2 วันก่อนไปแวะทานข้าวเย็นกับนายกฯมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นเพื่อนกันและก็ไปนอนโรงแรมที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงสมัยนายพลติโตของยูโกสลาเวียเมื่อก่อนนี้ (เดิมมอนเตเนโกรเป็นส่วนหนึ่งของยูโกสลาเวียก่อนจะแตกมาเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศ)
ก็ได้คุยกันถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเขา และก็ได้แนะนำไปว่าประเทศเขามีธรรมชาติที่สวยงามโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อนก็มีชายฝั่งทะเลที่มีวิวภูเขาสวยมาก มีเรือยอร์ชมาเทียบมากมายจนไม่มีที่จอด หน้าหนาวก็มีภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะสวย พอหิมะละลายก็มีน้ำไหลตามแม่น้ำสะอาดและมีน้ำมาก มีน้ำบ่อธรรมชาติที่สามารถผลิตน้ำดื่มขายแข่งกับพวก Evian ได้สบายมากหากมีการตลาดและควบคุมคุณภาพดีๆ นักธุรกิจไทยที่ทำเรื่องนี้อย่างน้ำสิงห์น่าไปทำ
ช่วงนี้มีนักลงทุนจากตะวันออกกลางไปลงทุนทำโรงแรม อพาร์ทเม้นต์และบ้านขายหลายชุดตามชายฝั่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับอิตาลีและอยู่ตอนใต้ของโครเอเชีย ผมก็เลยแนะนำว่า น่าจะทำยกเว้นวีซ่าให้กับหลายๆประเทศ จะได้มีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น เพราะตอนนี้นักท่องเที่ยวจากยุโรปเข้ามามากขึ้น เมื่อก่อนมีเฉพาะรัสเซียกับเซอร์เบียเพราะเขาพูดภาษาคล้ายกัน
ผมก็เลยแนะนำให้เขาบุกทางท่องเที่ยวและให้เขาเป็น gateway ของสินค้าเข้าสู่ยุโรปตะวันออกได้ เพราะเขามีท่าเรือน้ำลึกที่ใช้เป็นท่าเรือหลักของยูโกสลาเวียสมัยก่อน และก็มีรถไฟวิ่งไปยังเมือง Belgrade เมืองหลวงของเซอร์เบียด้วย สามารถขยายต่อได้มากถ้าประเทศใหญ่สนใจจะใช้บริการเช่น จีน เป็นต้น สินค้าไทยที่มีขนาดหนัก (Bulky) เช่น ข้าวสาร รถยนต์ ที่จะส่งไปขายแถบยุโรปตะวันออกก็มาขึ้นท่าที่นี่ได้
ท่านคงจำได้ตอนสมัยที่ผมถูกไล่ล่า ที่นี่เป็นประเทศแรกที่เสนอให้ passport ผม passport ประเทศนี้สามารถเข้ายุโรปได้ทุกประเทศยกเว้นอังกฤษที่ต้องมีวีซ่า รวมทั้งเข้าประเทศในสหภาพโซเวียตเดิมได้ด้วยและอเมริกากำลังพิจารณายกเว้นให้ แต่ผมตอนนี้ก็ใช้ passport ไทยเป็นส่วนใหญ่ครับ เพราะภูมิใจในความเป็นไทยเต็มหัวใจครับ
สำหรับคนไทย ผมแนะนำว่าน่ามาเที่ยว สวยดีและไม่แพงมาก ที่นี่สะอาดและปลอดภัย ข้อเสียคือต้องขอ Visa ( ยกเว้นมี Schengen Visa) และสายการบินที่บินเข้ามาก็จะมีจาก Vienna, Austria จาก Geneva, Switzerland จาก Istanbul, Turkey จาก Rome, Italy คงยังมี Flight บินไม่มากพอครับ
ตอนนี้ผมอยู่London แล้วครับ พอดีเป็นหวัดมาจาก Dubai เพราะอากาศข้างนอกร้อนถึง 42 องศา เข้ามาในห้องแอร์ อากาศ 22 องศา เข้า-ออก เข้า-ออก เลยแย่เอาเหมือนกัน คราวหน้าจะเล่าเรื่องอังกฤษครับ

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.