หนึ่งในช้างแมมมอธขนยาวกลุ่มสุดท้ายตายเพราะขาดน้ำ
ผลการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตทของสหรัฐฯ พบว่าหนึ่งในช้างแมมมอธขนยาวกลุ่มสุดท้ายที่มีชีวิตอยู่เมื่อราว 5,600 ปีก่อน บนเกาะห่างไกลแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งรัฐอะแลสกา ต้องล้มตายลงและสูญพันธุ์ไปในที่สุดเนื่องจากขาดน้ำดื่ม
ทั้งนี้ ช้างแมมมอธขนยาวโดยทั่วไปต้องสูญพันธุ์เมื่อราว 10,500 ปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงท้ายของยุคน้ำแข็ง เนื่องจากการล่าของมนุษย์และความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ยังมีแมมมอธขนยาวอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่บนเกาะห่างไกลนอกชายฝั่งรัฐอะแลสกา สามารถดำรงชีวิตต่อมาได้อีกราว 5,000 ปี ก่อนที่จะสูญพันธุ์ด้วยสาเหตุที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ผลการศึกษาพบว่า สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นในช่วงท้ายของยุคน้ำแข็ง ทำให้น้ำแข็งที่มีอยู่ทั่วไปละลายและระดับน้ำทะเลเพิ่มสูง จนในที่สุดน้ำเค็มเข้าท่วมทะเลสาบน้ำจืดบนเกาะ จนทำให้ช้างแมมมอธกลุ่มนี้ขาดแคลนน้ำดื่ม ซึ่งประมาณการว่าช้างแต่ละตัวต้องการน้ำ 70-200 ลิตรต่อวัน นอกจากนี้ การที่แหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่หายไป ทำใช้ประชากรช้างที่เหลือมารวมตัวกันรอบบ่อน้ำจืดเล็ก ๆ ที่อาจยังเหลืออยู่ ซึ่งก็จะทำให้ดินโคลนโดยรอบถล่มลงไปจนตื้นเขินและแห้งเร็วขึ้นอีก
ทั้งนี้ ช้างแมมมอธที่มีชีวิตอยู่เป็นกลุ่มสุดท้ายของโลก อาศัยอยู่บนเกาะ Wrangel ในมหาสมุทรอาร์คติก และตายลงเมื่อราว 4,000 ปีก่อน
แสดงความคิดเห็น