ศาลสั่งพิจารณาใหม่ทั้งหมดคดีฟ้องเรียกค่าสินไหม เหตุ จนท.ยิง 'อับดุลอาซิ สาและ' ตาย

Posted: 24 Jan 2017 11:05 PM PST  (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)

ศาลจังหวัดปัตตานีสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ทั้งหมด ในคดีที่โอนมาจากศาลปกครอง คดีมารดาผู้ตาย ฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพบก และสำนักนายกรัฐมนตรี เรียกค่าเสียหายกรณี อับดุลอาซิ สาและ ถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต

25 ม.ค. 2560 มูลนิธิผสานวัฒนธรรม แจ้งว่า เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดปัตตานีมีคำสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใหม่ทั้งหมดโดยเริ่มตั้งแต่การยื่นคำฟ้องคดีเข้ามาใหม่ ในคดีที่ แยนะ สะอะ มารดา อับดุลอาซิ สาและ (ผู้ตาย) ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองสงขลาไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2557 เพื่อเรียกค่าสินไหมทดแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กองทัพบก(ทบ.) และสำนักนายกรัฐมนตรี

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมระบุว่า เหตุเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2556 เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารปิดล้อมตรวจค้น หมู่บ้านกําปงบือราแง อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ได้ควบคุมตัว อับดุลอาซิ สาและ จากบ้านไปยังสวนยางพาราหลังบ้านแล้วเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยิง อับดุลอาซิ ถึงแก่ความตาย ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองสงขลาได้รับฟ้องโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ แยนะ ผู้ฟ้องคดี และฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสามหน่วยงานดังกล่าวก็ได้ยื่นคำให้การต่อศาลปกครองสงขลาแล้ว กระทั่งต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2559 ศาลปกครองสงขลาได้โอนคดีมายังศาลจังหวัดปัตตานี

ศาลจังหวัดปัตตานีจึงได้นัดพร้อมในวันที่ 23 ม.ค. 2560 แยะนะ ผู้ฟ้องคดีซึ่งต่อไปในศาลจังหวัดปัตตานีจะเรียกว่า โจทก์ มาศาลพร้อมทนายความ แต่ผู้ถูกฟ้องคดีหรือจำเลยไม่ได้มา และศาลชี้แจงว่าศาลไม่ได้มีหมายเรียกให้ฝ่ายจำเลยมาเนื่องจากโจทก์ต้องทำคำฟ้องยื่นต่อศาลใหม่ หลังจากนั้นจึงจะได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยเพื่อทำคำให้การแก้คดีภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำฟ้อง

ในระหว่างการพิจารณาคดี ทนายความโจทก์ ได้หารือกับศาลว่า เนื่องจากคดีนี้ได้ดำเนินมาตั้งแต่ศาลปกครองสงขลาเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปีแล้ว ศาลปกครองก็ได้รับฟ้อง ไต่สวนและมีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดให้แก่ผู้ฟ้องคดี รวมทั้งได้รับคำให้การของผู้ถูกฟ้องคดีไว้แล้ว วิธีที่จะดำเนินคดีนี้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นคือ ศาลจังหวัดปัตตานีซึ่งได้รับโอนคดีมา สามารถนำกระบวนการพิจารณาคดีที่ศาลปกครองได้ดำเนินมามีทั้งคำฟ้อง คำให้การ ของคู่ความทั้งสองฝ่ายดังกล่าวแล้ว มาดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไปได้ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล มาตรา 13 ซึ่งให้ถือว่ากระบวนการพิจารณาที่ได้ดำเนินการไปแล้วในศาลที่มีคำสั่งโอนคดีเป็นกระบวนการพิจารณาของศาลที่รับโอนคดีด้วย เว้นแต่ศาลที่รับโอนคดีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ทนายความโจทก์จึงประสงค์ให้ศาลใช้ดุลพินิจดำเนินคดีตามวิธีการดังกล่าว โดยไม่ต้องเริ่มต้นให้โจทก์ยื่นคำฟ้อง คำร้องขอยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล และไม่ต้องให้จำเลยยื่นคำให้การใหม่ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาอีกนานพอสมควร ซึ่งศาลสามารถกำหนดนัดวันชี้สองสถานและนัดพร้อมเพื่อกำหนดวันสืบพยานต่อไปได้เลย

ศาลได้ชี้แจงว่า ส่วนตัวของศาลเองเห็นด้วยกับทนายความโจทก์ แต่เนื่องจากทางศาลยุติธรรมมีนโยบายให้คดีที่ได้รับโอนมาดังกล่าวมีการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีใหม่ตามรูปแบบขั้นตอนของศาลยุติธรรม ศาลจึงต้องดำเนินการตามนโยบาย

ศาลจังหวัดปัตตานีจึงได้มีคำสั่งให้โจทก์ทำคำฟ้องใหม่ยื่นต่อศาลให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 1 เดือน หรือ ภายในวันที่ 23 ก.พ. นี้

ติดตามเรื่องราวที่ผ่านมาของคดีได้ที่ Facebook page ของ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม Cross Cultural Foundation(CrCF) หรือ https://voicefromthais.wordpress.com//2016/12/02/คำสั่งชี้ขาดฯ-ให้คดีอยู่

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.