คุยเรื่อง พ.ร.บ.สื่อนี่ละ แต่ยืมปู่มีชัยมาเผาหัว 555
Atukkit Sawangsuk
คุยเรื่อง พ.ร.บ.สื่อนี่ละ แต่ยืมปู่มีชัยมาเผาหัว 555 มีชัยแนะนำให้สื่อควบคุมกันเอง ลืมไป ว่าตัวเองเป็นประธาน SLC ที่กำลังพิพาทกับเนชั่น ก็นั่นไงตัวอย่าง สื่อเป็นธุรกิจที่ต้องแข่งขันกัน คุณจะให้ใครมาคุมใคร ขนาดสื่อหนังสือพิมพ์ ทีวี ก็ยังเห้นสื่อออนไลน์เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว นี่ยังไม่นับเรื่องสื่อเลือกข้างทางการเมือง จะเอาเสียงข้างมากมาคุมเสียงข้างน้อยไม่ได้ เพราะสื่อเป็นกลไกเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งต้องมีหลักประกันเสรีภาพเสียงข้างน้อย
ปัญหาก็คือ ทั้ง พ.ร.บ.สื่อฉบับ สปท.และขององค์กรสื่อเอง ล้วนงี่เง่า สปท.จะให้มีกรรมการสภาวิชาชีพ 13 คน รัฐตั้ง 8 คน ปลัดสำนักนายกฯ ปลัดกระทรวงดิจิทัล ปลัดวัฒนธรรม ปลัดคลัง มาทำไมวะ แถมให้อำนาจออก-เพิกถอนใบอนุญาตสื่อ (ไม่มีใบอนุญาตห้ามแสดงความคิดเห็น? แล้วเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนี่มันเป็นของประชาชนไม่ใช่เรอะ)
ส่วนขององค์กรสื่อ เบากว่าหน่อย มีอำนาจลงโทษทางแพ่ง และสอบสวน ถ้าไม่ยอมรับ ก็แถลงประจาน มีกรรมการ 13 คน จากไทยพีบีเอส 1 คน จากองค์กรสื่อ 8 คน (แบ่งยุติธรรมมาก นสพ.ได้ 3 วิทยุทีวีได้ 3 ออนไลน์ได้แค่ 2) ผู้ทรงคุณวุฒิ 4 คน แต่กรรมการสรรหาแม่-ตลก ตัวอย่างเช่น ประธานที่ประชุมอธิการบดี (มึงเป็นใครวะ มาอยู่เหนือสื่อได้ไง) นายกสภาทนายความ (อ้าว แล้วสื่อเลือกสภาทนายได้ไหม) ประธาน กป.อพช. (เฮ้ยเกี่ยวไรกับบรรจง นะแส) ประธานสภาพัฒนาการเมือง (คสช.ยุบไปแล้ว)
ที่แย่เหมือนกันอีกอย่างคือ จะให้ตั้งคล้ายๆองค์กรอิสระ มาดูแลสื่อ สนับสนุน อบรม ดูงาน ฯลฯ โดยแบ่งตังค์มาจากภาษีบาปไทยพีบีเอส ร่าง สปท.จะเอาไม่ต่ำกว่า 50 ล้านต่อปี ร่างองค์กรสื่อมักน้อยขอแค่ไม่เกิน 30 ล้านต่อปี บร๊ะเจ้า นี่กะตั้งองค์กรทำมาหากินกันเลยหรือ ร่าง สปท.มีเลขาธิการ ร่างองค์กรสื่อมีผู้อำนวยการ ทั้งสองแบบมีสำนักงานมีพนักงาน คอยดูเหอะ เงินเดือนคงเป็นแสน ทั้งกรรมการทั้งเลขาธิการหรือผู้อำนวยการ (ซึ่งคงจะมีเลขาที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ) แล้วใครเอ่ยจะมานั่ง นึกเห็นหน้าภัทระ คำพิทักษ์, ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์, ประสงค์, ชวรงค์ อะไรแถวนี้ละ 555
ร่าง พ.ร.บ.ขององค์กรวิชาชีพสื่อดูได้ที่นี่นะครับ
http://www.tja.or.th/index.php…
แสดงความคิดเห็น