รัสเซียประกาศไม่ยอมรับ หลังผลสอบยูเอ็นชี้รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือน
ทางการรัสเซียระบุไม่ยอมรับผลการสอบสวนของสหประชาชาติ ซึ่งชี้ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเช่นก๊าซคลอรีนและก๊าซพิษซารินโจมตีพลเรือนอย่างน้อย 2 ครั้งด้วยกัน
มีการเปิดเผยผลสอบสวนดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทีมสอบสวนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า หลักฐานที่ได้จากการโจมตี 9 ครั้ง ในเมือง 7 แห่งของซีเรีย พบว่ามีอย่างน้อย 2 กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2014 และ 2015 ที่พบว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีพลเรือน และมีอีก 1 กรณีซึ่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้ก๊าซมัสตาร์ดเข้าโจมตีด้วย
ทางการรัสเซียระบุไม่ยอมรับผลการสอบสวนของสหประชาชาติ ซึ่งชี้ว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีเช่นก๊าซคลอรีนและก๊าซพิษซารินโจมตีพลเรือนอย่างน้อย 2 ครั้งด้วยกัน
มีการเปิดเผยผลสอบสวนดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยทีมสอบสวนจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติระบุว่า หลักฐานที่ได้จากการโจมตี 9 ครั้ง ในเมือง 7 แห่งของซีเรีย พบว่ามีอย่างน้อย 2 กรณีที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2014 และ 2015 ที่พบว่ารัฐบาลซีเรียเป็นฝ่ายใช้ก๊าซคลอรีนโจมตีพลเรือน และมีอีก 1 กรณีซึ่งกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ารัฐอิสลาม (ไอเอส) ใช้ก๊าซมัสตาร์ดเข้าโจมตีด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรของรัฐบาลซีเรีย ได้แสดงความกังขาต่อผลสอบสวนดังกล่าว โดยนายไวทาลี เชอร์คิน ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนหรือวัตถุพยานซึ่งชี้ถึงความผิดของรัฐบาลซีเรียในเรื่องนี้ และพยานบุคคลส่วนมากในการสอบสวนนี้ก็มาจากฝ่ายกบฏ
ทั้งนี้ หากพบว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนจริง จะเปิดช่องให้ประชาคมนานาชาติสามารถทำตามข้อมติของสหประชาชาติที่ออกมาเมื่อปี 2013 ได้ ซึ่งข้อมติดังกล่าวระบุว่า ให้ดำเนินการตามกฎบัตรสหประชาชาติ หมวดที่ 7 โดยใช้กำลังทหารเข้ายับยั้งการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯว่า ยังเร็วเกินไปที่นานาชาติจะหารือกันเรื่องการคว่ำบาตรหรือใช้กำลังทหารในซีเรีย
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ - แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยที่ถูกโจมตีด้วยก๊าซคลอรีนในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา)
ทั้งนี้ หากพบว่ารัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนจริง จะเปิดช่องให้ประชาคมนานาชาติสามารถทำตามข้อมติของสหประชาชาติที่ออกมาเมื่อปี 2013 ได้ ซึ่งข้อมติดังกล่าวระบุว่า ให้ดำเนินการตามกฎบัตรสหประชาชาติ หมวดที่ 7 โดยใช้กำลังทหารเข้ายับยั้งการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย อย่างไรก็ตาม ทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติได้กล่าวต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงฯว่า ยังเร็วเกินไปที่นานาชาติจะหารือกันเรื่องการคว่ำบาตรหรือใช้กำลังทหารในซีเรีย
(ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ - แพทย์ให้การรักษาผู้ป่วยที่ถูกโจมตีด้วยก๊าซคลอรีนในจังหวัดอิดลิบของซีเรีย เมื่อต้นเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา)
แสดงความคิดเห็น