หอการค้าไทยประเมินภัยแล้งกระทบเศรษฐกิจกว่าแสนล้านบาท
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผล กระทบภัยแล้งต่อเศรษฐกิจไทยว่าจะเสียหายสูงถึง 119,278 ล้านบาท และกระทบจีดีพีราว 0.85% คาดเกษตรกรจะมีหนี้เพิ่มราว 12% หรือมีหนี้สินเฉลี่ยเกิน 160,000 บาทต่อครัวเรือน
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ สำรวจข้อมูลจากภาคธุรกิจ เกษตรกร และหน่วยงานภาครัฐ ระหว่างวันที่ 7-16 มีนาคม ที่ผ่านมา พบว่ามีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเกิดภัยแล้งต่อเนื่องจนถึงเดือนมิถุนายน 2559 ซึ่งจะส่งผลกระทบราว 119,278 ล้านบาท แยกเป็นผลกระทบต่อภาคการเกษตร 77,861 ล้านบาท กับภาคธุรกิจทั้งทางตรงและทางอ้อม 41,416 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ หรือจีดีพี 0.85%
ทั้งนี้ เกษตรกรจะมีต้นทุนในการจัดหาน้ำมากขึ้น ขณะที่รายได้ลดลง ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาสินเชื่อนอกระบบมากขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรจะมีหนี้สินเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อนหรือมีหนี้สินเฉลี่ย 167,452 บาทต่อครัวเรือน ในขณะที่ภาคธุรกิจกังวลว่าหากภัยแล้งกินเวลายาวนานอาจทำให้ภาคธุรกิจประสบปัญหาหนักถึงขึ้นปิดกิจการ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ยังปรับลดการประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจจากที่เคยคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 3-3.5% เป็นมีโอกาสโตต่ำกว่า 3%
ก่อนหน้านี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ปรับลดการประมาณการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะโต 3.5% เหลือ 3.1% และปรับลดการขยายตัวของการส่งออกของไทยปีนี้จากที่คาดว่าจะโต 0% เป็นติดลบ 2%
(ภาพอ่างเก็บน้ำแม่จาง ต.นาสัก อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ถ่ายเมื่อ 14 มี.ค.2559)

แสดงความคิดเห็น

ขับเคลื่อนโดย Blogger.