ก่อนหน้านี้ กสท. เสียงข้างมากได้มีมติเห็นชอบการพักงานของผู้ดำเนินรายการ 2 คนของช่อง Voice TV เป็นระยะเวลา 10 วันแล้ว ล่าสุดการพิจารณาวาระเข้าสู่บอร์ด กสท. ในวันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม มีการเสนอให้พักรายการ Wake Up News 7 วันอีกรอบ โดยอ้างอำนาจของประกาศ กสทช.ว่าด้วย “หลักเกณฑ์ใบอนุญาตฯ” ซึ่งเป็นรูปแบบการกำหนดบทลงโทษของ กสทช. ที่เข้าข่ายการแทรกแซงสื่อ
โดยรายละเอียดระบุว่า การประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ครั้งที่ 29/2559 วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม นี้ มีวาระการประชุมน่าจับตา ได้แก่ สำนักงานตรวจสอบพบการออกอากาศ ช่อง Voice TV รายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 59 เวลาประมาณ 8.46 น. กรณีการสัมภาษณ์ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ วิเคราะห์เหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้ และวันอังคารที่ 16 ส.ค. 59 เวลาประมาณ 7.41 น. นำเสนอกรณี “ไผ่ ดาวดิน อดอาหารวันที่ 9 อาการทรุดหนัก” และ กรณี “มีชัยชี้ ส.ว. เลือกนายกฯได้ 5 ปี แต่เสนอได้ชื่อเดียว” ซึ่งสำนักงานพบว่าเป็นเนื้อหาที่อาจเข้าข่ายคัดต่อประกาศคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 41/59 ฉบับที่ 97/57 ฉบับที่ 103/57 รวมทั้งขัดต่อมาตรา 37 แห่ง พ.ร.บ.การประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 และอาจขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลงที่บริษัท Voice TV จำกัด ทำร่วมกับ สำนักงาน กสทช.
ทั้งนี้คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการได้เชิญผู้แทนจากช่อง Voice TV และ ผู้แทนคณะทำงานติดตามสื่อ ส่วนงานการรักษาความสงบเรียบร้อย เข้าร่วมการประชุมและให้ความเห็นต่อกรณีการออกอากาศดังกล่าว คณะอนุกรรมการได้มีข้อเสนอให้ กสท. เตรียมพิจารณา มีคำสั่งให้ระงับการออกอากาศ Wake Up News เป็นเวลา 7 วัน โดยใช้อำนาจตามประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555
โดยมีรายงานว่า เนื้อหาที่ทางสำนักงานตรวจสอบพบการออกอากาศช่อง Voice TV นำเสนอแล้วอาจขัดต่อข้อกำหนดของ กสทช. คือการนำข้อเขียนในสเตตัสของนายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ที่เขียนถึง ไผ่ ดาวดิน อดอาหารเพื่อประท้วงความอยุติธรรม (รายละเอียดhttps://www.facebook.com/wannasingh/photos/a.125014214203075.9612.110160872355076/1043284782376009/?type=3 มาอ่านในรายการ Wake Up News โดยระบุเหตุผลว่า "ข้อความวรรณสิงห์ทำให้คนเห็นใจเด็กเกินไป คนจะมอง คสช.ใจดำ และทำให้ Voice TV เป็นภัยความมั่นคง" และการสัมภาษณ์ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ วิเคราะห์เหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้ ซึ่ง ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ เป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรังสิต
ทั้งนี้ การกระทำของ กสท. เข้าข่ายการแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างรุนแรง เพราะเนื้อหาที่นำเสนอ เป็นไปตามข้อเท็จจริงและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใดๆ กับความมั่นคง เป็นเพียงความเห็นของคนๆ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งหาก กสท.ยังกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นมาตรฐานว่า ต่อไปสื่อมวลชนไทยจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมชี้นำของ กสท.ทั้งหมด การนำเสนอข้อเท็จจริง และความเห็น ย่อมไม่อาจเป็นไปอย่างอิสระ เที่ยงตรง และมุ่งต่อประโยชน์ของประชาชน แต่ต้องเกิดจากการอนุญาตโดย กสท.เท่านั้น
จึงขอเรียกร้องให้ กสท.ยุติการแทรกแซง Voice TV อย่างไม่เป็นธรรมและไร้เหตุผล การมุ่งแทรกแซงการนำเสนอเนื้อหารายการของ Voice TV ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ และไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง และอาจทำให้องค์กรอย่าง กสท.หรือ กสทช.ขาดความเชื่อถือจากประชาชนในระยะยาว
โดยมีรายงานว่า เนื้อหาที่ทางสำนักงานตรวจสอบพบการออกอากาศช่อง Voice TV นำเสนอแล้วอาจขัดต่อข้อกำหนดของ กสทช. คือการนำข้อเขียนในสเตตัสของนายวรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ที่เขียนถึง ไผ่ ดาวดิน อดอาหารเพื่อประท้วงความอยุติธรรม (รายละเอียดhttps://www.facebook.com/wannasingh/photos/a.125014214203075.9612.110160872355076/1043284782376009/?type=3 มาอ่านในรายการ Wake Up News โดยระบุเหตุผลว่า "ข้อความวรรณสิงห์ทำให้คนเห็นใจเด็กเกินไป คนจะมอง คสช.ใจดำ และทำให้ Voice TV เป็นภัยความมั่นคง" และการสัมภาษณ์ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ วิเคราะห์เหตุระเบิด 7 จังหวัดใต้ ซึ่ง ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ เป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยรังสิต
ทั้งนี้ การกระทำของ กสท. เข้าข่ายการแทรกแซงการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนอย่างรุนแรง เพราะเนื้อหาที่นำเสนอ เป็นไปตามข้อเท็จจริงและไม่ก่อให้เกิดผลกระทบใดๆ กับความมั่นคง เป็นเพียงความเห็นของคนๆ หนึ่งเท่านั้น ซึ่งหาก กสท.ยังกระทำเช่นนี้ ย่อมเป็นมาตรฐานว่า ต่อไปสื่อมวลชนไทยจะต้องตกอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมชี้นำของ กสท.ทั้งหมด การนำเสนอข้อเท็จจริง และความเห็น ย่อมไม่อาจเป็นไปอย่างอิสระ เที่ยงตรง และมุ่งต่อประโยชน์ของประชาชน แต่ต้องเกิดจากการอนุญาตโดย กสท.เท่านั้น
จึงขอเรียกร้องให้ กสท.ยุติการแทรกแซง Voice TV อย่างไม่เป็นธรรมและไร้เหตุผล การมุ่งแทรกแซงการนำเสนอเนื้อหารายการของ Voice TV ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ใดๆ และไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง และอาจทำให้องค์กรอย่าง กสท.หรือ กสทช.ขาดความเชื่อถือจากประชาชนในระยะยาว
แสดงความคิดเห็น