ประชาไท Prachatai.com

ผู้ได้รับผลกระทบทันทีจากคำสั่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แบนคนเข้าเมืองจาก 7 ประเทศ คือผู้ที่ถือสัญชาติจาก 7 ประเทศที่กำลังเรียนหรือทำงานในสหรัฐอเมริกา ในจำนวนนี้มีผู้ที่อยู่ระหว่างเดินทางกลับสหรัฐอเมริกาด้วย โดยรายงานใน The Guardian มุรทาดา อัล-ทามินี (Murtadha Al-Tameemi) (ซ้าย) อายุ 24 ปี วิศวกรซอฟต์แวร์ของเฟซบุ๊กชาวอิรัก ซึ่งทำงานและอาศัยอยู่ที่ซีแอตเติล ในระหว่างที่เขาไปเยี่ยมญาติและมาชมการแสดงของน้องชายในแคนาดา ทนายความก็แจ้งให้เขาข้ามกลับมาที่สหรัฐอเมริกาทันที ทั้งนี้ครอบครัวชาวอิรักของทามินีอาศัยอยู่ใกล้กับแวนคูเวอร์ และพวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกเมื่อไหร่

ขณะที่ฮามาเซท์ ทายารี (Hamaseh Tayari) (ขวา) ผู้มีถิ่นพำนักในสกอตแลนด์ ถือหนังสือเดินทางอิหร่าน เมื่อสัปดาห์ก่อนเธออยู่ระหว่างท่องเที่ยวที่คอสตาริกากับแฟนหนุ่ม และมีกำหนดบินกลับกลาสโกว์ ในสกอตแลนด์เพื่อกลับไปทำงานสัตวแพทย์ แต่เธอถูกปฏิเสธให้ขึ้นเครื่องบินเนื่องจากเครื่องบินต้องไปพักที่นิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกา

ทายารี ซึ่งเติบโตในอิตาลี และไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อนบอกว่า เรื่องนี้ช็อกฉันมากๆ พวกเราได้พบกับเรื่องนี้ (คำสั่งแบนของโดนัลด์ ทรัมป์) เมื่อมาเช็คอินที่สนามบิน ฉันเรียกร้องให้ผู้คนตระหนักว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดกับผู้ลี้ภัยเท่านั้นแต่เป็นฉันเองซึ่งจบถึงปริญญาเอก "เรื่องนี้กระทบกับคนที่กำลังทำงานและเป็นผู้เสียภาษี"

อนึ่งเกิดโกลาหลไปทั่ว หลังโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีห้ามพลเมือง 7 ชาติมุสลิมเข้าเมืองเป็นเวลา 90 วัน ได้แก่ อิหร่าน อิรัก ซีเรีย เยเมน ซูดาน ลิเบีย และโซมาเลีย ทำให้มีผู้ติดค้างที่สนามบินทั่วโลก เนื่องจากถูกปฏิเสธขึ้นเครื่องบินเข้าสหรัฐ และมีผู้ถูกควบคุมตัวที่สนามบินสหรัฐทั้งที่มีเอกสารเดินทาง จนศาลรัฐบาลกลางสหรัฐอเมริกา ที่นิวยอร์กมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามรัฐบาลสหรัฐอเมริกาส่งตัวคนเข้าเมืองจาก 7 ชาติเหล่านี้ กลับไปยังประเทศต้นทางเพราะจะ "ได้รับอันตรายอย่างไม่อาจแก้ไขได้"

ทั้งนี้หลังมีคำสั่งของศาล ฮามีม คาลิด ดาร์วีช (Hameed Khalid Darweesh) ล่ามประจำกองทัพสหรัฐอเมริกาชาวอิรัก ก็ได้รับการปล่อยตัวหลังถูกควบคุมตัวในสนามบิน 19 ชั่วโมง เมื่อเขาเจอนักข่าวก็ถึงกับปล่อยโฮ และเอามือไพล่หลังเหมือนท่าถูกสวมกุญแจมือ เขากล่าวด้วยว่า "สิ่งที่ผมทำเพื่อประเทศนี้คืออะไร พวกเขากลับสวมกุญแจมือผม?"

ขณะที่ชาวอิรักอีกคนที่ได้รับการปล่อยตัวคือ ไฮเดอร์ ซาเมียร์ อับดุลคาเล็ก อัลชาวี (Haider Sameer Abdulkhaleq Alshawi) ซึ่งกำลังเดินทางไปเมืองฮุสตัน ก็ได้รับการปล่อยตัวเมื่อคืนวันเสาร์ โดยกรณีของอัลชาวีนั้น เป็นผู้ได้รับวีซ่าให้เข้าสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้ามาอยู่กับภรรยาและลูกชายที่มีสถานะผู้ถือกรีนการ์ด

อ่านต่อที่ http://prachatai.org/journal/2017/01/69835

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.