โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งแบนพลเรือนจาก 7 ประเทศมุสลิมเข้าสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ ทำให้มีผู้โดยสารเครื่องบินหลายคนถูกห้ามขึ้นเครื่องบิน ขณะที่บริษัทกูเกิลรีบเรียกพนักงานกลับประเทศ และสหภาพต่างๆ ตัดสินใจยื่นฟ้องร้องคัดค้านคำสั่งนี้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 27 ม.ค. ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 45 แห่งสหรัฐอเมริกา ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) ห้ามพลเรือนจาก 7 ประเทศมุสลิม ได้แก่ อิรัก, ซีเรีย, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน เดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นเวลาอย่างน้อย 90 วัน หรือจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง

ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทำเนียบข้าวเมื่อวันศุกร์ ดูเหมือนว่าคำสั่งล่าสุดของนายทรัมป์จะเป็นก้าวแรกของการห้ามเข้าประเทศอย่างเป็นวงกว้างมากขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่เปิดเผยว่าจะมีอีกกี่ประเทศที่จะโดยแบน แต่ย้ำว่ามาตรการนี้ก็เพื่อปกป้องอเมริกาให้ปลอดภัย และพวกเขาจะไม่ยอมให้มีความเสี่ยงใดๆ

คำสั่งนี้ยังรวมถึงให้กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ ทบทวนเป็นเวลา 30 วัน ว่าประเทศใดที่ไม่ให้ข้อมูลอย่างเพียงพอ สำหรับการออกวีซาเข้าสหรัฐฯ แก่พลเรือนของพวกเขา และหยุดรับผู้อพยพเข้าสู่สหรัฐฯ เป็นเวลา 4 เดือนด้วย กับลดจำนวนผู้อพยพที่สหรัฐฯ จะรับในปี 2017 ลงจาก 110,000 คน เหลือ 50,000 คน ซึ่งในระหว่างนั้นกระทรวงต่างประเทศของนายทรัมป์จะตรวจสอบกระบวนการขอและคัดกรองผู้อพยพที่จะเข้าสหรัฐฯ ซึ่งเดิมก็เข้มงวดอยู่แล้ว แต่นายทรัมป์ระบุว่ายังมีช่องโหว่ให้ผู้ก่อการร้ายใช้

นอกจากนั้น คำสั่งยังเรียกร้องให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศและความมั่นคงมาตุภูมิ, ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) พัฒนาและบังคับใช้กระบวนการคัดกรองผู้อพยพใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายลอบเข้าสู่สหรัฐฯ ด้วย


ชาวมุสลิมและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้อพยพออกมาชุมนุมต่อต้านนโยบายผู้อพยพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในนครนิวยอร์ก
ทั้งนี้ คำสั่งแบนผู้อพยพของนายทรัมป์ เริ่มส่งผลกระทบให้เห็นแล้ว โดยบริษัท กูเกิล ผู้ให้บริหารเว็บไซต์สืบค้นชื่อดังของโลก ดำเนินการเรียกตัวพนักงานของบริษัทที่กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ ให้กลับสหรัฐฯ ทันที พร้อมทั้งแสดงความกังวลว่า คำสั่งนี้จะเป็นการปิดกั้นไม่ให้บุคคลากรที่มีความสามารถเข้ามาทำงานในสหรัฐฯ

ขณะที่เมื่อวันเสาร์ (28 ม.ค.) มีรายงานว่า ผู้โดยสารชาวอิรักหลายคนและชาวเยเมน 1 คนถูกห้ามไม่ให้โดยสารเที่ยวบินในกรุงไคโร ที่มีจุดหมายไปยังนครนิวยอร์ก แม้ว่าบางคนจะถือกรีนการ์ด หรือ บัตรประจำตัวผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯ ก็ตาม ขณะที่ทนายความของชาวอิรัก 2 คน ที่ถูกจับกุมตัวหลังจากเดินทางมานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ ทั้งที่ได้วีซาเข้าสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องร้องประธานาธิบดีทรัมป์ และรัฐบาลของเขาแล้ว

ด้านสหภาพเสรีภาพพลเรือนอเมริกัน ระบุว่า พวกเขาได้ยื่นฟ้องร้องเพื่อคัดค้านคำสั่งแบนคนเข้าเมืองของประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว ส่วนสภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม ก็เตรียมยื่นฟ้องร้องด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน นักวิชาการชั้นนำในสหรัฐฯ จำนวนหลายพันคน รวมทั้งเจ้าของรางวัลโนเบล 12 คน ก็ร่วมลงนามคำร้องคัดค้านคำสั่งนี้

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.