โครงการให้วัยรุ่นลองเลี้ยงตุ๊กตาทารก ไม่ช่วยแก้ปัญหาตั้งครรภ์ในวัยเรียน
งานวิจัยชิ้นล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร The Lancet บ่งชี้ว่า การให้เด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาทดลองสวมบทแม่ลูกอ่อนโดยให้เลี้ยงตุ๊กตาเด็กทารกนั้น ไม่ช่วยให้เด็กรับรู้ถึงความยากลำบากของการเป็นแม่คน และไม่อาจช่วยแก้ปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรในหมู่วัยรุ่นได้
งานวิจัยพบว่า นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษากว่า 1,000 คน จากโรงเรียนกว่า 50 แห่งในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ที่เข้าร่วมโครงการทดลองเลี้ยงลูกแบบเสมือนจริงนั้น มีแนวโน้มจะตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร มากกว่าเด็กนักเรียนหญิงที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการนี้
โครงการทดลองเลี้ยงลูกแบบเสมือนจริง คือการให้เด็กนักเรียนหญิงนำตุ๊กตาทารกไปเลี้ยงในช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อให้รับรู้ถึงความยากลำบากของการเป็นแม่คน โดยตุ๊กตาจะถูกตั้งโปรแกรมให้ร้องไห้เมื่อถึงเวลาต้องให้นม ทำให้เรอ หรือเปลี่ยนผ้าอ้อม นอกจากนี้เด็ก ๆ จะได้รับการอบรมเรื่องสุขภาพทางเพศ การคุมกำเนิด ภาระค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูบุตร รวมทั้งจะได้ชมวิดีโอของผู้หญิงที่บอกเล่าประสบการณ์การตั้งท้องในวัยเรียนด้วย
แต่จากการติดตามวัยรุ่นหญิงเหล่านี้ไปจนถึงอายุ 20 ปี กลับพบว่า 8% ของเด็กกลุ่มนี้ได้ตั้งท้องและคลอดลูกไปแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ส่วนอีก 9% ตั้งท้องและเข้ารับการทำแท้ง ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของวัยรุ่นหญิงอีกกลุ่มที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการซึ่งมีอัตราการคลอดบุตรที่ 4% และทำแท้ง 6%
จูเลียน ควินลิวาน หนึ่งในทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยนอเทรอดามออสเตรเลีย ระบุว่า สาเหตุที่โครงการให้เด็กทดลองเลี้ยงตุ๊กตาทารกใช้ไม่ได้ผลในออสเตรเลีย เป็นเพราะโครงการนี้ไม่ได้มุ่งเน้นให้ความรู้แก่กลุ่มวัยรุ่นชายด้วย และการให้ความรู้เรื่องนี้แก่เด็กนักเรียนชั้นมัธยมถือว่าช้าเกินไป ขณะที่เนื้อหาในการสอนก็เน้นย้ำถึงผลเสียของการมีลูกตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นน้อยเกินไป ส่วนตุ๊กตาทารกที่ใช้เป็นสื่อการสอน ก็ยังไม่สามารถถ่ายทอดความยากลำบากในการเลี้ยงดูทารกได้เหมือนจริง
ทีมนักวิจัยแนะนำว่า ควรจัดให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องเพศศึกษาและการตั้งครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ และควรเน้นไปยังเด็กในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากครอบครัวเท่าที่ควร #teenagepregnancy #magicdolls

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.