เปิดตัวเครือข่ายสังเกตการณ ์ประชามติ
องค์กรสังเกตการณ์การเลือกต ั้ง องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและส ันติวิธี รวมถึงสื่อทางเลือก รวมตัวกันเฉพาะกิจในฐานะ “เครือข่ายสังเกตการณ์ประชา มติ” เพื่อทำหน้าที่สอดส่องและเก ็บข้อมูลการลงประชามติร่างร ัฐธรรมนูญ 2559 ซึ่งจะจัดขึ้นทั่วประเทศในว ันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยองค์กรที่เข้าร่วม ได้แก่ เครือข่าย We Watch, สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน , สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติ ศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล, โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎ หมายประชาชน (iLaw), สำนักข่าวไทยพับลิก้า, ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพ ื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ), และสำนักข่าวประชาไท
นายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิมนุษ ยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล หนึ่งในองค์กรเครือข่าย ระบุว่าการลงประชามติครั้งน ี้แตกต่างจากลงประชามติและก ารเลือกตั้งในอดีต เพราะไม่เห็นความพยายามที่จ ะทำให้เกิดการสอดส่องและติด ตามกระบวนการลงประชามติครั้ งนี้ ทั้งที่ปกติควรจะต้องมีองค์ กรติดตาม ทั้งในช่วงก่อนลงประชามติ วันลงประชามติ และหลังประชามติ เพื่อให้เห็นว่าการประชามติ มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้
ด้วยเหตุนี้ ทางเครือข่ายจะร่วมมือกับอา สาสมัครภาคประชาชนที่จะช่วย สังเกตการณ์บรรยากาศการออกเ สียงประชามติ รวมถึงเก็บรวบรวมข้อมูลในพื ้นที่จริง โดยมีเครือข่ายเป็นศูนย์กลา งในการรายงาน ส่วนองค์กรด้านกฎหมายจะมุ่ง เน้นประเด็นเรื่องสิทธิเสรี ภาพในการแสดงความคิดเห็นและ การดำเนินคดีที่เกี่ยวกับกา รปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน ็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เผยว่านับตั้งแต่ต้นปี 2559 เป็นต้นมา มีการสั่งห้ามจัดกิจกรรมแสด งความคิดเห็นอย่างน้อย 25 งาน มีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 20 คน จาก พ.ร.บ.ประชามติ และอาจจะมีผู้ถูกคุมตัวหรือ ถูกนำตัวไปปรับทัศนคติอย่าง เงียบๆ ซึ่งต้องขอให้ประชาชนช่วยกั นจับตาและแจ้งข้อมูลกันเข้า มา
อีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ การเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่จริง หรือคิดไปเอง รวมถึงการจงใจเลือกพูดหรือไ ม่พูดบางประเด็นที่เกี่ยวกั บร่างรัฐธรรมนูญ และอาจก่อให้เกิดความเข้าใจ ผิด ซึ่งหากมีผู้แจ้งข้อมูลเข้า มา ทางไอลอว์ก็จะเปรียบเทียบข้ อมูลที่ถูกเผยแพร่กับข้อควา มในร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม เพื่อตรวจสอบว่าเป็นข้อเท็จ จริงหรือไม่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถาน ะของเครือข่ายที่ไม่ได้รับก ารรับรองอย่างเป็นทางการจาก กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะทำให้อาสาสมัครที่ปฏิบัติ หน้าที่ได้รับผลกระทบหรือเป ็นอันตรายหรือไม่ ทางเครือข่ายระบุว่าสาเหตุท ี่ไม่ได้รับการรับรองสถานะ เป็นเพราะกฎหมายไม่ได้ระบุเ รื่ององค์กรสังเกตการณ์การล งประชามติในครั้งนี้ แต่เครือข่าย We Watch หรือกลุ่มเยาวชนอาสาสมัครสั งเกตการณ์การเลือกตั้ง ได้ติดต่อกับ กกต.มาตั้งแต่ต้น และ กกต.รับทราบถึงการดำเนินกิจ กรรมของเครือข่ายโดยไม่ได้ข ัดขวางแต่อย่างใด
ส่วนรูปแบบการเก็บข้อมูลจะเ ป็นการสังเกตการณ์ในฐานะบุค คลภายนอก ไม่ได้ประจำอยู่ในคูหาลงคะแ นนตลอดกระบวนการเหมือนผู้สั งเกตการณ์ที่ได้รับการรับรอ ง แต่ถือว่าสอดคล้องกับการทำห น้าที่ของอาสาสมัคร ซึ่งอาจจะเป็นผู้มาใช้สิทธิ ์ลงประชามติ และทำหน้าที่สังเกตการณ์ไปด ้วย ขณะที่เครือข่ายจะจัดทำคู่ม ือสังเกตการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของอ าสาสมัครเป็นหลัก
องค์กรสังเกตการณ์การเลือกต
นายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช ผู้อำนวยการสถาบันสิทธิมนุษ
ด้วยเหตุนี้ ทางเครือข่ายจะร่วมมือกับอา
นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน
อีกประเด็นที่ต้องติดตามคือ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงสถาน
ส่วนรูปแบบการเก็บข้อมูลจะเ
แสดงความคิดเห็น