‘ฅนรักษ์บ้านเกิด จ.เลย’ ร้อง กสม.เร่งสอบหน่วยงานฟื้นฟูพื้ นที่รอบเหมืองทองหลังเพิกเฉย
Posted: 27 Jan 2017 09:15 AM PST (อ้างอิงจากอีเมล์ข่าว เวบไซท์ประชาไท)
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด จ.เลย ร้องคณะกรรมการสิทธิฯ เร่งสอบหน่วยงานฟื้นฟูเหมื องทองคำเหตุเพิกเฉยปัญหา ระบุตอนนี้ชาวบ้านยังไม่ไว้ วางใจ พร้อมอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง กรณียกฟ้องเพิกถอนประทานบัตรแร่
ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ
27 ม.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ เมื่อ เวลา 9.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุ ษยชนแห่งชาติ ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นกลุ่มที่คัดค้ านการทำเหมืองแร่ทองคำที่บริ เวณดังกล่าว ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการสิ ทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อเร่งกระบวนการแก้ ไขสภาพแวดล้อมรอบเหมืองแร่ทองคำ หลังมีคำสั่งหัวหน้าคณะรั กษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) 72/2559 เรื่อง การแก้ไขปั ญหาผลกระทบจากการประกอบกิ จการเหมืองแร่ทองคำแล้ว แต่ยังไร้หน่วยงานรับผิดชอบ
จากนั้นตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้ านเกิด ได้เดินทางไปยื่นอุทธรณ์ต่ อศาลปกครอง กรณียกฟ้องเพิกถอนประทานบัตรแร่ เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คำสั่ง หัวหน้า คสช. ที่ 72/2559 ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2559 ในข้อ 2 ตามคำสั่งดังกล่าว ระบุว่า ให้ผู้มีอำนาจในการออกประทานบั ตร ใบอนุญาตประกอบโลหะกรรม ระงับการอนุญาตให้ สำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำในปี 2560 แต่กลุ่มกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ระบุว่า หลังจากมีการร้องเรียนว่ าการประกอบกิจการส่งผลกระทบต่ อสิ่งแวดล้อมและประชาชนรอบบริ เวณ อ.วังสะพุง จ.เลย ในปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหา ไม่ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยาธรรมชาติและสิ่ งแวดล้อม กรมป่าไม้ สาธารณสุขจังหวัดเลย ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ฯลฯ ทำให้กลุ่มต้องเข้ายื่นหนังสื อต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ งชาติเพื่อเป็นกลไกให้เกิ ดกระบวนการแก้ไขปัญหาผลกระทบ
พรทิพย์ หงส์ชัย ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด กล่าวว่า สำหรับเหมืองแร่เมืองได้ปิดกิ จการมา 4 ปีแล้วด้วยความเข้มแข็งของชาวบ้ าน ตอนนี้หากดูตามคำสั่ง หัวหน้า คสช. ยังมีช่องทางหลายช่องทางให้เหมื องเปิดกิจการต่อได้ ทำให้ชาวบ้านเกิดความไม่ไว้ วางใจ วันนี้จึงเข้ายื่นหนังสือต่ อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่ งชาติ เพื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้ องทั้งระดับนโยบาย ระดับจังหวัด ไม่ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม กรมอุตสาหกรรมพื้ นฐานและการเหมืองแร่ ผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่ วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมการสิทธิ์ ในกรณีฟื้นฟู ตามคำสั่งของ คสช. ว่าหน่วยงานที่ได้รั บมอบหมายทำอะไรแล้วบ้าง เพราะปัจจุบัน แหล่งน้ำ ทรัพยากรธรรมชาติที่ปนเปื้อนยั งไม่ได้รับการดูแล
พรทิพย์ ระบุว่า ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งระดับจังหวัด นโยบาย ต่างเพิกเฉยอยู่ ซึ่งตามความเป็นจริงต้องเข้ ามาดูแลเพราะความเดือดร้ อนของชาวบ้าน ประเด็นเรื่องความขัดแย้ง สุขภาวะ สิ่งแวดล้อม รอบเหมืองทองคำย่ำแย่มาตลอด 10 ปี ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องเข้ ามาพูดคุยกับชาวบ้าน
กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้เดิ นทางเข้ายื่นอุทธรณ์ต่ อศาลปกครอง
ในวันเดียวกันเวลา 10.30 น. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดได้เดิ นทางเข้ายื่นอุทธรณ์ต่ อศาลปกครองจากกรณี คดีดำหมายเลข ส.1544/2556 หมายเลขแดงที่ ส.816/2558 ผู้ฟ้องคดี คือ สราวุธ พรหมโสภา กับพวกรวม 589 คน ฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุ ตสาหกรรม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 อธิบดีอุตสาหกรรมพื้ นฐานและการเหมืองแร่ และ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 บริษัท ทุ่งคำ จำกัด เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่ วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้ วยกฎหมายและละเลยต่อหน้าที่ ตามกฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติล่าช้าเกินสมควร ซึ่งศาลพิจารณาให้ยกฟ้องเมื่อ 28 ธ.ค. ที่ผ่านมา
สุรพันธุ์ รุจิไชยวัฒน์ ตัวแทนกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด กล่าว่า เดิมทีที่เริ่มฟ้องคดี เพราะชาวบ้านรู้สึกไม่ได้รั บความเป็นธรรม อีกทั้งเรื่องผลกระทบที่ยังไม่ ได้รับการพิจารณาทั้งหมด ขณะคำตัดสินของศาลครั้งก่อนที่ ยกงานวิจัยของ จุฬามาเปรียบเทียบ แต่พื้นทีที่ได้รับผลกระทบกลั บไม่ถูกนำมาเปิดเผย ทางชาวบ้านจึงยื่นเอกสารเพิ่ มเติมเรื่องผลกระทบอีกทั้งคำสั่ งของรัฐบาลก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่ าผลกระทบนั้นมีจริง แต่คำตัดสินสวนทางกับคำสั่งรั ฐว่า บริษัทสามารถเดินหน้าประกอบกิ จการต่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชาวบ้ านเพราะประทานบัตรหมดอายุปี 2571 จึงอยากให้ศาลพิจารณาเรื่ องผลกระทบ ดูข้อเท็จจริงเพิ่มเติ มนอกจากงานวิจัยของ จุฬาฯที่ตรวจสอบผลกระทบเพียงจุ ดเดียว
ขณที่ ส.รัตมณี พลกล้า ทนายความของกลุ่มนี้ เผยว่า ตอนนี้ศาลปกครองกลางต้องส่งคำอุ ทธรณ์และสำนวนคดีไปให้ ศาลปกครองสูงสุดเพื่อตรวจสำนวน ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมรอคำสั่งถึงผู้ฟ้องว่ าศาลได้รับอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดี แล้ว จากนั้นศาลจะส่งคำอุทธรณ์ทั้ งหมดไปให้กับผู้ถูกฟ้องคดีทั้ งสามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่ งต้องทำสำนวนคัดค้าน คำอุทธรณ์ส่งกลับมา ทั้งหมดเป็นกระบวนการโต้ตอบด้ านเอกสาร ขั้นตอนต่อไปก็แล้วแต่ ศาลปกครองสูงสุดในการแสวงหาข้ อเท็จจริงเพิ่มเติม ก่อนมีคำสั่งสิ้นสุดแสวงหาข้ อเท็จจริงเพื่อกำหนดวันพิ จารณาคดีครั้งแรกและกำหนดวันฟั งคำพิพากษาต่อไป
แสดงความคิดเห็น