บทเรียน 6 ตุลา 2519 กับประชาธิปไตย: คำกล่าวสดุดีวีรชน 6 ตุลา ของ ดร.โสภณ พรโชคชัย
. . . วันที่ 6 ตุลาคม 2519 เป็นวันที่นักศึกษาประชาชนถูกป้ายสีว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและเป็นคอมมิวนิสต์ จึงถูกเข่นฆ่าบาดเจ็บล้มตายมากมาย เป็นการฆ่าเพื่อความมั่นคงของระบอบเผด็จการทรราช เสมือนการฆ่าสัตว์บูชายัญก็ไม่ปาน จากนั้นจึงสบโอกาสก่อรัฐประหารฟื้นคืนระบอบเผด็จการทรราชและกวาดล้างประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ประชาชนต้องร่วมกันกำจัดวงจรอุบาทว์ทางการเมืองเช่นนี้
. . . ประวัติศาสตร์ 6 ตุลา ชี้ให้เห็นชัดว่า ระบอบเผด็จการทรราชเป็นสิ่งเลวทรามต่ำช้า สร้างคนดีไม่ได้ แก้ไขปัญหาประชาชนและพัฒนาประเทศชาติไม่ได้ ระบอบนี้:
. . .1. สร้างได้แต่ข้าราชการที่เป็นเจ้าคนนายคน ไม่คิดรับใช้ประชาชน ถ้าชาติล่มจม พวกมันก็พาครอบครัวหนีตายก่อนดังที่เห็นในช่วงสงครามอินโดจีน
. . . 2. สร้างได้แต่ระบบอุปถัมภ์ ทุจริตแบบบุฟเฟต์เฉกเช่นแร้งลง หากใครตรวจสอบ ก็กลับถูกป้ายสีข้อหาหนัก
. . . 3. สร้างได้แต่ 'อาจม' มหา'ลัยที่โกงเวลานักศึกษาไปหากินส่วนตัว หรือไม่ก็ไปเลียผู้มีอำนาจไต่เต้าเอาลาภยศสักการะ
. . . 4. สร้างได้แต่อาคารสถานที่ราชการใหญ่โตและสวยงามยิ่งกว่าสำนักงานใหญ่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อไว้ใช้สอยกันเอง
. . . 5. สร้างได้แต่บ้านพักข้าราชการราคาแสนแพงไว้ให้พวกหัวโจกเสพสุข
. . . 6. สร้างได้แต่หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ชาติ เช่น จัดซื้ออาวุธ
. . . 7. สร้างได้แต่ระบบภาษีที่รีดนาทาเร้นกับประชาชน แต่ทีกับพวกเดียวกัน เช่น ภาษีมรดกกลับเก็บไม่ได้สักบาท
. . . 8. สร้างระบบการแจกเศษเงินฟาดหัวไปวันๆ
. . . 9. สร้างได้แต่ความดีจอมปลอมแบบ "คุณหญิงคุณนาย" ในอดีต กับ CSR แบบจอมปลอมในยุคนี้ที่ไม่ได้สร้างสรรค์อะไรดีๆ เป็นชิ้นเป็นอัน แต่คนเสแสร้งทำดีกลับได้ดี ก็เท่านั้น
. . . ระบอบเผด็จการทรราช มุ่งแต่จะลดทอนระบบสวัสดิการสังคม เช่น ค่ารักษาพยาบาลของประชาชน 48 ล้านคน มีงบประมาณเพียงปีละ 128,533 ล้านบาท (http://bit.ly/2fGtUI) หรือเฉลี่ยคนละ 2,700 บาทต่อปี แต่กับข้าราชการ 10 ล้านคน กลับได้ปีละ 70,000 ล้านบาท (http://bit.ly/2hHsdxW) เฉลี่ยคนละ 7,000 บาทต่อปี ระบอบเผด็จการทรราชยังเบื่อเมาประชาชนให้จมอยู่กับความสุขชั่วแล่น (Hedonism) และการถือประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง (Self-Centredness) เช่น ในยุคหลังปีกึ่งพุทธกาล ก็มอมเมาให้นักศึกษาสนุกไปกับงานราตรีสโมสรเพื่อไม่ให้ลุกฮือขึ้นต่อต้าน ทำให้เกิดพวก "สายลมแสงแดด" ฮิปปี้ บุบผาชน มาถึง “ฮิปสเตอร์” ในยุคสมัยนี้
. . . จะสังเกตได้ว่าการทุจริตในระบอบเผด็จการทรราชเกิดขึ้นเพราะขาดกลไกการตรวจสอบจากประชาชนนั่นเอง อันที่จริงรัฐบาลที่ดีที่ประชาชนคาดหวัง จะต้องให้เบ็ด ไม่ใช่ให้ปลา ต้องทำให้ประชาชนได้ลืมตาอ้าปาก มีอิสรภาพทางการเงิน มีอิสรภาพทางความคิด ไม่พึ่งต่อระบอบเผด็จการทรราช ไม่กินน้ำใต้ศอกข้าราชการ เช่น
. . . 1. ให้ทุนหมุนเวียนไปประกอบอาชีพ เพื่อต่อยอดรายได้ พร้อมให้ช่องทางทำมาหากิน
. . . 2. แปลงสินทรัพย์เป็นทุนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต
. . . 3. ให้ทุนทางความคิด ให้ทุนการศึกษาทุกอำเภอ หรือแจกคอมพิวเตอร์ให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเอง
. . . 4. ให้ทุนด้านสุขภาพ โดยการรักษาพยาบาลฟรี
. . . 5. สร้างสวัสดิภาพประชาชน เช่น ปราบยาบ้า หวยเถื่อนให้ราบคาบ เป็นต้น
. . . ระบอบเผด็จการทรราช มักจะดูถูกประชาชน เช่น
. . . 1. หาว่าประชาชนเป็นทาสของนักการเมือง แต่อย่างน้อย พวกที่หยามว่า "ทาส" ก็เลือกเอง "นายทาส" เอง ไม่ใช่ถูกบังคับ ข่มขู่ มอมเมาให้เป็นทาส
. . . 2. หาว่าประชาชนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ทั้งที่ในประวัติศาสตร์โลก ไม่เคยมีกรณีใดที่คนส่วนใหญ่ตัดสินใจผิด ฮิตเลอร์ก็ไม่ได้ถูกเลือกโดยคนส่วนใหญ่ (http://bit.ly/2fLwNLm) เสียงส่วนใหญ่เป็นความถูกต้องเสมอ (http://bit.ly/2fiJoQB)
. . .3. หาว่าประชาชนคิดไม่เป็น เอารายได้ที่มีมากขึ้นในยุคประชาธิปไตยไปซื้อจักรยานยนต์หรือมือถือ ทั้งที่สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยการผลิต และไม่ใช่ของฟุ่มเฟือยในยุคนี้แล้ว
. . . 4. หาว่าประชาชนถูกซื้อเสียง ทั้งที่ในประเทศที่มีความขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงจนเกิดสงครามกลางเมือง ก็ต้องอาศัยการเลือกตั้งเป็นตัวยุติปัญหากันทั่วโลก
. . . 5. หาว่าประชาชนงมงาย ทั้งที่พวกคุณหญิงคุณนาย นายทุน ขุนศึก ศักดินา ต่างโง่งมไสยศาสตร์จนโงหัวไม่ขึ้น
. . .ในประวัติศาสตร์ พวกเผด็จการทรราชมักใช้ลูกไม้หาว่ามีการโกงการเลือกตั้งจนนำไปสู่การยึดอำนาจ ถ้าอ้างลูกไม้นี้ ป่านนี้คงไม่มีการเลือกตั้งทั้งในอินเดียที่มีคนจนมากมาย อินโดนีเซียที่มีเกาะถึง 17,000 เกาะ ฟิลิปปินส์ที่มีถึง 7,000 เกาะ หรือในอัฟกานิสถานที่มีถิ่นทุรกันดารมากมาย บทเรียน 6 ตุลา ชี้ว่า ประชาชนต้องไม่ยอมตนให้เป็นดั่ง "ทฤษฎีต้มกบ" (the Boiled Frog Theory: http://bit.ly/2xbup7W) อย่าให้ระบอบเผด็จการปลิ้นปล้อนไปวันๆ
. . .เหตุการณ์ 6 ตุลา หรือการฆ่าประชาชนในเหตุการณ์อื่น ก็มักถูกวางโครงเรื่องแบบเดิม ๆ คือพอฆ่าเสร็จ ก็ยัดเยียดว่ามีปืน มีอาวุธ ฆ่าเจ้าหน้าที่ เผาสถานที่ราชการ นี่ชี้ให้เห็นว่าเหล่าเผด็จการทรราชเป็นพวกเดียวกันหมด พวกนี้อาจหลอกคนได้ระยะหนึ่ง แต่ไม่อาจหลอกคนได้ตลอดไป พวกนี้อาจหลอกคนได้จำนวนหนึ่ง แต่ไม่อาจหลอกคนส่วนใหญ่ได้ ประชาชนอันไพศาลไม่ได้โง่ เพียงแต่พวกเขาถูกปิดปากเท่านั้น
. . . เหล่าวีรชน 6 ตุลา ได้ตายไปอย่างยิ่งใหญ่ แต่น่าสังเวชที่เพื่อนผู้ร่วมต่อสู้กันมาจำนวนหนึ่ง กลับยอมศิโรราบต่ออำนาจเผด็จการทรราชด้วยการขายวิญญาณและเลียเท้าเผด็จการ พวกเขาไม่อาจเอาชนะใจประชาชน จึงชมชอบการถูกแต่งตั้ง (แต่เรียกเท่ๆ ว่า "สรรหา") พวกนี้สร้างสถานการณ์สู้อยู่ข้างถนนเพื่อทำลายประชาธิปไตยแล้วได้รับยศศักดิ์ พวกนี้ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ด้อยค่ากว่าผู้ค้าบริการทางเพศที่เพียงใช้เฉพาะร่างกายของตนเองหากิน ไม่ได้ปล้นชิงผู้ใด เราจึงไม่ควรถือเดนคนเหล่านี้เป็นเยี่ยงอย่าง
. . .ในท้ายที่สุดนี้ เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรชน 6 ตุลา พวกเราต้อง
. . .1. น้อมใจค้นคว้าศึกษาสถานการณ์อย่างเป็นจริง ไม่ติดตำรา ไม่เชื่อตามๆ กันโดยไม่ไตร่ตรอง แต่ต้องค้นหาความจริงจากภาคสนาม จากประชาชน
. . . 2. ต้องไม่ยึดติดในชาติวุฒิ วัยวุฒิ คุณวุฒิหรือกระทั่งปัญญาวุฒิ (https://goo.gl/V3kw9Y) ไม่รับซากเดนความคิดศักดินาที่ชอบแบ่งชนชั้น ถือยศศักดิ์ เราต้องเคารพในศักดิ์ศรีของมนุษย์ที่เท่ากัน
. . . 3. ต้องยืนหยัดไม่หวังรวยทางลัด ไม่ยี่หระต่อลาภยศถาบรรดาศักดิ์ที่ระบอบเผด็จการทรราชหยิบยื่นให้จากการปล้นมา
. . . 4. ต้องเคารพและต่อสู้เพื่อประชาชนคนเล็กคนน้อย เพราะประชาชนคือเจ้าของประเทศ ไม่ใช่ผู้อาศัย
. . . 5. ต้องอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตายอย่างมีเกียรติ ไม่เป็นสมุนเผด็จการทรราชที่มักตายอย่างเบาหวิว ไร้ค่าดั่งขนนก
. . . ที่พวกเราไม่ถูกฆ่าในวันที่ 6 ตุลาคม 2519 แล้วได้อยู่ได้อีก 41 ปีมานี้ ก็ถือเป็นกำไรชีวิตแล้ว พวกเราที่อยู่หลังจึงต้องไม่ปล่อยให้เหล่าวีรชนตายไปอย่างสูญเปล่า
. . . ระบอบเผด็จการทรราชที่กัดกร่อนชาติจงพินาศ ประเทศชาติ ประชาธิปไตย และประชาชน จงเจริญ

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.