รู้จัก “คำสั่ง 66/23” การปรองดองและยุติสถานการณ์สู้ รบในชนบทที่ถูกพูดถึงอีกครั้งยุ ค คสช.
Posted: 26 Jan 2017 03:57 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
ช่วงนี้เลข 66/2523 อยู่ในข่าวปรองดองเยอะ บางคนร้องอ๋อ แต่บางคนอาจนึกไม่ออกว่าคืออะไร มันคือสูตรสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ใช้การเมืองนำการทหาร “ยุติสถานการณ์สงครามปฏิวัติ ของคอมมิวนิสต์” โดยใช้วิธีทางการเมืองนำการทหาร ขจัดการขยายแนวร่วม พคท.ในเมือง พร้อมเสนอว่ารัฐบาลจะขจั ดความไม่เป็นธรรม สนับสนุนประชาธิปไตย ปฏิบัติต่อผู้เข้ามอบตัวอย่าง “เพื่อนประชาชนร่วมชาติ”
ภาพประกอบ: อิศเรศ เทวาหุดี
ช่วงนี้นอกจากเรื่องการแก้ไขร่ างรัฐธรรมนูญในประเด็นเฉพาะ โรดแมปเลือกตั้งที่เถียงกันวุ่ นวายว่าจะได้เลือกตั้งกันเมื่ อไร อีกข่าวสารการเมืองที่กำลังร้ อนเห็นจะเป็นเรื่อง “การปรองดอง” ที่รัฐบาลบอกว่าจะพยายามหาทางยุ ติความขัดแย้งทางการเมืองที่มี มากว่าสิบปี
การปรองดองที่ว่า มีการตั้ง “คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิ นตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้ างความสามัคคีปรองดอง” หรือ ป.ย.ป. ซึ่งสร้างความประหลาดใจยิ่ง นอกจากชื่อที่ยาวแล้ว โครงสร้างคณะกรรมการก็มีสัดส่ วนประหลาด เป็นทหารเกือบหมด
นอกจากนั้นเรายังเห็นข่ าวการปรองดองที่นำเสนอโดย สปท. คือ คณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิ รูปประเทศด้านการเมือง สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่มีสังศิต พิริยะรังสรรค์ เป็นประธาน มีการนำเสนอว่า น่าจะใช้นโยบาย 66/2523 และ 66/2525 เป็นต้นแบบ
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีปฏิเสธว่าจะไม่ ใช้มาตรา 66/23 เพราะแนวทางของเขาไม่เกี่ยวข้ องกับข้อกฎหมาย แต่เน้นการสร้างความเข้าใจของทุ กฝ่าย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสั นติสุข
เลข 66/2523 นั้นสำคัญยิ่งสำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ที่สนใจประวัติ ศาสตร์ วันนี้เราจะพาให้ทุกคนไปรู้จั กกับคำสั่งนี้ ซึ่งสร้างจุดเปลี่ยนยุติ สงครามสู้รบในชนบทจะถูกนำมาใช้ ได้หรือไม่ในปัจจุบัน ซึ่งบริบทในยุคนี้ก็แตกต่ างไปอย่างมาก และองค์ประธานสร้ างความปรองดองก็ถูกตั้ งคำถามเพราะเป็นตัวหลั กของความขัดแย้ง
000
สาระสำคัญของคำสั่ง 66/2523
1. ช่วงแรกกล่าวถึงสถานการณ์ในบริ บทโลกว่า การเผชิญหน้าในรู ปแบบของสงครามเย็นอันมี ผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิ ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทย ในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์แห่ งประเทศไทยดำรงเจตนาอันแน่วแน่ ทำสงครามปฏิวัติเพื่อยึดอำนาจรั ฐ โดยใช้เงื่อนไขประชาชาติประชาธิ ปไตยเป็นหลักและใช้เงื่อนไขอื่ นๆ
2. รัฐบาลมีเจตนารมณ์ในการเทิดทู นและรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขอย่ างเคร่งครัด รัฐบาลถือเป็นภาระหน้าที่สำคั ญและเร่งด่วนในการต่อสู้เพื่ อเอาชนะคอมมิวนิสต์อันเป็ นสาเหตุสำคัญยิ่งในการบั่ นทอนความมั่นคง
3. รัฐบาลให้คำมั่นว่าจะบริ หารราชการแผ่นดินโดยคำนึงถึ งความผาสุกของประชาชน ยึดมั่นในการประสานผลประโยชน์ ของคนในชาติ ปลูกฝังให้คนไทยทุกคนยึดมั่ นในอุดมการณ์เสียสละประโยชน์ส่ วนตัวเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม ปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิ ภาพในการรับใช้ประชาชน และให้สอดคล้องกั บการปกครองระบอบประชาธิปไตย
4. นิยามบทบาทของกองทัพใหม่ คือ ให้กองทัพมีบทบาทและหน้าที่สำคั ญคือป้องกันประเทศและรักษาไว้ซึ่ งเอกราชของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
5. คำสั่ง 66/2523 กำหนดนโยบายให้ส่วนราชการต่างๆ นำไปปฏิบัติว่า “ต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการรุกทางการเมืองอย่างต่ อเนื่อง เน้นหนักในการปฏิบัติทั้งปวง เพื่อลิดรอนทำลายขบวนการแนวร่ วมและกองกำลังติดอาวุธเพื่อยุติ สถานการณ์ปฏิวัติ ยับยั้งการปฏิบัติเพื่อสร้ างสถานการณ์สงครามประชาชาติด้ วยนโยบายเป็นกลาง และขยายผลจากโอกาสที่เปิดให้เพื่ อเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ด้ วยอาวุธมาเป็นการการต่อสู้ ในแนวทางสันติ”
7. ในขั้นการปฏิบัติระบุว่าให้หลี กเลี่ยงการดำเนินการยืดเยื้อ ต้องเอาชนะอย่างรวดเร็วด้ วยการรุกทางการเมือง ทำให้ประชาชนมีส่วนในการเป็นเจ้ าของการปกครอง ใช้งานการเมืองเป็นสิ่งชี้ขาด งานการทหารจะต้องสนับสนุนและส่ งเสริมให้บรรลุภารกิจงานการเมื องเป็นสำคัญ
8. ขจัดเหตุแห่งความไม่เป็ นธรรมในสังคมทุกระดับตั้งแต่ท้ องถิ่นถึงระดับชาติ ป้องกันและปราบปรามการทุจริ ตในวงราชการอย่างเฉียบขาด ทำลายการกดขี่ขูดรีดทิ้งสิ้น สร้างความปลอดภัยให้เกิดแก่ชีวิ ตและทรัพย์สินของประชาชน
9. กำหนดการปฏิบัติให้มี การประสานประโยชน์ระหว่างชนชั้น เสียสละผลประโยชน์ของชนชั้นเพื่ อประโยชน์ของส่วนรวม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องมี จิตใจที่เป็นธรรม และเข้าใจปัญหาของประชาชนทุ กชนชั้น
10. ส่งเสริมประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพให้ สามารถในการปกครองตนเอง ส่งเสริมและสนับสนุนให้ ประชาชนทุกชนชั้นและสาขาอาชี พได้มีส่วนร่วมทางการเมือง
11. สนับสนุนการจัดตั้ งขบวนการประชาธิปไตยทั้งสิ้นที่ มีอยู่ โดยคำนึงถึงสิทธิและผลประโยชน์ ของกลุ่มชนนั้นๆ อันพึงจะมี อย่างไรก็ตามเตือนให้ให้ระมั ดระวังและอย่าสับสนระหว่ างขบวนการประชาธิปไตย กับขบวนการคอมมิวนิสต์ที่ แอบแฝงประชาธิปไตยนำหน้า
12. ภารกิจของเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรื อน ตำรวจ ทหาร มีทั้งการต่อสู้โดยใช้กำลังอาวุ ธ และการปฏิบัติในด้านการเมืองด้ วยกันทั้งสิ้น แต่การปฏิบัติด้วยกำลังอาวุธให้ พิจารณาประเภท ขนาดกำลังและยุทธวิธีให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้ นที่เพื่อกดดัน ลิดรอน ทำลาย กองกำลังติดอาวุธโดยต่อเนื่อง
13. ปฏิบัติต่อผู้ก่อการร้ายคอมมิ วนิสต์หรือผู้หลงผิดที่เข้ ามอบตัว หรือที่จับได้อย่างเพื่ อนประชาชนร่วมชาติ ชี้แจงเพื่อให้ได้เข้าใจถึ งนโยบายของรัฐบาลในปัญหานี้อย่ างถ่องแท้ช่วยเหลือให้ใช้ชีวิ ตใหม่ร่วมกันต่อไปในสังคมอย่ างเหมาะสม
14. ขจัดการจัดตั้งและขยายแนวร่ วมตามแนวทางการเมืองสนับสนุนป่า และการขัดขวางการสร้างสถานการณ์ ปฏิวัติ หรือสถานการณ์ที่นำชาติไปสู่ การสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน อันจะสนับสนุนให้พรรคคอมมิวนิ สต์แห่งประเทศไทยสามารถปฏิวัติ ได้สำเร็จ
15. การข่าว การจิตวิทยา ประชาสัมพันธ์ เป็นมาตรการอันสำคัญและให้ดำเนิ นการในลักษณะเชิงรุกอย่างมี แผนและสอดคล้องกับการปฏิบัติทุ กขั้นตอน
16. สำหรับโครงสร้างการบริหาร กำหนดให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สนช.) รับผิดชอบในการเสนอคณะรัฐมนตรี ในเรื่องอันเกี่ยวกับนโยบายที่ เกี่ยวข้อง และให้กองอำนวยการรักษาความมั่ นคงภายใน (กอ.รมน.) เป็นกองอำนวยการเฉพาะกิจ
000
ภาพจากคลิปของแฟ้มภาพยนตร์ของ AP Archive พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสี มา เดินทางไปเป็ นประธานตรวจพลสวนสนามของกองกำลั งอาสาสมัครที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้ นในอำเภอต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา เพื่อต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์แห่ งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2524 การสวนสนามที่สนามกีฬาจังหวั ดนครราชสีมาดังกล่าว เกิดขึ้นหลังประกาศใช้คำสั่ง 66/2523 เพื่อเอาชนะพรรคคอมมิวนิสต์ มาได้เกือบ 1 ปี (ที่มา: รับชมคลิปได้ที่ AP Archive)
ที่มาของแนวคิดคำสั่ง 66/2523
สำหรับคำสั่ง 66/2523 ที่มีการพูดถึงกันนั้น หมายถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 66/2523 โดยในเว็บไซต์ ศูนย์ข้อมูลการเมืองไทยของ SIU ระบุว่า คำสั่งดังกล่าวมีที่มาจากแนวคิ ดของ พล.ต.เปรม ติณสูลานนท์ ตั้งแต่เป็นรองแม่ทัพภาคที่ 2 ต่อมาเลื่อนยศเป็น พล.ท. เป็นแม่ทัพภาคที่ 2 ระหว่างปี 2517-2520 และต้องเผชิญสงครามแย่งชิ งมวลชนกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่ งประเทศไทย เมื่อขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 2 พล.อ.เปรม และคณะทำงานคือ พล.ต.ปฐม เสริมสิน, พ.อ.หาญ ลีนานนท์, พ.อ.เลิศ กนิษฐะนาคะ เริ่มตระหนักว่าวิธี การปราบปรามอย่างเดียวไม่น่ าจะได้ผล เพราะชาวบ้านไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ จำเป็นต้องใช้วิธีต่อสู้ ทางความคิด และดึงเอาประชาชนมาเป็นฝ่ายเดี ยวกับราชการ
ทั้งนี้กองทัพไทยเริ่มใช้วิธีจั ดตั้งชาวบ้านในพื้นที่มาเป็ นกองกำลังอาสาสมัคร ทั้งในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ที่มี พล.ท.สัณห์ จิตรปฏิมา แม่ทัพภาคที่ 4 ขณะที่ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 พ.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เสนอรูปแบบการจัดตั้ง "ทหารพราน" โดยเป็นการฝึกชาวนาในพื้นที่ให้ กลายเป็นกองกำลังฝ่ายรัฐ
ต่อมาในเดือนตุลาคม 2519 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ มารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้บั ญชาการทหารบก และหลังจากรัฐประหารเดือนตุลาคม 2520 พล.อ.เปรม ก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่ วยว่าการกระทรวงมหาดไทยในรัฐบาล พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ และเป็นผู้บัญชาการทหารบกเดื อนตุลาคม 2521 ต่อมาในเดือนพฤษภาคม2522 เป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
และในเดือนกุมภาพันธ์ 2523 หลังจาก พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ลาออกจากนายกรัฐมนตรี เดือนมีนาคม 2523 พล.อ.เปรม ได้รับแต่งตั้งจากสภา ให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ าการกระทรวงกลาโหม และตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก และหลังจากนั้น 1 เดือน ในวันที่ 23 เมษายน 2523 จึงมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 เรื่อง “นโยบายการต่อสู้เพื่ อเอาชนะคอมมิวนิสต์” โดยเน้นการใช้การเมืองนำการทหาร เพื่อยุติสถานการณ์สงครามปฏิวั ติของคอมมิวนิสต์ และปฏิบัติต่อผู้เข้าร่วมกั บคอมมิวนิสต์ที่เข้ามามอบตัวอย่ างประชาชนร่วมชาติ และช่วยเหลือให้ใช้ชีวิตใหม่ร่ วมกันต่อไปในสังคมอย่างเหมาะสม
000
รายละเอียดคำสั่ง 66/2523
โดยรายละเอียดของคำสั่งสำนั กนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 มีรายละเอียดดังนี้
(สำเนา)
คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี
ที่ 66/2523
เรื่อง นโยบายการต่อสู้เพื่ อเอาชนะคอมมิวนิสต์
------------------------------ ------------------
1. ทั่วไป
1.1 สถานการณ์ของโลกได้เปลี่ ยนแปลงไปอย่างมากในห้วงเวลาที่ ผ่านมาได้เกิดวิกฤตการณ์ต่างๆ ทั่วทุกภูมิภาควิกฤตการณ์ดังกล่ าวเกิดจากปัญหาหลักในเรื่ องการขาดพลังงานความแตกต่างในดุ ลยอำนาจทางทหารของอภิ มหาอำนาจและความขัดแย้ งของโลกในค่ายสังคมนิยม สถานการณ์โดยทั่วไปได้เปลี่ ยนเข้าสู่สภาพการเผชิญหน้าในรู ปแบบของสงครามเย็นอันมี ผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิ ภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศไทยอย่างที่สุด
1.2 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยั งดำรงเจตนาอันแน่วแน่ ในการทำสงครามปฏิวัติเพื่อยึ ดอำนาจรัฐ โดยใช้เงื่อนไขประชาชาติประชาธิ ปไตยเป็นหลักและเงื่อนไขอื่นๆ ที่เปิดให้สนับสนุน ได้พลิกแพลงสถานการณ์ของโลกที่ เปลี่ยนแปลงไปให้เป็นประโยชนต่ อตน โดยให้ความสำคัญอย่างที่สุดต่ อการสร้างแนวร่วมทุกระดับเพื่ อสร้างสถานการณ์ปฏิวัติและสร้ างสถานการณ์สงครามต่างลัทธิ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญในการเปลี่ ยนความขัดแย้งภายในให้เป็ นสงครามประชาชาติ การปฏิบัติในท้องถิ่นได้เปลี่ ยนสภาพจากป่าพึ่งป่าเป็นป่าพึ่ งเมืองเพื่อสอดคล้องกั บนโยบายการสร้างแนวร่วมดังกล่าว ความแตกแยกทางความคิ ดในขบวนการโดยเฉพาะข้อสงสั ยในเรื่องความสำเร็จในการปฏิวั ติประชาธิปไตย โดยชนชั้นกรรมาชีพเป็นจุดอ่ อนสำคัญที่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้
1.3 รัฐบาลมีเจตนารมณ์ในการเทิดทู นและรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุ ขอย่างเคร่งครัดบริหารราชการแผ่ นดินโดยคำนึงถึงความผาสุ กของประชาชน ยึดมั่นในการประสานผลประโยชน์ ของคนในชาติและในเอกลักษณ์ที่ดี งามของไทยยึดถือหลักการแก้ไขปั ญหาทางเศรษฐกิจ การเมืองและสังคมโดยเที่ ยงธรรมและสันติวิธีรวมทั้งจะปลู กฝังให้คนไทยทุกคนยึดมั่นในอุ ดมการณ์ดังกล่าวโดยเฉพาะอย่างยิ่ งเกี่ยวกับเรื่องการเสี ยสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่ อผลประโยชน์ส่วนรวม ปฏิรูประบบราชการให้มีประสิทธิ ภาพในการรับใช้ประชาชน และให้สอดคล้องกั บการปกครองระบอบประชาธิปไตยให้ กองทัพมีบทบาท และหน้าที่สำคัญในการป้องกั นประเทศและรักษาไว้ซึ่ งเอกราชของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข รัฐบาลถือเป็นภาระหน้าที่สำคัญ และเร่งด่วนในการต่อสู้เพื่ อเอาชนะคอมมิวนิสต์อันเป็ นสาเหตุสำคัญยิ่งในการบั่ นทอนความมั่นคงของชาติ
2. วัตถุประสงค์
เพื่อยุติสถานการณ์สงครามปฏิวั ติของคอมมิวนิสต์อันมีความสำคัญ และเป็นภัยต่อความมั่นคงอย่างที่ สุดของประเทศให้เสร็จสิ้ นไปโดยเร็ว
3. นโยบาย
ต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ให้เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการรุกทางการเมืองอย่างต่ อเนื่อง เน้นหนักในการปฏิบัติทั้งปวง เพื่อลิดรอนทำลายขบวนการแนวร่ วมและกองกำลังติดอาวุธเพื่อยุติ สถานการณ์ปฏิวัติ ยับยั้งการปฏิบัติเพื่อสร้ างสถานการณ์สงครามประชาชาติด้ วยนโยบายเป็นกลาง และขยายผลจากโอกาสที่เปิดให้เพื่ อเปลี่ยนแนวทางการต่อสู้ด้ วยอาวุธมาเป็นการการต่อสู้ ในแนวทางสันติ
4. การปฏิบัติ
4.1 ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิ สต์จะต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้ นโดยรวดเร็ว หลีกเลี่ยงการปฏิบัติต่าง ๆ ซึ่งอยู่ในสภาพยืดเยื้ออันเป็ นความประสงค์ของฝ่ายตรงข้าม การจะเอาชนะดังกล่าวได้ โดยรวดเร็วจะต้องกลับเป็นง่ายรุ กทางการเมือง ซึ่งได้แก่การปฏิบัติทั้งสิ้นที่ ส่งผลให้ประชาชนสำนึกว่าแผ่นดิ นนี้เป็นของตนที่จะต้องปกป้องรั กษา ประชาชนมีส่วนในการเป็นเจ้ าของการปกครอง และได้ผลประโยชน์ ตลอดระยะเวลาของการต่อสู้เพื่ อเอาชนะคอมมิวนิสต์ งานการเมืองเป็นสิ่งชี้ขาด งานการทหารจะต้องสนับสนุนและส่ งเสริมให้บรรลุภารกิจงานการเมื องเป็นสำคัญ
4.2 ขจัดเหตุแห่งความไม่เป็ นธรรมในสังคมทุกระดับตั้งแต่ท้ องถิ่นถึงระดับชาติ ป้องกันและปราบปรามการทุจริ ตและประพฤติมิชอบในวงราชการอย่ างเฉียบขาด ทำลายการกดขี่ขูดรีดทิ้งสิ้น สร้างความปลอดภัยให้เกิดแก่ชีวิ ตและทรัพย์สินของประชาชน
4.3 กำหนดการปฏิบัติให้มี การประสานประโยชน์ระหว่างชนชั้น เสียสละผลประโยชน์ของชนชั้นเพื่ อประโยชน์ของส่วนรวม เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องมี จิตใจที่เป็นธรรม และเข้าใจปัญหาของประชาชนทุ กชนชั้นและสำนึกว่า ประชาชนไทยทุกชนชั้นต่างก็มีจิ ตใจรักประเทศชาติ และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อเทิ ดทูนไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอั นมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
4.4 ส่งเสริมประชาชนทุกกลุ่ม ทุกสาขาอาชีพให้ สามารถในการปกครองตนเอง ส่งเสริมและสนับสนุนให้ ประชาชนทุกชนชั้นและสาขาอาชี พได้มีส่วนร่วมทางการเมือง กำหนดวิธีการให้ได้รับรู้ปั ญหาของประชาชนให้ถือความต้ องการของประชาชนเป็นสิ่งสำคัญที่ สุดในการกำหนดแนวทางปฏิบัติ งานเพื่อตอบสนองความต้องการ
4.5 สนับสนุนการจัดตั้ งขบวนการประชาธิปไตยทั้งสิ้นที่ มีอยู่ โดยคำนึงถึงสิทธิและผลประโยชน์ ของกลุ่มชนนั้น ๆอันพึงจะมีให้ระมัดระวังและอย่ าสับสนระหว่างขบวนการประชาธิ ปไตยกับขบวนการคอมมิวนิสต์ที่ แอบแฝงโดยยกประชาธิปไตยนำหน้า
4.6 ภารกิจของเจ้าหน้าที่ทั้งพลเรื อน ตำรวจ ทหาร ในการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิ สต์ มีทั้งการต่อสู้โดยใช้กำลังอาวุ ธ และการปฏิบัติในด้านการเมืองด้ วยกันทั้งสิ้น ขอบเขตและระดับของการปฏิบัติ งานในการต่อสู้โดยใช้กำลังอาวุ ธอาจแตกต่างกันออกไปบ้างแต่ ภารกิจในด้านการเมืองซึ่งเป็ นเรื่องหลักมีความทัดเทียมกันทุ กประการ การปฏิบัติด้วยกำลังอาวุธให้พิ จารณาประเภท ขนาดกำลังและยุทธวิธีให้ เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้ นที่เพื่อกดดัน ลิดรอน ทำลาย กองกำลังติดอาวุธโดยต่อเนื่อง
4.7 ปฏิบัติต่อผู้ก่อการร้ายคอมมิ วนิสต์หรือผู้หลงผิดที่เข้ ามอบตัว หรือที่จับได้อย่างเพื่ อนประชาชนร่วมชาติ ชี้แจงเพื่อให้ได้เข้าใจถึ งนโยบายของรัฐบาลในปัญหานี้อย่ างถ่องแท้ช่วยเหลือให้ใช้ชีวิ ตใหม่ร่วมกันต่อไปในสังคมอย่ างเหมาะสม
4.8 ให้ความสำคัญการต่อสู้ในเมื องให้มากที่สุดเพื่อขจัดการจั ดตั้ง และขยายแนวร่วมตามแนวทางการเมื องสนับสนุนป่า และการขัดขวางการสร้างสถานการณ์ ปฏิวัติ และสถานการณ์สงครามประชาชาติ สถานการณ์ปฏิวัติมีรู ปแบบในการโดดเดี่ยว รัฐบาลจากประชาชนทำลายรัฐบาลให้ อ่อนแอ การทำลายหรือช่วงชิ งการนำขบวนการประชาธิปไตย อันเป็นศัตรูของคอมมิวนิสต์ การสร้างสถานการณ์ สงครามประชาชาติจะอาศัยแนวร่ วมซึ่งมีแทรกอยู่ทุกระดับเพื่ อสร้างประชามติ และนำชาติไปสู่การสงครามกั บประเทศเพื่อนบ้าน อันจะสนับสนุนให้พรรคคอมมิวนิ สต์แห่งประเทศไทยสามารถปฏิวัติ ได้สำเร็จ หากพรรคคอมมิวนิสต์แห่ งประเทศไทยบรรลุผลสำเร็จในการจั ดตั้ง และขยายแนวร่วมในเมืองได้ จะสามารถดำรงขี ดความสามารถในการรุกทางการเมือง สามารถสร้างความสับสนทางการเมื อง ความวุ่นวายในทางเศรษฐกิ จและสามารถสร้างกระแสคลื่ นของประชาชนส่วนใหญ่ไปแนวทางที่ ต้องการได้ จะต้องทำความเข้าใจว่าการสร้ างแนวร่วมในเมืองนี้ยากที่ จะมองเห็นได้แจ่มชั ดเพราะพรรคคอมมิวนิสต์แห่ งประเทศไทยจะดำเนินนโยบายอาศั ยตัวแทนในรูปแบบต่างๆ และการใช้เหตุการณ์เฉพาะกรณีให้ เป็นไปเสมือนการขัดแย้งโดยทั่ วไป นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง
4.9 การข่าว การจิตวิทยา ประชาสัมพันธ์ เป็นมาตรการอันสำคัญและให้ดำเนิ นการในลักษณะเชิงรุกอย่างมี แผนและสอดคล้องกับการปฏิบัติทุ กขั้นตอน
5. การบริหาร
5.1 การต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิ สต์นั้นเป็นภารกิจที่มีความสำคั ญต่อความมั่นคงของชาติ จึงเป็นหน้าที่รับผิดชอบสูงสุ ดของรัฐบาล ให้กระทรวง ทบวง กรมและองค์การต่างๆ กำหนดแผนโครงการ และการปฏิบัติทั้งสิ้นให้บรรลุ วัตถุประสงค์แห่งนโยบายนี้
5.2 สภาความมั่นคงแห่งชาติรับผิ ดชอบในการเสนอคณะรัฐมนตรี ในเรื่องอันเกี่ยวกับนโยบายที่ เกี่ยวข้อง
5.3 กองอำนวยการรักษาความมั่ นคงภายในเป็นกองอำนวยการเฉพาะกิ จ มีผู้อำนวยการป้องกันการกระทำอั นเป็นคอมมิวนิสต์ทั่วไป เป็นผู้บังคับบัญชารับผิ ดชอบในการปฏิบัติ งานตามนโยบายและการสั่งการ ตลอดจนการประสานงานของกระทรวง ทบวง กรม และองค์การที่เกี่ยวข้อง มีอำนาจหน้าที่ในการให้คุณให้ โทษที่เป็นผลต่อข้าราชการพลเรื อน ตำรวจ ทหารและบุคคลอื่น ๆ ซึ่งผู้อำนวยการป้องกั นการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ทั่ วไปได้แต่งตั้งจากส่วนราชการต่ าง ๆ มาปฏิบัติงาน
5.4 การสนับสนุนงบประมาณในการต่อสู้ เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์ ให้ถือว่ามีความเร่งด่วนเป็ นกรณีพิเศษ
5.5 บรรดาคำสั่ง ระเบียบ หรือข้อบังคับใดซึ่งขัดแย้งกั บคำสั่งนี้ให้ใช้คำสั่งนี้แทน
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
สั่ง ณ วันที่ 23 เมษายน พุทธศักราช 2523
พลเอก เปรม ติณสูลานนท์
(เปรม ติณสูลานนท์)
นายกรัฐมนตรี
แสดงความคิดเห็น