ผู้เสนอเก็บภาษีหุ่นยนต์-ได้เป็นตัวแทนพรรคสังคมนิยมชิงเลือกตั้ง ปธน.ฝรั่งเศส
Posted: 29 Jan 2017 05:32 PM PST   (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)  
ผลการเลือกตั้งขั้นต้นในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส ‘เบอนัว อามง’ ผู้สมัครปีกซ้ายเอาชนะคู่แข่งสายกลางได้ โดย ‘อามง’ ชูนโยบายเก็บภาษีหุ่นยนต์ จ่ายเงินเดือนพื้นฐานสำหรับทุกคน และทำให้กัญชาถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตามคู่แข่งของเขาคือผู้นำขวาจัดอย่าง ‘มารีน เลอ แปน’ ที่กำลังมาแรง และยังมี ‘เอมมานูเอล มาครอง’ อดีตแกนนำพรรครัฐบาลที่ผันตัวเป็นผู้สมัครอิสระ
ขณะที่ ‘ฟ​ร็องซัว ฟียง’ จากพรรคขวากลาง เดิมมีเส้นทางสดใส ตอนนี้กำลังลำบากเพราะถูกแฉว่ายักยอกเบี้ยเลี้ยงสภา ส่วนภรรยาได้รับเงิน 5 แสนยูโรจากการจ้างงานปลอม

(ซ้าย) เบอนัว อามง ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส จากพรรคสังคมนิยม (ที่มา: Ulysse Bellier/Wikipedia) (ขวา) หุ่นยนต์ TOPIO ในงานนิทรรศการหุ่นยนต์นานาชาติที่กรุงโตเกียวเมื่อปี 2009 (ที่มา: Humanrobo/Wikipedia)

30 ม.ค. 2060 ที่ฝรั่งเศส ซึ่งจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส รอบแรกในวันที่ 23 เมษายน และรอบสองในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ โดยความคืบหน้าล่าสุด พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส (PS) ได้ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตัวทนพรรคแล้ว หลังผ่านการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรครอบที่สอง เมื่อวันที่ 29 มกราคม
ผลปรากฏว่า เบอนัว อามง (Benoit Hamon) ผู้สมัครปีกซ้ายของพรรค ซึ่งเสนอนโยบายจ่ายเงินเดือนพื้นฐาน (basic income) เก็บภาษีหุ่นยนต์ และให้กัญชาถูกกฎหมาย มีคะแนนนำและกำลังจะได้เป็นว่าที่ผู้สมัครประธานาธิบดีจากพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส
ทั้งนี้เขาได้คะแนนถึงร้อยละ 58 ขณะที่คู่แข่งคืออดีตนายกรัฐมนตรีสายกลางซ้ายคือ มานูเอล วาลส์ (Manuel Valls) ได้คะแนนร้อยละ 42 ทั้งนี้จากรายงานของ The Guardian
เมื่อเปรียบเทียบกับผลการเลือกตั้งขั้นตอนรอบแรก ซึ่งอามงได้ร้อยละ 36 และวาลส์ได้ 31 ก็สะท้อนว่าเป็นชัยชนะของฝ่ายซ้ายกบฎในพรรคที่ต่อต้านการสนับสนุนกลไกตลาด และนโยบายสายกลางของรัฐบาลฟร็องซัว ออลล็องด์ ซึ่งผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายเองก็มองว่าเป็นประธานาธิบดีจากพรรคสังคมนิยมที่ดำเนินนโยบายล้มเหลว
ทั้งนี้การเลือกตั้งขั้นต้นหรือ "ไพรมารีโหวต" เป็นการแข่งขันกันระหว่างสองปีกภายในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส ปีกหนึ่งเป็นพรรคสังคมนิยมสายเด็ดเดี่ยวของพรรคที่ต่อต้านการอุดหนุนธุรกิจ อีกปีกหนึ่งเป็นพรรคสังคมนิยมสายของพรรครัฐบาลฝรั่งเศสปัจจุบัน ที่ต้องการเห็นพรรคไปในแนวทางของพรรคแนวพรรคแรงงาน
อามง ปราศรัยกับผู้สนับสนุนว่าพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสยังคงรู้สึกภาคภูมิได้อีกครั้ง และกล่าวด้วยว่าเขาต้องการเป็นตัวแทนของฝ่ายซ้ายในการนำพาไปสู่อนาคต และต้องการได้รับชัยชนะ
"ผมเชื่อว่าจะต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เป็นพวกอนุรักษ์นิยมฝ่ายขวา ที่เป็นตัวแทนของอภิสิทธิ์ และพวกฝ่ายขวาจัดทำลายล้าง แต่ประเทศของเราต้องการฝ่ายซ้ายที่มองโลกอย่างที่โลกเป็น ไม่ใช่มองโลกอย่างที่โลกเคยเป็น ฝ่ายซ้ายจะนำพาไปสู่อนาคตที่ประชาชนต้องการ"
ด้านวาลส์ได้ประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งยังระบุว่ามีความจำเป็นที่พรรคจะต้องกลับมาร่วมกันอีกครั้ง พร้อมอวยพรให้อามง "โชคดี"

 

กบฏในพรรครัฐบาล ก่อนสามารถเอาชนะเป็นตัวแทนพรรคสังคมนิยมได้อีกครั้ง

ทั้งนี้การหาเสียงที่ผ่านมาของเบอนัว อามง คือการฟื้นฟูแรงสนับสนุนพรรคสังคมนิยมอีกครั้ง หลังจากที่ผู้ลงคะแนนให้พรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสจำนวนรู้สึกว่าช่วงที่ฟร็องซัว ออลล็องด์เป็นรัฐบาลนั้นทั้งยุ่งเหยิงและหายนะ โดยออลล็องด์ถูกกล่าวหาว่าดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบซิกแซ็กและทรยศอุดมการณ์สังคมนิยม โดยออลล็องด์เป็นผู้นำที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยผลสำรวจความนิยมเขาได้รับคะแนนเพียงร้อยละ 4 และออลล็องด์ได้ประกาศเมื่อเดือนก่อนว่าจะไม่ลงสมัครเลือกตั้งชิงประธานาธิบดีอีก
ความท้าทายต่อไปของอามงคือ พยายามหยุดยั้งการแตกแยกภายในพรรคสังคมนิยมระหว่างปีกซ้ายและสายกลางในพรรค หลังจากนั้นเขาจำเป็นต้องพิสูจน์ว่าเขาจะมีที่ทางในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งก่อนหน้านี้คาดหมายว่าพรรคสังคมนิยมมีโอกาสน้อยมากที่จะได้คะแนนนิยมในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกในวันที่ 23 เมษายนนี้ เพื่อที่จะได้ชิงชัยในการเลือกตั้งรอบสอง ในวันที่ 7 พฤษภาคมต่อไป
ในรายงานของ The Guardian เสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในฝรั่งเศสเทไปทางพรรคฝ่ายขวา ในขณะที่พรรคสังคมนิยมมีความเป็นไปได้ที่จะคะแนนเป็นอันดับ 5 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรก
โดยผลสำรวจความนิยมในขณะนี้ ผู้นำขวาจัดอย่าง มารีน เลอ แปน (Marine Le Pen) จากพรรคแนวร่วมชาตินิยม (FN) ยังคงมีคะแนนนำอยู่เหนือผู้สมัครจากพรรคขวากลาง อดีตนายกรัฐมนตรีอย่าง ฟร็องซัว ฟียง (François Fillon) เป็นผู้สมัครตัวแทนจากพรรคสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Les Républicains) ซึ่งกำลังประสบความยากลำบากจากเรื่องอื้อฉาว โดยในรายงานของอัลจาซีราเปิดเผยว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (25 ม.ค.) มีหนังสือพิมพ์รายงานว่าภรรยาของเขาได้รับเงินราว 500,00 ยูโรเป็นเวลา 8 ปี โดยเป็นการจ้างงานปลอมในตำแหน่ง “ผู้ช่วยในรัฐสภา” นอกจากนี้เมื่อวันอาทิตย์มีรายงานเชิงสืบสวนสอบสวนลงสื่อ กล่าวหาว่าในช่วงที่เขาเป็นวุฒิสมาชิกได้ยักยอกเงินเบี้ยเลี้ยงของรัฐสภาไปกว่า 25,000 ยูโร
ส่วนเอมมานูเอล มาครอง (Emmanuel Macron) อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลออลล็องด์ ก็แยกตัวจากพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส และลงสมัครในนามผู้สมัครอิสระ และถือแนวทางสายกลาง ซึ่งกำลังได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นและมีความเป็นไปได้ที่จะทะลุไปถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบสอง นอกจากนี้มีแนวโน้มว่านักการเมืองในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสอาจกระโดดเข้าร่วมกับมาครอง ภายหลังจากที่อามงชนะการเลือกตั้งภายในพรรค
นอกจากนี้ฝ่ายซ้ายจัดอย่าง ฌอง ลุค เมลองชง ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคซ้าย (PG) ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในการสำรวจความนิยมและดึงคะแนนเสียงมาจากผู้สนับสนุนพรรคสังคมนิยมอีกด้วย

ชูนโยบายลดชั่วโมงทำงาน เก็บภาษีหุ่นยนต์ เงินเดือนพื้นฐาน กัญชาถูกกฎหมาย

สำหรับเบอนัว อามง อายุ 49 ปี เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นหัวหอกของ ส.ส.ปีกซ้ายภายในพรรครัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับประธานาธิบดีออลล็องด์ที่หันมาใช้นโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจ โดยอามงถูกปลดออกจากตำแหน่งในรัฐบาลในปี 2014 หลังจากที่เขาต่อต้านนโยบายสนับสนุนเศรษฐกิจแบบตลาดของประธานาธิบดีออลล็องด์ และอดีตนายกรัฐมนตรีวาลส์ และหลังจากนั้นอามงก็เป็นผู้นำ ส.ส. คัดค้านการผลักดันของประธานาธิบดีออลล็องด์ที่ต้องการแก้ไขกฎหมายแรงงานฝรั่งเศส
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งภายในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส อามงเป็นผู้สมัครที่อายุน้อยที่สุด และมีข้อเสนอซ้ายกว่าบรรดาผู้สมัครคนอื่น นอกจากนี้เขาเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเข้ามามีส่วนร่วมด้วยการจ่ายเงินสนับสนุน 1 ยูโรและกรอกแบบฟอร์มว่าจะยึดมั่นคุณค่าของฝ่ายซ้ายด้วย
ทั้งนี้อามงชูนโยบายหาเสียงว่า ต้องการลดเวลาทำงานลงจาก 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เป็น 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เก็บภาษีหุ่นยนต์ที่ถูกนำมาใช้ทำงาน และจ่ายเงินเดือนขั้นพื้นฐาน (basic income) เริ่มต้นกับผู้มีอายุระหว่าง 18 ถึง 25 ปี ก่อนขยายไปยังประชาชนฝรั่งเศสทุกคน เขาเชื่อว่านโยบายเงินเดือนพื้นฐานจะช่วยชดเชยโอกาสการจ้างงานที่หดน้อยลง อันเนื่องมาจากการเข้าสู่ยุคอัตโนมัติ (age of automation) ที่หุ่นยนต์เริ่มเข้ามาทำงานแทนมนุษย์
ทั้งนี้อามงเสนอว่าจะต้องจ่ายเงินเดือนพื้นฐานให้กับทุกคน โดยไม่คำนึงว่าจะมีรายได้มากน้อยเท่าไหร่ โดยคาดว่าเงินเดือนพื้นฐานจะอยู่ที่ 750 ยูโรต่อราย ทั้งนี้เขายังกล่าวหานักการเมืองทั้งฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวาที่บิดเบือนความเป็นรัฐฆราวาสของฝรั่งเศสนำไปใช้เล่นงานชาวมุสลิมฝรั่งเศส
โดยในช่วงการเลือกตั้งขั้นต้นภายในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส มีการเปรียบเทียบอามง กับเยเรมี คอร์บิน ( Jeremy Corbyn) ผู้นำพรรคแรงงานของอังกฤษด้วย อย่างไรก็ตาม อามงซึ่งเคยกล่าวยกย่องคอร์บิน ก็มีความแตกต่างจากผู้นำพรรคแรงงานอังกฤษอย่างมาก โดยอามงซึ่งสนับสนุนการอยู่ร่วมกับสหภาพยุโรปอายุน้อยกว่าคอร์บินถึง 20 ปี เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลฝรั่งเศส เป็นสมาชิกรัฐสภายุโรป และเคยเป็นโฆษกพรรคสังคมนิยมอีกด้วย
ทั้งนี้งานเร่งด่วนของอามง ก็คือการหาเสียงเลือกตั้งโดยที่เน้นให้พรรคมีบทบาทรองจากเขาให้มากที่สุด โดยภายหลังจากที่โน้มน้าวให้สายฮาร์ดไลน์ในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสให้สนับสนุนเขาในเรื่องนโยบายสิ่งแวดล้อมและมาตรการต่อเรื่องภาวะโลกร้อนแล้ว เขายังต้องโน้มน้าวผู้สมัครจากพรรคกรีน ยานนิก ยาโดต์ (Yannick Jadot) ให้เลิกชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและหันมาเข้าร่วมกับเขาด้วย
แต่สิ่งที่ชวนปวดหัวสำหรับพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสก็คือ นักการเมืองภายในพรรคปีกที่สนับสนุนมานูเอล วาลส์ จะหันไปสนับสนุนเอมมานูเอล มาครอง อดีตแกนนำพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสที่ลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในนามผู้สมัครอิสระ โดยพวกเขาเห็นว่าเป็นเพียงโอกาสเดียวที่พรรคสังคมนิยมสายกลางจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ทั้งนี้คู่แข่งของอามง คือวาลส์มักจะเอ่ยถึงขั้วที่ “เข้ากันไม่ได้” ภายในพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศส โดยในช่วงชิงชัยกันเป็นผู้แทนของพรรค วาลส์กล่าวหาอามงว่าเป็นพวกอุดมคติ ความคิดอย่างวาดวิมานในอากาศไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง และเตือนว่าอามงจะพาพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสไปสู่ความล้มเหลวและนำไปสู่ยุคแห่งความว่างเปล่านับสิบปี
วาลส์กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาไม่อาจช่วยปกป้องแนวทางของอามงได้ และกล่าวว่าถ้าอามงชนะเขาจะไม่ไปช่วยสนับสนุนในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่เขาจะถอนตัวจากการลงสมัครประธานาธิบดีแทน

แปลและเรียบเรียงจาก
French Socialists choose leftwing rebel Benoît Hamon for Élysée fight, Angelique Chrisafis, The Guardian, Sunday 29 January 2017 20.23 GMT

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.