นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนมิ.ย. 2559 ว่าปรับตัวลดลงทุกรายการต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 25 เดือน โดยดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 60.6 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม 66.5 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 87.6

 “สัญญาณในภาคเกษตรในปัจจุบันเริ่มเป็นบวก หลังจากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวดีขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมยังมีความกังวลต่อความผันผวนจากกรณีอังกฤษออกจากอียู ที่ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอย่างไร ดังนั้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังมีความเปราะบาง”

 ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือโอกาสในการหางานทำ โดยพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวมปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และต่ำสุดในรอบ 25 เดือนเช่นกัน จากระดับ 67.7 สู่ระดับ 66.5 ผู้บริโภคยังขาดความเชื่อมั่นเกี่ยวกับภาวะการจ้างงานและโอกาสในการหางานทำ

 นายธนวรรธน์กล่าวด้วยว่า หากพิจารณาตัวเลขอัตราการว่างงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าตัวเลขสูงขึ้นต่อเนื่องมา 5 ปี โดยปี 2554 อยู่ที่ 0.679%, ปี 2555 อยู่ที่ 0.657%, ปี 2556 อยู่ที่ 0.72%, ปี 2557 อยู่ที่ 0.836%, ปี 2558 อยู่ที่ 0.883% และในปี 2559 ณ เดือนพ.ค. อยู่ที่ 1.2% หรือประมาณ 4.5 แสนคน คนว่างงานส่วนใหญ่เป็นบัณฑิตจบใหม่ เพราะปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้การจ้างงานใหม่น้อยลง

 ทั้งนี้ ศูนย์พยากรณ์ฯคาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 3-3.5% เป็น 2.7-3.2% โดยการส่งออกลดลงเป็นติดลบ 2-0% ภายใต้สมมติฐานที่ยังไม่รวมภัยก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้หรือไตรมาสสุดท้ายของปีงบประมาณ ภาครัฐควรเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ งบลงทุน และงบค้างท่อทั้งหลายให้ออกมาโดยเร็ว รวมทั้งงบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.