิธิกอริลลาระบุว่า โกโก้สามารถสื่อภาษามือได้กว่า 1,000 คำ และเข้าใจคำศัพท์ภาษาอังกฤษกว่า 2,000 คำ

ฟลี บอกว่าเขาเป็นแฟนตัวยงของโกโก้มาตั้งแต่ยุคทศวรรษ 1980 โดยตอนนั้นเขาเห็นภาพของโกโก้อุ้มลูกแมวบนปกหนังสือ ซึ่งเขารู้สึกว่าเป็นภาพที่มีพลังอย่างยิ่ง ต่อมาเขาได้รู้ว่าโกโก้มีความสามารถในการสื่อสารกับมนุษย์ จึงทำให้เขาใฝ่ฝันอยากเจอตัวจริงของโกโก้มาตลอด

ฟลี บอกว่าการได้พบโกโก้ตัวจริงนั้น เป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ และเป็นช่วงเวลาที่ลืมไม่ลง โดยทั้งสองได้กอดและเล่นกันเหมือนเพื่อน ซึ่งฟลีสอนโกโก้เล่นเบสด้วย โดยโกโก้ก็มีท่าทางสนใจและลองเล่นตาม

ชมภาพเหตุการณ์ประทับใจของฟลีกับโกโก้ได้ในวิดีโอนี้ค่ะ #MichaelFlea#RedHotChiliPeppers #KokoTheGorilla


บีบีซีไทย - BBC Thai

โรงแรมฮาลาลเต็มรูปแบบแห่งแรกในไทย หวังดึงยอดนักท่องเที่ยวมุสลิมเพิ่มมากขึ้น

โรงแรมอัล มีรอซ ซึ่งเป็นโรงแรมระดับสี่ดาวย่านรามคำแหง ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยเป็นโรงแรมที่มุ่งให้บริการตามหลักศาสนาอิสลาม หรือ “ฮาลาล” อย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน ห้องพัก ห้องละหมาด และการบริการที่มุสลิมไทยและต่างชาติไว้วางใจได้ว่าถูกต้องตามบทบัญญัติทางศาสนา ซึ่งทางโรงแรมหวังว่าความแตกต่างในจุดนี้จะช่วยดึงนักท่องเที่ยวมุสลิมจากทั่วโลกให้มาเยือนไทยกันมากขึ้น

นายสัญญา แสงบุญ ผู้จัดการทั่วไปของโรงแรมอัล มีรอซ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เมื่อปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันออกกลางมาเยือนไทยถึง 658,000 คน และตลาดมุสลิมทั่วโลกนั้นมีขนาดใหญ่มาก โดยมีประชากรมุสลิมทั้งสิ้นราว 1,600 ล้านคน หากสามารถตีตลาดประชากรมุสลิมได้เพียง 1 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนนี้ ก็ถือว่าเพียงพอที่กิจการโรงแรมฮาลาลจะไปได้ดีในอนาคต

โรงแรมอัล มีรอซ ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุโรปผสมผสานกับตะวันออกกลาง โดยมีห้องพัก 250 ห้อง สนนราคาตั้งแต่ 4,000 – 50,000 บาทต่อคืน มีห้องอาหารฮาลาล 3 ห้อง ซึ่งจะไม่บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีห้องละหมาดแยกชายหญิง พร้อมทั้งมีการอบรมพนักงานให้เข้าใจหลักศาสนาอิสลาม และใช้พนักงานเพศเดียวกับลูกค้าเป็นผู้ให้บริการ

ทั้งนี้ โรงแรมอัล มีรอซ บริหารโดยบริษัท ที เอส แฟมมิลี่ กรุ๊ป จำกัด ของตระกูลมูลทรัพย์ ซึ่งได้ทุ่มงบประมาณในการก่อสร้างโรงแรม 650 ล้านบาท โดยกิจการส่วนห้องอาหารนั้นหวังเจาะกลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมในไทยราวร้อยละ 50 ส่วนกิจการห้องพักนั้นหวังเจาะกลุ่มลูกค้าชาวมุสลิมในภูมิภาคอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน เป็นหลัก





เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 ส.ค. ร.ต.อ.วิทยา รัตนัง รอง สว.(สอบสวน) สน.สำเหร่ รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงตัวเองเสียชีวิตในห้องทำงานสายตรวจ สน.บุคคโล ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงพัก ตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องเลขที่ 309 ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติงานป้องกันปราบปราม ของ สน.บุคคโล พบศพ ร.ต.ต.ธิรัญ จันทโนดม อายุ 54 ปี ตำแหน่งรอง สวป.สน.บุคคโล เสียชีวิตทั้งเครื่องแบบสายตรวจในลักษณะนั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่อกข้างซ้าย 1 นัด โดยอาวุธปืนประจำกายที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่ด้านข้างเก้าอี้ฝั่งขวา

สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรเนื่องจากอายุครบ 53 ปีได้ประมาณ 1 ปีกว่าๆ เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมาผู้ตายออกไปปฏิบัติหน้าที่ตั้งด่านแล้วย้อนกลับมาที่โรงพัก โดยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่ไม่มีใครอยู่ในห้องและมีฝนตกหนักทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน กระทั่งมีเพื่อนตำรวจเข้ามาพบยิงตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายคงเครียดที่มีปัญหาภายในครอบครัวเรื่องแยกทางกับภรรยามาได้ 1 ปีแล้ว ซึ่งจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนและรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป.

source :- http://www.matichon.co.th/news/269740


เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีความคืบหน้ากรณี นายธวัชชัย อนุกูล อายุ 66 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดิน จ.พังงา ผู้ต้องหาคดีออกเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิชอบหลายแปลงใน จ.ภูเก็ตและพังงา ที่ฆ่าตัวตายระหว่างถูกควบคุมตัวภายในอาคารที่ทำการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ โดยนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมายื่นเอกสารเพื่อขอรับศพนายธวัชชัย

นายชัยณรงค์เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรศพระบุสาเหตุการเสียชีวิต เกิดจากมีเลือดออกในช่องท้อง ตับแตกเนื่องจากถูกของแข็งไม่มีคมกระแทก และขาดอากาศหายใจจากการผูกคอ ส่วนประเด็นการเสียชีวิตนั้น ทางญาติไม่ติดใจเอาความ แต่ยังติดใจในการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลห้องคุมขังดังกล่าว ที่ให้การว่า นายธวัชชัยได้ฉีกชายเสื้อของตัวเองเพื่อนำมาผูกกับบานพับของประตู ซึ่งมีความขัดแย้งกับคำชี้แจงของนายชยพล หวานชะเอม หัวหน้าผู้ควบคุมผู้ต้องขัง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่บอกว่า ผู้ตายใช้ถุงเท้าในการผูกคอเองเสียชีวิต เบื้องต้นญาติได้ประสานเจ้าหน้าที่เพื่อขอดูกล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แต่เจ้าหน้าที่กลับแจ้งว่าในบริเวณนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด

ทั้งนี้ เย็นวันนี้จะมีพิธีบำเพ็ญกุศล 1 คืน และฌาปนกิจในวันที่ 1 กันยายน ที่วัดบางหลวง ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โดยญาติที่อยู่ทางภาคใต้กำลังเดินทางมาร่วมงาน คาดว่าจะมาในช่วงเย็นวันนี้


ทบ.แจง “กิมเอ็ง” ใช้สถานที่สโมสรทหาร ชี้บุคคลภายนอกสามารถใช้ได้ตามปกติ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีภาพนายทหารยศ พล.ต.และพ.อ.ปรากฎร่วมงานของนางกมนทรรศน์ ธนธรณ์โฆษิตจิร หรือนางกิมเอ็ง แซ่เดียว ผู้ต้องหาคดีหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เกี่ยวกับการจัดทำสารคดีเฉลิมพระเกียรติและจัดกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติที่สโมสรนายทหาร จ.ราชบุรีนั้นว่า จากการประสานข้อมูลกับหน่วยในเบื้องต้นทราบว่ามีคณะผู้ที่จะจัดสร้างละครเฉลิมพระเกียรติประสานผ่านนายทหารท่านหนึ่งมาเพื่อขอใช้บริการสโมสรดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าจะใช้เป็นสถานที่คัดเลือกนักแสดงในละครเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งตามแนวทางปกติการขอใช้บริการสโมสรภายในหน่วยทหารทุกหน่วยราชการหรือไม่ว่าจะเป็นบุคคล หรือองค์กรภาครัฐ เอกชนก็สามารถมาขอใช้บริการได้ ซึ่งโดยทั่วไปในแง่สถานที่ถ้าตัวสโมสรว่างไม่ได้ติดงานอะไรก็มักจะไม่ขัดข้อง ส่วนนายทหารอีกคนหนึ่งที่สื่อได้กล่าวถึงก็เป็นเพียงบุคคลหนึ่งที่ได้รับเชิญเพื่อให้ไปร่วมคัดเลือกเป็นนักแสดงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลอื่นเพิ่มเติมที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการนำไปใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจากหน่วย หรือจากกำลังพลกองทัพบก ตามปกติจะมีการประสานมาตามขั้นตอนถึงผู้บังคับบัญชา ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลว่าได้มีการประสานมาแต่อย่างใด


แม่น้ำคงคาเอ่อท่วมสูงเป็นประวัติการณ์ คาดตะกอนจำนวนมากขวางทางระบายน้ำ
ระดับน้ำในแม่น้ำคงคาของอินเดีย เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในพื้นที่ 4 แห่งทางตอนเหนือในรัฐพิหารและรัฐอุตตรประเทศ ทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนที่อยู่อาศัยและไร่นาจำนวนมาก โดยที่รัฐพิหารซึ่งได้รับผลกระทบสูงสุดนั้นมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 150 ราย และมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเกือบ 500,000 คน ส่วนพิธีเผาศพตามท่าน้ำศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งได้รับผลกระทบด้วย โดยต้องทำกันอย่างยากลำบากกลางน้ำที่เอ่อท่วม
เหตุน้ำท่วมดังกล่าวเป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากว่า ไม่ได้เกิดจากพายุฝนตามฤดูกาล โดยอินเดียเผชิญภาวะแห้งแล้งมายาวนานก่อนเข้าสู่ฤดูมรสุมในปีนี้ ซึ่งก็ยังมีปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาไม่มากนัก ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่า น้ำท่วมหนักในครั้งนี้เกิดจากการสะสมของตะกอนท้องน้ำในแม่น้ำคงคา ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากจนขัดขวางการไหลระบายของน้ำ
ทั้งนี้ แม่น้ำคงคาซึ่งเป็นแม่น้ำที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของโลก นับว่าเป็นแม่น้ำสายหนึ่งที่มีปริมาณตะกอนท้องน้ำสูงสุดของโลก แต่สาเหตุของตะกอนสะสมที่เพิ่มขึ้นไม่นานมานี้ อาจมาจากการทำธุรกิจดูดทรายตามริมฝั่งแม่น้ำ และการสร้างแนวกั้นเขตแดนในรัฐเบงกอลตะวันตกซึ่งกีดขวางทางน้ำด้วย ทำให้มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียดำเนินการขุดลอกท้องน้ำของแม่น้ำคงคา ตั้งแต่ช่วงกลางของแม่น้ำลงมาเป็นการด่วน




ภรรยาเหยื่อคดี “อุ้มหาย” ฝากความหวังไว้กับกฏหมายฉบับใหม่
ภรรยาของผู้สูญหายจากการบังคับสูญหาย หรือ “อุ้มหาย” เผยว่ามีความยุ่งยากในการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐผู้กระทำผิด เนื่องจากที่ผ่านมายังไม่มีกฎหมายรับรองคดีนี้ ขณะที่นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนชี้สังคมควรจับตาร่าง “พ.ร.บ.อุ้มหาย” เปิดกว้างให้คณะทำงานมีบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วม
น.ส. พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดินทำกินของชาวกะเหรี่ยงที่หายตัวไปเมื่อปี 2557 เผยกับบีบีซีไทยว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยในคดีการบังคับสูญหายยังมีความล่าช้า ผ่านมา 2 ปี แต่คดีของสามียังไม่คืบหน้า โดยศาลฎีกายกคำร้องที่ครอบครัวขอให้ศาลสั่งปล่อยตัวนายบิลลี่ ซึ่งครอบครัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่รัฐควบคุมตัวไว้ โดยพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นซึ่งชี้ว่าไม่มีมูลและพยานของฝั่งผู้ร้องไม่เห็นเหตุการณ์ และขณะนี้เรื่องยังอยู่ในกระบวนการไต่สวนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
นางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยาของนายสมชาย นีละไพจิตร กล่าวว่าที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมไม่สามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องเนื่องจากที่ผ่านมาไทยไม่มีกฎหมายกรณีบังคับสูญหาย จึงอยากให้สังคมร่วมจับตาร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย ซึ่งกำลังอยู่ในการพิจารณาของกฤษฎีกา โดยจะต้องมีสาระสำคัญสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยการทรมานและบังคับสูญหายขององค์การสหประชาชาติ เพราะถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญบางประการไปก็จะทำให้ไม่สามารถมีประสิทธิภาพในการป้องกันกรณีดังกล่าวได้จริง
นางอังคณา ระบุว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคณะกรรมการที่จะมีอำนาจและหน้าที่ในการติดตามและตรวจสอบคนหายได้ด้วย ไม่ใช่มีอำนาจแค่กำกับนโยบาย โดยจะต้องมีหลายภาคส่วน เช่นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ความเข้าใจ หรือญาติผู้สูญหายเข้าร่วมด้วย
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.ที่มีการยกร่างไปแล้ว มีสาระสำคัญ คือ การกำหนดบทลงโทษอย่างหนักต่อเจ้าหน้าที่รัฐที่ไปทรมานประชาชนและอุ้มประชาชนหายไปจากสังคม และมีการกำหนดนิยาม “ผู้เสียหาย” ให้กว้างขวางขึ้น โดยให้รวมถึงบุพการี คู่สมรสของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงมีสิทธิได้รับการเยียวยา
กฎหมายฉบับนี้ยังกำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้บังคับบัญชาโดยตรงที่รู้เห็นและทราบว่าผู้ใต้บังคับบัญชาไปทรมานหรืออุ้มหายแล้วไม่ยับยั้ง ห้าม หรือลงโทษ และการห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐจับกุมคุมขังบุคคลในที่ที่ไม่เปิดเผย นอกจากนี้ จะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการอิสระที่มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนคดี ช่วยเหลือเยียวยาญาติผู้ที่ถูกทรมานและอุ้มหาย และยังคุ้มครองผู้เสียหายหรือผู้แจ้งความในคดีทรมานและบังคับสูญหาย ไม่อาจถูกฟ้องแพ่ง อาญา และคดีอื่นใด


สแตนฟอร์ดสร้างอุโมงค์ลมศึกษาการบินของนก เตรียมนำความรู้ไปพัฒนาหุ่นยนต์บินรุ่นใหม่
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดของสหรัฐฯ สร้างอุโมงค์ลมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษโดยสามารถปรับความแรงลม รวมทั้งรูปแบบของกระแสลมได้หลายแบบ เพื่อปล่อยให้นกขนาดเล็กบินผ่าน และบันทึกรูปแบบการเคลื่อนไหวของนกขณะบินในอุโมงค์ลมอย่างละเอียด ซึ่งความรู้ที่ได้จะนำไปพัฒนาทักษะการบินให้กับหุ่นยนต์บินรุ่นใหม่ รวมทั้งอากาศยานต่าง ๆ
ศาสตราจารย์ เดวิด เลนทิงก์ ผู้นำการวิจัยระบุว่า คนเราเห็นนกบินอยู่ทุกวัน จนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่จนบัดนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่รู้โดยละเอียดว่า นกบินในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันได้อย่างไร จึงได้เริ่มทดลองนำนกมาฝึกให้บินในอุโมงค์ลมตามคำสั่ง โดยให้รางวัลเป็นอาหาร แล้วบันทึกภาพการเคลื่อนไหวของนกโดยละเอียดไว้เพื่อนำไปวิเคราะห์
ในเบื้องต้น ศ. เลนทิงก์ พบว่านกขนาดเล็กส่วนมากเมื่อกระพือปีกลง จะทำให้เกิดแรงยกถึงสองเท่าของน้ำหนักตัว แต่ในขณะที่ยกปีกขึ้น ตัวนกจะเกิดการตกอย่างอิสระ ส่วนในกรณีพิเศษอย่างนกฮัมมิงเบิร์ด ซึ่งกระพือปีกเร็วและลอยตัวนิ่งอยู่นิ่งได้นาน จะเป็นการทดลองขั้นต่อไปในอนาคต #BirdFlight

ผลสแกนกระดูกชี้ บรรพบุรุษมนุษย์ “ลูซี่” ตกต้นไม้ตาย
ผลการศึกษาร่องรอยแตกหักในฟอสซิลโครงกระดูกบรรพบุรุษมนุษย์ “ลูซี่” ครั้งล่าสุดชี้ว่า บรรพบุรษมนุษย์สายพันธุ์ออสตราโลพิเทคัส อะฟาเรนซิส (Australopithecus afarensis) ซึ่งมีชื่อเสียงมานานผู้นี้ น่าจะตายลงในวัยสาว ด้วยเหตุพลัดตกจากที่สูง
ทีมนักวิจัยจากสหรัฐฯและเอธิโอเปีย ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาดังกล่าวลงในวารสารเนเจอร์ หลังจากใช้เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือซีทีสแกนแบบความละเอียดสูง ตรวจดูร่องรอยแตกหักในฟอสซิลกระดูกของลูซี่ซึ่งมีอายุถึง 3.2 ล้านปี แล้วพบว่ารอยแตกหักดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อลูซี่ยังมีชีวิตอยู่ โดยไม่ได้เป็นความเสียหายของฟอสซิลที่มีอายุมากแต่อย่างใด โดยรอยแตกหักนี้พบในหลายตำแหน่ง เช่นที่กระดูกขา ข้อเข่า แขน ซี่โครง กระดูกสันหลัง กราม และกะโหลกศีรษะ
ร่องรอยแตกหักดังกล่าว สอดคล้องกับลักษณะศพของมนุษย์ปัจจุบันซึ่งเสียชีวิตเพราะตกจากที่สูง โดยภายในกระดูกที่แตกหักไม่มีร่องรอยของการซ่อมแซมฟื้นตัว แสดงว่าลูซี่ตายในทันทีที่พลัดตกลงมา นอกจากนี้ การที่ซี่โครงซี่แรกแตกหักเสียหายด้วย แสดงว่ามีการตกกระทบพื้นอย่างแรง เพราะปกติซี่โครงซี่แรกจะแตกได้ยากมาก นักวิจัยยังพบความเสียหายที่กระดูกต้นแขน ซึ่งแสดงว่ามีการเหยียดแขนออกขณะร่วงตกลงมา แสดงว่าลูซี่ยังคงมีสติอยู่ในขณะพลัดตก
ทีมนักวิจัยคาดว่า ลูซี่พลัดตกจากต้นไม้ เนื่องจากในบริเวณที่ค้นพบฟอสซิลโครงกระดูกของลูซี่ เป็นพื้นที่ราบน้ำท่วมถึงที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ของเอธิโอเปีย ซึ่งสอดคล้องกับข้อสันนิษฐานที่ว่า ออสตราโลพิเทคัส อะฟาเรนซิส ใช้ชีวิตช่วงหนึ่งอยู่บนต้นไม้คล้ายลิง
ทั้งนี้ มีการค้นพบฟอสซิลของลูซี่เมื่อปี 1974 โดยมีความสูงราว 1 เมตร ทั้งเป็นฟอสซิลโครงกระดูกบรรพบุรุษมนุษย์ที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบมา โดยยังเหลือโครงกระดูกอยู่ถึงร้อยละ 40 ของร่างทั้งหมด
บรรพบุรุษมนุษย์สายพันธุ์ออสตราโลพิเทคัส อะฟาเรนซิสนั้นเดินตัวตรง ไม่มีเท้าสำหรับยึดเกาะแบบลิง แต่ร่างกายส่วนบนและแขนยังมีลักษณะเหมาะกับการปีนป่ายอยู่
(ภาพประกอบ – แบบจำลองออสตราโลพิเทคัส อะฟาเรนซิส ทั้งเพศผู้และเพศเมีย)
http://www.bbc.co.uk/news/science-environment-37194764

คืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ศาลอาญาไต่สวนคดีใหญ่ จำเลย 103 คน อีกคดีศาลจังหวัดปากพนังนัดฟังคำพิพากษาพรุ่งนี้
พรุ่งนี้ศาลจังหวัดปากพนัง จ.นครศรีธรรมราชนัดฟังคำพิพากษาคดีลักลอบขนส่งชาวโรฮิงญาจำนวน 98 คน เมื่อต้นปีที่แล้ว ขณะที่ศาลอาญากรุงเทพฯ ไต่สวนคดีค้ามนุษย์คดีใหญ่ที่มีจำเลยรวมกันถึง 103 คนในเดือนนี้ ซึ่งจำเลยบางส่วนเป็นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจระดับสูง รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่น
สำหรับคดีที่ศาลจังหวัดปากพนัง เป็นคดีที่สืบเนื่องจากวันที่ 11 มกราคม 2558 พ.ต.อ.นพดล เพ็ชรขาวเขียว ผู้กำกับ สถานีตำรวจภูธรหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานว่าจะมีการลักลอบขนชาวโรฮิงญามาจากพื้นที่จังหวัดระนองไปยังจังหวัดสงขลา โดยใช้พื้นที่อำเภอหัวไทร เป็นเส้นทางผ่าน จึงได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจสอบ ถนนสาย 408 นครศรีธรรมราช-หัวไทร กระทั่งพบรถยนต์ ต้องสงสัยจำนวน 5 คัน พบว่ามีชาวโรฮิงญานั่งอยู่ท้ายรถกระบะ รวม 98 คน (ผู้ชาย 30 คน ผู้หญิง 26 คน เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 42 คน) แต่ละคนอยู่ในสภาพอ่อนพลียอย่างหนัก และในจำนวนดังกล่าว พบชาวโรฮิงญาเสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนชาวโรฮิงญาที่รอดชีวิตได้เข้าสู่กระบวนการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ตามประมวลกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นหน่วยงานหลักของรัฐในการดูแลผู้เสียหายระหว่างเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา
จากนั้นอัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายนายสุนนท์ หรือโกมิตร แสงทอง นายสุริยา ยอดรัก และนายวราชัย ชฎาทอง เป็นจำเลยฐานการค้ามนุษย์ สนับสนุนการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพ เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาสหรือให้มีฐานะคล้ายทาส ตามประมวลกฎหมายอาญา นำพาคนต่างด้าวเข้ามา ให้อาศัย หรือซ่อนเร้น ในราชอาณาจักรไทยโดยฝ่าฝืน พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ตาม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 โดยมีผู้เสียหายที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี บุคคลอายุเกิน 15 ปีแต่ไม่ถึง 18 ปี และบุคคลตั้งแต่ 18 ปี ขึ้นไป และศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ทนายความของเหยื่อเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้
อีกความเคลื่อนไหวในเรื่องคดีค้ามนุษย์เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ช่วงวันที่ 16, 19 และ 23-26 ส.ค. ที่ผ่านมาศาลไต่สวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงญาซึ่งอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง จำเลยรวม 103 คนในความผิดฐานค้ามนุษย์ ซึ่งกระบวนการไต่สวนกระทำผ่านล่ามภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์โรฮิงญา เบงกาลี และภาษาพม่า สำหรับจำเลยที่ไม่เข้าใจภาษาไทย
ในการไต่สวนรอบนี้มีพยานทั้งสิ้น 17 คน โดยมีพยาน 2 คนให้การผ่านการประชุมระยะไกล หรือเทเลคอนเฟอร์เรนซ์จากศาลอื่น มีเอกสารพยานฝ่ายโจทก์ 1,387 ชิ้น และ 2 ชิ้นจากโจทก์ร่วมซึ่งเป็นฝ่ายเหยื่อค้ามนุษย์ โดยฝ่ายจำเลยมีเอกสารหลักฐาน 31 ชิ้น
กรณีนี้มีการจับกุมและทยอยฟ้องจำเลยที่เกี่ยวข้องในการกระทำผิดร่วมกัน จนกระทั่งมีสำนวนฟ้องอยู่ถึง 11 สำนวน และประธานศาลฎีกามีคำสั่งเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2558 ให้รวมสำนวนที่เกี่ยวข้องกันทั้งหมดมาพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งขณะนี้มีจำเลยรวมทั้งสิ้น 103 คน ในจำนวนนี้มีสมาชิกระดับสูงขององค์กรปกครองท้องถิ่น 7 คน เจ้าหน้าที่รัฐ 2 คน เจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ทหาร 2 นาย และนางพยาบาล 1 คน สำหรับกระบวนการไต่สวนคดีนี้ นัดถัดไปคือวันที่ 6 ก.ย. ที่ห้อง 704 ศาลอาญารัชดา
ภาพประกอบจากคลังภาพ


มหานคร ตึกที่สูงที่สุดในไทย
"มหานคร" ตึกระฟ้าตึกใหม่ที่สูงที่สุดในประเทศไทย ด้วยความสูง 314 เมตร ทำลายเจ้าของสถิติเดิม "ใบหยก 2" ที่มีความสูง 304 เมตร เปิดตัวด้วยการจัดแสดง Light Show เมื่อค่ำวานนี้ (29 ส.ค.)
"มหานคร" ตั้งอยู่บริเวณถนนนราธิวาสราชนครินทร์ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 ออกแบบโดย โอเลอ เชเริน สถาปนิกชาวเยอรมัน ขณะที่บริษัทเพซ ดีเวลลอปเมนท์ เป็นเจ้าของโครงการ
ตัวอาคารถูกออกแบบเสมือนโอบล้อมด้วยริบบิ้นสามมิติ หรือ "พิกเซล" ตลอดความสูงของตัวอาคารเป็นพื้นที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกเพื่อให้เห็นทิวทัศน์ในลักษณะปริทัศน์ มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 77 ชั้น ทั้งส่วนที่พักอาศัย โรงแรม ร้านอาหารต่างๆ และจุดชมวิวบนชั้น 77 เป็นต้น #Mahanakorn

ขับเคลื่อนโดย Blogger.